7 สิ่งที่น่าสนใจหลังทดลองเล่นเดโม The Last of Us Part 2 รอบพิเศษ
The Last of Us Part 2 เกมภาคต่อที่มีแฟนๆ อยากเล่นมากที่สุดในช่วงเวลานี้ หลังเปิดตัวเทรลเลอร์ใหม่ พร้อมเรื่องราวที่เปิดเผยมากยิ่งขึ้นหลังจากจบภาคแรกไปแบบค้างคาหลายอย่าง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ปี จากภาคแรก เอลลี่ โตเป็นสาววัย 19 ปีอย่างเต็มตัวพร้อมกับเรื่องราวที่น่าติดตามมากยิ่งขึ้น
สิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาคแรกมีด้วยกันอยู่หลายสิ่ง เราจะจับมาแยก 7 ประเด็นให้แฟนๆ ได้รู้กันหลังจากที่สอบถามสื่อต่างประเทศที่ได้ทดลองเล่นเดโม The Last of Us Part 2 จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกัน
AI ที่เปลี่ยนไป
AI ศัตรูไม่เพียงแค่ฉลาดกว่าเดิม แต่ยังดูเหมือน "มนุษย์จริงๆ" มากยิ่งขึ้น เวลาพวกมันเห็นเอลลี่ มันจะสื่อสารระหว่างกันโดยการเรียกชื่อเพื่อน ตามด้วยประโยคที่เหมือนคนจริงๆ พูดกัน เช่น "เจสซี่ นังนั่นมันหลบเข้าไปในบ้านหลังนั้นแล้ว" หรือ "ไอแวน พีท เคธี่ มันอยู่ในตรอกนั้น รีบไปล้อมมันเร็ว" หรือถ้ามันเห็นเราฆ่าเพื่อนมันไปสักคน จากนั้นก็ตามมายิงเราโดน ก็จะพูดแนวๆ "นัดเมื่อกี้สำหรับไรอัน (ชื่อเพื่อนที่ตาย) เว้ย"
การทำเช่นนี้ มันเลยทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้ว่าพวกศัตรูในเกมมันไม่ใช่แค่ AI ที่ถูกเขียนโปรแกรมมาเพื่อไล่ฆ่าเรา แต่กลับทำให้เราเชื่อได้ว่าพวกมันก็คือกลุ่มสังคมนึง ที่มีความสัมพันธ์ในกลุ่มของพวกมัน ที่ต่างฝ่ายก็ต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเช่นกัน
ศัตรูใหม่ที่จะต้องเจอ
ศัตรูใหม่ที่ปรากฏในเดโมจะมีหลักๆ สองชนิด ตัวแรกคือ หมา (Dog) ที่สามารถแกะรอยเราด้วยการดมกลิ่น มันจะมีรัศมีในการดมอยู่ ซึ่งเวลาเราอยู่ในโหมดฟังเสียง เราจะเห็นรอยกลิ่นของตัวเราเองเป็นเส้นสีขาวๆ ลากยาวมาถึงจุดที่เราอยู่ ถ้าหมาเดินมาเจอเส้นที่ว่านี้ มันจะแกะรอยมาถึงเราได้โคตรเร็ว แต่รอยกลิ่นจะหายไปได้เองตามระยะเวลา
ส่วนตัวที่สองคือ Shambler เป็นอีกสายพันธุ์ของ Bloater ในภาคแรก มันจะมีรูปแบบการโจมตีด้วยการวิ่งมาพ่นสปอร์รอบตัวใส่เรา แต่จะมีความอึดไม่เท่า (ตายง่ายกว่า) พ่วงลูกเล่นอีกอย่างคือเวลามันตาย ร่างจะระเบิดเป็นสปอร์ฟุ้งกระจายทั่วบริเวณนั้น ถ้าโดนก็เสียพลัง
พฤติกรรมของศัตรู
ศัตรูจะไม่มีเส้นทางในการเดินสำรวจที่ตายตัวเหมือนเกมลอบเร้นทั่วไป และมันจะค่อนข้างเดินครอบคลุมแผนที่บริเวณนั้นๆ จึงไม่มีทางที่เราจะนั่งแอบอยู่ที่ใดที่หนึ่งได้ตลอด ต่อให้เราแอบ ในจุดอับของฉาก ที่สุดแล้วก็จะมีศัตรูผ่านมาและชะโงกดูอยู่ดี รวมถึงหมาที่แกะรอยเก่งกว่าคนหลายเท่าด้วย
ความสามารถของ เอลลี่
ด้วยความที่เอลลี่เป็นผู้หญิงและตัวเล็กกว่าโจล สิ่งที่เอลลี่จะเสียเปรียบโจลก็คือหลายๆ ครั้งศัตรูที่เป็นผู้ชายจะบล็อคการโจมตีของเอลลี่ได้หากพุ่งเข้าไปปะทะกับมันตรงๆ แต่เอลลี่จะได้เปรียบกว่าโจลตอนลอบฆ่า เพราะนางจะมีมีดประจำตัวที่ควักมาแทงคอได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปสร้าง Shiv ใช้เหมือนภาคแรกแล้ว
อนิเมชั่นภายในเกม
อนิเมชั่นตอนอัพเกรดปืน ทำมาได้สมจริง ถ้าเลือกอัพเกรดการยิงต่อเนื่องของปืนพก เอลลี่จะหยิบปืนขึ้นมาถอดลำกล้องแล้วใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด เปลี่ยนสปริง ปรับเข็มแทงชนวน ฯลฯ เหมือนการแต่งปืนในโลกความเป็นจริงเลย
ลูกเล่นใหม่
ภาคนี้เอลลี่จะคลานได้ ข้อดีคือสามารถเคลื่อนที่ระหว่างหลบใต้พงหญ้าที่ไม่สูงมาก และไม่ทิ้งรอยเท้า แต่ข้อเสียคือสปีดในการคลานมันย่อมช้ากว่าการย่อง
สกิล
การอัพสกิลในภาคนี้ เราต้องไปเก็บนิตยสารที่ตกอยู่ตามทางมาก่อน แต่ละเล่มจะปลดล็อคสกิลที่ให้อัพไม่เหมือนกัน ถ้าไม่เก็บมาสักเล่มเลยก็จะมีให้เลือกอัพน้อยมาก และสกิลภาคนี้จะแบ่งเป็นสายให้เลือกอัพ (ให้นึกถึงเกมสไปดี้ไว้) ว่าเราจะเลือกเน้นอัพสายไหนก่อนที่เหมาะกับสไตล์ลุยของเรา ถ้าสายคอมแบตก็จะมีสกิลแนวๆ เป้าเล็งนิ่งขึ้น คราฟต์อาวุธเร็วขึ้น หรือถ้าสายลอบเร้นก็จะมีสกิลประเภท ย่องแล้วมีเสียงน้อยลง รอยกลิ่นตัวเราจางไวขึ้น อะไรประมาณนี้