รีวิว Call of Duty : Modern Warfare Beta หลังเปิดทดสอบ Beta แบบ Cross-Platform ไม่จำกัดผู้เล่น
หลังจากที่ Activision ได้เปิดให้ทดสอบ Beta แบบ Cross-Platform แบบไม่จำกัดผู้เล่นที่ผ่านมา สำหรับ Call of Duty Modern Warfare ภาคใหม่ ใครหลายคนก็คงได้เข้าไปลองทดสอบมากันไม่มากก็น้อย ซึ่งตัวผู้เขียนเองได้เข้าไปทดสอบตั้งแต่วันแรกที่เปิด จึงกลั่นออกมาเป็นรีวิวนี้ ลองอ่านกันดูครับ
Gameplay
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Call of Duty เป็นเกมที่มี Gameplay ค่อนข้างเร็วถ้าหากเทียบกับเกมประเภทเดียวกันเกมอื่น ดังนั้นถ้าหากใครมีปัญหากับอาการ Motion Sickness ก็คงจะไม่ไหวกับเกมนี้ หรือถ้าหากใครไม่ได้มีอาการ แต่ไม่ค่อยคุ้นชินกับความไวของ Call of Duty มาก่อน ก็อาจจะต้องปรับตัวมากเสียหน่อย เพราะตัวเกมไม่ได้เน้นความ Tactical เสียเท่าไหร่ จะเน้นที่การตอบสนองที่ฉับไวเสียมากกว่า
เกมเพลย์ของภาค Reboot นี้โดยรวมแล้วทำออกมาได้ดี การใช้ปืนทุกกระบอก อุปกรณ์ทุกชิ้นมีความสะใจพร้อมกับเสียงที่ค่อนข้างสมจริง รู้สึกได้ว่าปืนที่ใช้คือปืนในยุคนี้จริงๆ ลั่นกระสุนแล้วสะใจ มีความรู้สึกว่าไม่ใช่ปืนเลเซอร์ล้ำยุคหรือกระสุนไม่มีน้ำหนักและแรงถีบ พูดง่ายๆ ก็คือ Gunplay หรือการยิงปืนในภาคนี้จะใช้ระบบ Bullet Drop หรือ Projectile แทน Hit-Scan แบบ Modern Warfare ภาคเก่าๆ ที่ผ่านมา ดังนั้นถ้าหากคุณเล่น Blackout หรือโหมด Battle Royale ของ Black Ops 4 มาก็คงปรับตัวได้ไม่ยากกับวิถีกระสุนแบบนี้ ซึ่งจากการที่ผู้เขียนได้เข้าไปทดสอบจนทะลุปรุโปร่งกับปืนแทบทุกกระบอกแล้วก็พบว่า มันไม่ได้ปรับตัวยากขนาดนั้น และด้วยความที่มันไม่ใช่ปืนยุคสงครามโลกแต่เป็นสมัยใหม่ ดังนั้นการเล็งเผื่อจึงถือว่ามีความจำเป็นเพียงน้อยนิด ถ้าหากเทียบกับการจำฉาก มุมหลบต่างๆ หรือการตอบสนองที่รวดเร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการเล่น Call of Duty มาแทบทุกภาค
ส่วนเรื่องของ Perk และระบบต่างๆ ที่เคยมีมาในภาคก่อน ภาคนี้ก็ยังมีเช่นกัน โดยตัว Perk นั้นจะมีให้เลือก 3 แบบสำหรับตัวละครผู้เล่น และอีก 1 อย่างสำหรับอาวุธปืน ซึ่งการปรับแต่งปืนในภาคนี้ก็แต่งได้หลากหลาย โดยมีให้เลือกสูงสุดถึง 5 ช่อง(รวม Perk ด้วย) และแน่นอนว่า Killstreaks ที่ทำให้เราปลดการช่วยเหลือต่างๆ มาใช้ได้ก็ยังคงมี ไม่ว่าจะเป็น UAV, Cruise Missile หรือ Juggernaut ก็ยังมีให้ใช้อยู่ โดยขึ้นอยู่กับการเลือกมาของผู้เล่น
โหมดต่างๆ ที่เราเคยเล่นมา ก็ถูกยัดเข้ามาในเกมอยู่อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Team Deathmatch และอื่นๆ ที่ยังไม่มีคือ Battle Royale ซึ่งภาคนี้อย่างที่ได้กล่าวไปช่วงแรกว่าจะมีการเล่นข้ามแพลตฟอร์มด้วย โดยที่ฝั่ง Console นั้นจะสามารถเลือกได้ว่าจะเจอผู้เล่นฝั่ง PC ที่ใช้อุปกรณ์ใดเล่น โดยตั้งค่าได้ว่าจะเลือกเจอทุกแบบ หรือบังคับให้เจอเฉพาะ PC ที่ใช้คอนโทรลเลอร์เท่านั้น ส่วนฝั่ง PC ที่เล่นบน Battle.Net จะไม่มีตัวเลือกนี้(เพื่อลดการเอาเปรียบ) โดยระหว่างที่รอเข้าเกม ระบบจะโชว์รายชื่อผู้เล่นพร้อมกับอุปกรณ์ที่ใช้ให้เราเห็นด้วย
อีกโหมดการเล่นที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ Ground War ที่เป็นการพบกันระหว่างผู้เล่น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 32 คน ในแผนที่ขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อใส่เกมเพลย์แบบ Call of Duty เข้าไป ก็จะพบว่ามันค่อนข้างวุ่นวายพอสมควรถ้าหากเทียบกับซีรีส์คู่แข่งอย่าง Battle Field โดยในช่วงทดสอบนี้ ผู้เขียนมีความรู้สึกว่าโหมดนี้ยังค่อนข้างที่จะมีเรื่องจุกจิกไปหน่อย เช่นแผนที่ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กไปหน่อยสำหรับ 64 คน คือถ้าหากเราดวงไม่ดี การโดน Spawn Kill นั้นจะกลายเป็นเรื่องปกติไปเลยในโหมดนี้ และด้วยความที่ตัวเกมบังคับให้ผู้เล่นจับคู่หรือปาร์ตี้กันได้ไม่เกิน 4 แต่ระบบของโหมดนี้ไม่ได้เอื้อต่อการเล่นเป็น Squad ขนาดนั้น จะมีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ Squad จำเป็นก็คือการเลือก Spawn ที่เพื่อนได้ แถมตายแล้วตายเลยไม่มีการชุบ แล้วด้วยความที่โหมดนี้เป็นการยึดจุดเพื่อทำคะแนน ดังนั้นการที่ตายแล้วเกิดทันทีจึงกลายเป็นอะไรที่วุ่นวายมากเกินไป ทำให้ทั้งเกมจะเป็นการยิงกันไปยิงกันมาระหว่างตึกสองตึกเสียมากกว่า
สุดท้ายกับโหมด Gun Fight หรือ 2 vs 2 ที่ฝ่ายไหนชนะได้ครบ 6 รอบก่อนชนะ ซึ่งถือว่ามีแววที่จะกลายเป็นโหมดที่นิยมในการแข่ง เนื่องจากความกดดันค่อนข้างสูง การจับคู่สู้กันในแผนที่ขนาดเล็กนั้นค่อนข้างจะทำให้การเล่นแบบ Tactical นั้นโดดเด่นขึ้นมา เป็นการชิงไหวชิงพริบใส่กันระหว่างผู้เล่น แต่ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าอาจจะไม่ค่อยสนุกสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ที่นิยมความ Casual มากกว่า แต่ถ้าถามว่าสนุกหรือไม่ก็สนุกในแบบของมัน เป็นอะไรที่ลุ้นดีและสะใจมากเวลาชนะ
สรุปรีวิว Call of Duty : Modern Warfare Beta
โดยรวมแล้ว Call of Duty Modern Warfare ภาครีบูธนี้เป็นอะไรที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด ถึงแม้ว่าเกมเพลย์จะมีการเปลี่ยน แต่ด้วยโหมดการเล่นที่รองรับผู้เล่นทุกระดับ ทำให้ผู้ที่ไม่ใช่สายฮาร์ดคอร์ก็สามารถเล่นให้สนุกได้ แถมยังสามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มได้อีก นอกเหนือจากนี้ เรื่องภาพและกราฟิกก็สวยสดงดงาม โดยเฉพาะบน PC นั้นถ้าหากใครเครื่องแรงพอก็มี Ray Tracing ไว้ให้เปิดฟินๆ เล่น (แต่ผมไม่เปิดแน่นอน) แล้วยังไม่รวมเนื้อเรื่องหรือ Campaign เล่นคนเดียวที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดออกมาอีก ยังไงก็คุ้มครับ โดยรวมแล้วสนุก มันส์ สะใจคอ FPS แน่นอน แล้วพบกันวันที่ 26 ตุลาคม ปีนี้ คนจริงต้อง Day 1