Call of Duty: Warzone แตกต่างจาก Battle Royale เกมอื่นยังไงบ้าง

แชร์เรื่องนี้:
Call of Duty: Warzone แตกต่างจาก Battle Royale เกมอื่นยังไงบ้าง

Call of Duty: Warzone แตกต่างจาก Battle Royale เกมอื่นยังไงบ้าง

     เปิดให้เล่นฟรีกันแล้วสำหรับ Call of Duty: Warzone เป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่มีรูปแบบแปลกใหม่มากมายพร้อมกับการรองรับผู้เล่นสูงสุดถึง 150 คน ต่อห้อง ในช่วงที่กระแส Battle Royale เริ่มซบเซาลง แต่ทาง Call of Duty ก็ได้เปิดตัวโหมดนี้มาแบบไม่ทันตั้งตัวกันเลย งานนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า Call of Duty: Warzone นั้น แตกต่างและเหมือนกับเกม Battle Royale ในจุดไหนบ้าง

Battle Royale


บังคับเล่นแบบทีม 3 เท่านั้น

Call of Duty

     ตรงจุดนี้จะเหมือนกับเกม Apex Legends ที่ตัวเกมจะมีแต่โหมดทีม 3 คน เท่านั้น แต่ที่แตกต่างก็คือภายในเกมจะมีผู้เล่นสูงสุดถึง 150 คนด้วยกัน 

Battle Royale

สามารถกดเข้าแบบคนเดียวไม่สุ่มปาร์ตี้ได้ แต่ก็จะเจอปาร์ตี้ 3 คนอยู่ดี


ระบบชุบตัวเองหลังจากตายด้วยการ 1-1 ใน Gulag

Battle Royale

     หากเราตายครั้งแรก (หลังจากล้มแล้วโดนซ้ำ) ตัวเราจะถูกส่งไปที่ Gulag ที่เราจะได้ 1-1 กับศัตรู ซึ่งถ้าหากชนะได้ก็จะถูกส่งกลับมาในเกมอีกครั้ง ต่อให้ตายหมดทั้งทีมเราก็จะถูกส่งมาที่ Gulag กันหมดเช่นกัน แต่ Gulag จะลงได้ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งหากจะชุบเพื่อนที่ตายหลังจากนั้นต้องไปซื้อได้ที่ร้านค้าภายในเกม

Battle Royale

ในระหว่างที่อยู่ใน Gulag เราจะได้ดูคู่อื่นเล่นกันด้วย และสามารถปาหินป่วนได้เช่นกัน (ถ้าทีมเราเล่นอยู่ก็บอกตำแหน่งได้)

Battle Royale

หากชนะก็จะได้โอกาสกลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง แต่ถ้าแพ้ก็จบทันที


มีการเก็บเงินเพื่อซื้อของภายในเกม

Battle Royale

     ในจุดนี้ระบบจะคล้ายๆ กับ Battle Royale ของ CS:GO ซึ่งเราสามารถเก็บเงินได้จากพื้นหรือการทำภารกิจที่อยู่ภายในฉาก ซึ่งในร้านค้านี้ก็จะมีของสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะหรือกระสุน และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้เรายังสามารถชุบเพื่อนของเราที่ตายไปแล้วจากฐานนี้ได้ด้วย (ใช้เงิน 4,500 ต่อคน)

Battle Royale

สามารถซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงชุบเพื่อนได้ด้วย


ระบบเกราะและปืนที่ไม่วุ่นวาย

Battle Royale

     ระบบเกราะของ Call of Duty: Warzone และปืน นั้นจะคล้ายคลึงกับ Battlefield Firestorm โดยชุดเกราะของเราจะสามารถเติมแผ่นกันกระสุนได้เรื่อยๆ (ยกเว้นของ CoD เริ่มเกมมีจะมีเกราะให้แต่แรกและจะใส่ได้สูงสุด 3 แผ่น ส่วนของ Battlefield จะคล้ายกับ Apex Legends คือต้องเก็บเกราะมาก่อนแต่สามารถเติมเกราะทีหลังได้) ในส่วนของเรื่องปืนก็จะเป็นใช้ระดับความแรร์แทน ซึ่งยิ่งปืนแรร์สูงก็จะมีอุปกรณ์ติดตั้งให้เช่น Scope เป็นต้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหา Mod ติดตั้งปืนมากวนใจ

Battle Royale

ปืน Rare สูงก็จะมีอุปกรณ์ติดให้แบบครบครัน หรือปืนหายากกว่าปกติเป็นต้น


Air Drop เป็น Loadouts ที่ตั้งได้เอง

Call of Duty

     ตรงจุดนี้แม้จะเป็นระบบที่แปลกใหม่ แต่ก็เป็นส่วนที่เหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นเก่าและใหม่มาก โดย Air Drop ภายในเกมนี้จะไม่ใช่ของเทพตามฉากที่ทุกคนเห็นเหมือนกัน แต่จะเป็นจุดให้เลือก Loadouts ที่เรามีอยู่ในตัวขึ้นอยู่กับระดับเลเวลของปืนที่เราแต่งนี่เอง ซึ่งตรงจุดนี้มันรวมเข้ากับ Loadouts ของตัวเกมปกติด้วย ทำให้คนที่เล่น Call of Duty: Modern Warfare มาก่อนจะได้เปรียบมากกว่าผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเล่นใน Warzone นี่เอง

Call of Duty

สามารถแต่ง Loadouts ปืนที่เราชอบได้


     โดยรวมนั้น Call of Duty: Warzone ทำออกมาได้เรียบง่ายและเข้าใจง่าย แม้คนที่ไม่เคยเล่น Call of Duty: Modern Warfare มาก่อนก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากมากนัก (ยกเว้นในเรื่องการทำงานอุปกรณ์บางชิ้น) อีกทั้งยังเปิดตัวมาเป็นเกมฟรีแบบนี้ งานนี้ใครสนใจ Battle Royale ตัวใหม่จากเกมเดินยอดฮิต ก็สามารถมาลองโหลดเล่นกันได้บน Battle.net เลยนะครับ

True Super Fiber Gamer Pro Pack

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ