ครบรอบ 7 ปี Crysis 3 อีกหนึ่งเกม FPS ชิ้นโบว์แดงที่ควรมีอยู่ในคลังเกมของคุณ
Crysis ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกมแนว FPS ในระดับตำนาน ตัวเกมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ที่หาเกมอื่นๆ เรียนแบบได้ยาก) นั่นก็คือ เกมเพลย์ที่อิสระ วิธีการเล่นที่หลากหลาย ความสามารถของชุดนาโนสูทที่ขับเคลื่อนให้เกมเพลย์น่าเล่น เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ กราฟิกสุดอลังการและโหมดผู้เล่นหลายคนที่สุดมันส์ และในวาระที่ตัวเกม Crysis 3 ครบรอบ 7 ปี ทางทีมงาน Online Station จึงอยากจะขอปัดฝุ่นรีวิวเกมนี้กันอีกครั้งครับ
รูปแบบการเล่นที่มีเอกลักษณ์ พร้อมแฝงไว้ด้วยความลุ่มลึก
รูปแบบการเล่นโดยรวมของเกมยังคงเปิดกว้างให้ผู้เล่นได้คิดหรือเลือกเส้นทางการเล่นได้อย่างอิสระ (ซึ่งตัวเกมจะมีทางเลือกให้มาประมาณ 2-3 เส้นทาง ขึ้นอยู่กับการเล่นของคุณ) พร้อมภารกิจหลักและภารกิจรองให้ผู้เล่นได้เลือกตามความชอบ คุณสามารถเลือกรูปแบบการเล่นได้อย่างอิสระ อยากบุก ตะลุย เน้นประทะหรือเลือกที่จะลอบเร้นเป็นนักล่าก็ทำได้
ส่วนภูมิประเทศในภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คุณจะได้เห็นสภาพเมืองนิวยอร์คที่เต็มไปด้วยป่าผสมเมือง กล่าวคือมันเป็นการผสมผสานระหว่างเมืองแห่งคอนกรีตและป่าดงดิบได้อย่างลงตัว ทุกรายละเอียดถูกรังสรรค์ได้อย่างกลมกลืน อันนี้ต้องยกความดี ความชอบให้กับฝ่ายดีไซต์สภาพแวดล้อมของ Crytek ไปแบบเต็มๆ
ระบบการแฮ็ค ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยเพิ่มสีสันให้เกมเพลย์ในภาคนี้ได้อย่างมาก เช่น การแฮ็คระบบป้องกัน, คอมพิวเตอร์, กับระเบิด, อาวุธพิเศษและสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือการเจาะระบบป้อมปืน เพื่อให้มันช่วยยิงศัตรูที่อยู่รอบข้าง สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันช่วยเพิ่มความลุ่มลึกในการเล่นได้เป็นอย่างดี
ส่วนการอัพสกิลความสามารถจะแบ่งออกเป็นสามสาย ได้แก่ Armor, Stealth, Power ซึ่งการอัพสกิลเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน เช่น ต้องการบุก ลุยแบบไม่ไว้หน้าใคร แนะนำให้เลือกสาย Armor หรือ Power แต่ถ้าหากต้องการเน้นการเล่นแบบรอบเล้น พรางตัวเป็นนักล่าก็ให้อัพสาย Stealth จะช่วยได้มากทีเดียว การอัพสกิลถือว่าช่วยเพิ่มมิติการเล่นได้ดี
อาวุธในภาคนี้ถือว่ามีความหลากหลายมาก (แม้ว่าจะมีปืนบางชนิดที่ซ้ำเดิมบางก็ตาม) ความหลากหลายที่ผมพูดถึงคือ ในภาคนี้ คุณสามารถใช้อาวุธของเหล่าเอเลี่ยนนอกโลกได้ด้วย มันช่วยให้เกมเพลย์น่าสนใจขึ้นกว่าเดิม และอาวุธที่ผมชอบที่สุดคงหนีไม่พ้น “ธนู” ที่มันช่วยเพิ่มมิติในการเล่น ยิ่งคุณอยู่ในโหมดล่องหนด้วยแล้วจะพบว่า “นี่มันนักล่าในป่าคอนกรีตดีๆ นี่เอง” นอกจากนี้คุณจะได้ใช้อาวุธของเหล่าเอเลี่ยนได้อีกด้วย
สุดยอดความอลังการด้วย CryEngine 3
ด้วย CryEngine 3 ทำให้กราฟิกภายในเกมนี้ดูสมจริงเอามากๆ คุณจะได้เห็นสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบในเมืองนิวยอร์คที่อลังการ ฉากคัทซีนที่ทำได้เนียน ภาพการต่อสู้ที่เสมือนได้อยู่ในสมรภูมิรบจริงๆ ความลึกของแสงเงา ความพริ้วไหวของสายน้ำ การปะทะกับเหล่าเอเลี่ยน และที่ผมประทับใจที่สุดคงหนีไม่พ้นฉากสุดท้ายที่ต้องปะทะกับ เจ้า Alpha Ceph และฉากที่อยู่ในห้วงอวกาศ ขอบอกว่ามันอลังการมากจริงๆ เคยมีคนบอกว่า “ไอ้ฉากที่สามารถพังได้หรือเมื่อยิงไปที่ต้นไม้แล้วหักโค่นลงมา มันจะมันส์ตรงไหน” แต่สำหรับผมคิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้แหละ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เกมดูสมจริงและเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ในเรื่องของเสียงประกอบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยให้เกมนี้มีความครบเครื่องมากยิ่งขึ้น เสียงระเบิดตูมตาม เสียงลูกกระสุนที่ปลิวว่อนในสนามรบ รวมถึงเสียงพากษ์ของตัวละครที่ทำให้เข้าถึงเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี เรียกว่าดึงให้ผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมด้วยก็คงไม่ผิดนัก นับว่าเสียงประกอบภายในภาคนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผมชอบไม่แพ้ในเรื่องของเกมเพลย์หรือกราฟิกเลย
โหมดมัลติเพลเยอร์
อีกหนึ่งจุดเด่นของเกมคงหนีไม่พ้นโหมดผู้เล่นหลายคนที่ทำเอาผมติดหนึบอยู่หน้าคอมพ์เกือบทั้งวัน ด้วยโหมดใหม่อย่าง Hunter ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า หากเลือกเป็น “ผู้ล่า” คุณจะอยู่ในชุดนาโนสูทที่มีความพิเศษกว่าปกติ คือสามารถอยู่ในโหมดพลางตัวโดยพลังงานไม่ลด เพื่อออกตามล่าหน่วยทหารฝ่าย CELL (ผู้เล่นอีกกลุ่มหนึ่ง) ให้ได้ตามกำหนดเวลา
หากเลือกที่จะเป็น “ผู้ถูกล่า” คุณก็จะได้สวบบทเป็นทหารฝ่าย CELL ที่จำเป็นต้องเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่าของผู้ล่าหรือ Hunter ตามกำหนดเวลา เรียกว่าเป็นการเล่นที่ท้าทายทั้งสองแบบ ส่วนอีกโหมดหนึ่งที่ผมชอบไม่แพ้กันคือ โหมด Clash Side (โหมดเก่าใน Crysis 2) ที่ยังคงสนุกอยู่เหมือนเดิม แถมยังมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม สร้างสีสันในการเล่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีโหมด Spears, Deathmatch, Team Deathmatch และอื่นๆ ที่ยังคงเล่นได้สนุกเหมือนเดิม
ข้อติติง เล็กๆ
คงเป็นเนื้อหาเกมที่ค่อนข้างสั้นเล่นประมาณ 5-6 ชั่วโมงก็จบ เนื้อหาบางช่วงสามารถทำเป็นระบบควิกไทม์อีเวนท์ได้ เพื่อให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมไปกับเกมมากกว่านี้ เพราะบางช่วงเหมือนใส่สคริปมากเกินไป เช่น ในเหตุการณ์ที่ Phophet ระเบิดเขื่อน และคัทซีนอื่นๆ
บทสรุปส่งท้าย
หลังจากเอาข้อดีเป็นตัวตั้ง ลบออกด้วยข้อเสียที่พบเจอภายในเกม ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคงบอกได้แต่เพียงว่า Crysis 3 มันยังคงเป็นเกมที่คอ FPS ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื่องด้วยข้อดีต่างๆ ที่ผมกล่าวมาในข้างต้น (ถึงจะมีข้อติติงบ้างเล็กๆ น้อยๆ ตามที) ยิ่งคุณเคยเล่นเกมนี้มาทั้งสองภาคแล้ว ภาคนี้ก็ไม่ควรที่จะมองข้าม รับรองว่าคุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่เสียไปแน่นอนครับ
คะแนน 8.9
ข้อดี: เกมเพลย์ที่มีเอกลักษณ์, กราฟิกอลังการ และเสียงประกอบที่สมจริง, โหมดผู้เล่นหลายคนที่ทำให้ใครหลายๆ คนติดหนึบ
ข้อเสีย: เนื้อหาค่อนข้างสั้น ทำให้คนที่ซื้อเกมมาเพื่อเสพในโหมดผูเล่นเดียวอาจจะไม่คุ้มค่านัก, เซิร์ฟเวอร์ล่มเป็นบางช่วง
โดยรวม: เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ควรสะสมไว้บนชั้นวางเกมของคุณครับ