ในปัจจุบันเรามักได้ยินเรื่องราวหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับประเด็นของ “การโทษเกม” สืบเนื่องจากที่ผ่านมาทางสื่อหลายสำนักได้ทำการพาดหัวข่าวหลายๆ เรื่อง โดยมีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับเกมในเชิงลบจนทำให้ภาพพจน์ของการเล่นเกมถูกตกเป็น “จำเลยสังคม”
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งประเด็นนี้ก็ได้เป็นที่ถงเถียงกันในวงกว้างเป็นอย่างมากในหมู่คนเล่นเกมและคนที่ไม่เคยสัมผัสกับคำว่าเกม โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใดบ้างนั้น ในวันนี้ทางทีมงาน Online Station ก็จะวิเคราะห์และหาคำตอบไปพร้อมๆ กันครับ
1. การขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเกม
“เมื่อยามที่คนเราขาดความรู้ เราก็จะขาดความเข้าใจ”
ในสังคมของประเทศไทยเรานั้นยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ไม่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเกมอย่างถ่องแท้ โดยปกติแล้วถ้าหากเราเล่นเกมและมองให้ลึกลงไปถึงประโยชน์ของเกมเราก็จะสามารถรับรู้ได้ถึงข้อดี ข้อเสีย และประโยชน์ของเกมแต่ละเกมที่มอบให้กับผู้เล่น แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เกมนำเสนอออกมาก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนมองเกมในแง่ดีเสมอไป สืบเนื่องจากหลายๆ เกมเองได้มีการนำเสนอภาพความรุนแรงให้กับผู้ที่เล่นและไม่ได้เล่นเห็น
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอของสื่อหลายสำนักและผู้คนที่ได้นำเสนอด้านลบเกี่ยวกับเกมและด้วยองค์ประกอบเหล่านี้เองจึงทำให้หลายต่อหลายคนรีบด่วนตัดสินว่าเกมเป็นสิ่งที่ไม่ดีและเป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม
2. อิทธิพลของสื่อ โซลเชียลมีเดียและผู้คน
ในปัจจุบันสื่อและโซลเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อผู้คนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เกมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นก็จะมีสื่อหลายๆ สำนักได้ทำการพาดหัวข่าวเกี่ยวกับเกมในเชิงลบทั้งจริงบ้างเท็จบ้าง
และถ้าหากยิ่งมีสื่อหลายๆ สำนักหรือหลายต่อหลายคนพูดในเชิงลบเกี่ยวกับเกมในทิศทางเดียวกันมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ผู้ใช้งานหลายคนต่างพากันเชื่อและรีบด่วนตัดสินโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะตีความเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเชื่อในด้านลบเกี่ยวกับเกมที่สื่อหรือผู้คนได้ทำการเผยแพร่ออกมาในวงกว้าง
3. การที่ไม่เปิดรับหลายๆ มุมมองที่มีต่อเกมและเบื้องลึกของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การที่คนเรานั่นจะสามารถเข้าใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นั้นจำเป็นที่จะต้องรับรู้และเปิดรับมุมมองหลายมุมมองที่เกี่ยวกับสิ่งๆ นั้น ซึ่งอุปสรรคที่ส่งผลให้หลายๆ คนไม่เปิดรับมุมมองและความรู้ นั่นก็คือ “การยึดติด” ถ้าหากว่าเรานั่นยึดติดกับสิ่งที่เราเชื่อมากเกินไปจนไม่เปิดรับมุมมองที่สำคัญและจำเป็นต่อการประกอบการตัดสินใจ เราก็จะไม่สามารถที่จะรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังของสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถ่องแท้
ยิ่งเรายึดติดและยิ่งยึดมั่นเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อมากจนเกินไปและไม่ยอมที่จะเปิดรับความรู้และมุมมองใหม่ๆ เราก็จะยิ่งปิดกั้นมันมากขึ้นเท่านั้น ในท้ายสุดท้ายแล้วเราก็จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ตนเองเชื่อมันเป็นอย่างที่ตัวเราคิดจริงรึป่าวเพราะสิ่งที่เราเชื่อมั่นมาโดยตลอดมันอาจจะเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่เป็นความจริงก็เป็นไปได้
4. ไม่รู้จะโทษใครก็โทษเกมซะงั้น?
เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือทางสื่อโซเชียล มีเดีย ประมาณว่า ขโมยรถ หรือขโมยสิ่งของมีค่า เพราะทำตามอย่างจากเกมนั้น เกมนี้ ซึ่งเมื่อคนที่ไม่ได้เล่นเกมก็จะมองว่าเจ้าเกมที่ว่านั้น มันต้องไม่ดีแน่นอน! และต่างรุมประณามหยามเหยียดว่าอย่าไปเล่นเกมๆ นี้เด็ดขาด บางรายถึงกับว่ากล่าวถึงขั้นว่าวงการเกมไม่ดี อย่างงั้น อย่างงี้ มอมเมาเยาวชน บลาๆ (อย่าลืมว่าในปัจจุบันวงการเกมหรือ E-Sports ในบ้านเราไปไกลแค่ไหนแล้ว)
แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ทำไมเราไม่ไป “ดูที่ต้นเหตุ” ซึ่งถ้าเราลองเปิดใจกว้างๆ จะพบว่าสาเหตุที่คนเหล่านั้นทำพฤติกรรมผิดกฏหมาย และมักป้ายความผิดให้กับเกม มันขึ้นอยู่กับนิสัยที่ยากเกินจะแก้ไข (สันดาน) ของคนๆ นั้นใช่หรือป่าว? หรือว่าทำผิดแล้ว ไม่รู้จะโทษใครก็โทษเกมซะงั้น?
"ถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย ว่าไหมละครับ? "
จากทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปข้างต้นก็คือข้อมูลที่ทางทีมงาน Online Station เราได้ทำการรวบรวมมาให้ทุกคนได้ทราบกันครับ ถ้าหากว่ามีข้อมูลตกหล่นหรือผิดพลาดประการใดก็ของอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ส่วนเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยครับ
และก่อนจากกันทางเราก็อยากจะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีด้านดีและด้านไม่ดี มีขาวก็ต้องมีดำและการศึกษาหาข้อมูลให้ดีคือสิ่งที่ทุกคนควรจะทำก่อนที่จะทำการตัดสินใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะว่า “ความรู้คือสิ่งที่ทำให้เราจำและการกระทำจะนำเราไปสู่คำตอบที่แท้จริง” ขอบคุณครับ
อัปเดตบทความจากของเดิม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2019
ติดตามข่าวเกมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station