รีวิว Firestorm โหมด Battle Royale ธีมสงครามโลกจากเกม Battlefield V

แชร์เรื่องนี้:
รีวิว Firestorm โหมด Battle Royale ธีมสงครามโลกจากเกม Battlefield V

     ปล่อยมาให้เล่นกันแล้วเมื่อวานสำหรับโหมด Battle Royale ภายในเกม Battlefield V ในชื่อโหมด Firestorm ซึ่งวันนี้ทางผมจะมารีวิวเปรียบเทียบความแตกต่างกับโหมดการเล่นแบบปกติของเกม Battlefield V รวมไปถึงเทียบกับ Battle Royale อื่นๆ ว่ามีความแตกต่างกันยังไงบ้างนะครับ


Battle Royale ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง

     สำหรับในโหมด Firestorm นั้น แม้จะทำระบบบางอย่างแยกออกมาจากตัวเกมหลักของ Battlefield V แต่ธีมของตัวเกมยังคงสไตล์สงครามโลกครั้งที่สองอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฉากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ยานพาหนะ หรืออาวุธ ที่ยังคงความเป็นธีมสงครามอย่างชัดเจน ทำให้ใครที่อยากเล่นเกมแนวนี้ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว


กราฟฟิคความสวยในระดับ Battlefield

     หากคุณเป็นคนที่เสพภาพ เกมตระกูล Battlefield ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ทำภาพมาได้สวยเป็นอย่างมาก และด้วยพื้นฐานของเกมค่ายนี้ที่ทำแผนที่ใหญ่ๆ มาอยู่แล้ว ทำให้ในโหมด Firestorm มีแผนที่ที่ใหญ่จุใจจริงๆ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงเสียงต่างๆ ภายในเกมที่ทำให้ได้บรรยากาศรอบๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงน้ำ เสียงนก และเสียงของวงไฟที่กำลังบีบเข้ามา ซึ่งช่วยเพิ่มอารมณ์ร่วมในการเล่นได้เป็นอย่างดี

ภาพแบบ Battlefield ที่ปรับ Low ยังสวย


เกมเพลย์ของ Firestorm เปรียบเทียบกับ Battle Royale อื่นๆ

     ในส่วนของเกมเพลย์ Battle Royale ของ Battlefield V จะมีการผสมผสานคล้ายคลึงกับเกมอื่นๆ ซึ่งจะขอแยกเป็นข้อๆ เพื่อง่ายต่อความเข้าใจนะครับ

ปืนที่มีการแบ่งระดับเลเวล ไร้ Mod เสริมกวนใจ

ในส่วนของเรื่องอาวุธนั้นจะใช้รูปแบบคล้ายๆ กับเกม Fortnite ซึ่งปืนชนิดเดียวกันจะมีอยู่หลายระดับ โดยระดับที่สูงขึ้นก็จะมีความสามารถที่ดีกว่า เช่นคุมปืนได้ง่ายขึ้น มีกล้องติดให้กับปืน เป็นต้น 


ชุดเกราะที่พังแต่เติมได้ คล้ายเกม Apex Legends

สำหรับชุดเกราะนั้นจะใช้ลักษณะคล้ายกับเกม Apex Legends ที่ชุดเกราะหากถูกยิงจนพัง เราสามารถเปลี่ยนแผ่นเหล็กที่ใช้ป้องกันได้ เหมือนกับการใช้ Shield Cell ในเกม Apex Legends และระบบการคิดก็คือจะเพิ่มพลังชีวิตเข้าไปเลย ต่างจาก PUBG ที่หัก % ทำให้โดนความเสียหายเบาลง เพียงแต่เราสามารถเก็บแผ่นเหล็กที่ใช้เติมเกราะได้เพียงแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น

ใช้การเปลี่ยนแผ่นเหล็กที่พังเพื่อเพิ่มพลังชุดเกราะ


วงที่บีบทันทีตั้งแต่เริ่ม

ด้วยแผนที่ที่มีขนาดใหญ่มากและจำนวนผู้เล่นเพียง 64 คน ทำให้ทาง Battlefield ตัดสินใจใช้รูปแบบวงที่บีบตั้งแต่เริ่ม ต่างจากเกมสไตล์ Battle Royale อื่นๆ ที่วงจะเริ่มบีบทีหลัง ซึ่งตรงนี้มีทั้งข้อดีและเสีย ในส่วนที่ดีก็ทำให้คนปะทะกันไวขึ้น และทำให้รู้สึกเหมือนได้เล่นแผนที่ใหม่ตลอดเวลา แต่ในส่วนที่ไม่ดีก็ทำให้จุดที่เราอยากลงประจำบางทีไม่ได้ลง และเป็นการจำกัดความกว้างของแผนที่แบบแปลกๆ


ระยะเวลาการเล่นที่ค่อนข้างไว

ในเรื่องของวงที่บีบนั้นค่อนข้างเร็ว โดยต่อวงจะมีเวลาก่อนวงบีบเพียงวงละ 1 นาที กว่าเท่านั้น (น้อยลงเรื่อยๆ ในช่วงท้ายเกม) ทำให้ต้องเคลื่อนที่กันตลอดเวลา ไม่ค่อยมีเวลาแคมป์กันสักเท่าไหร่ นอกเสียจากเราอยู่ในวงอยู่แล้ว


ยานพาหนะที่หลากหลาย

โดยปกติ Battle Royale อื่นๆ ที่มียานพาหนะก็จะใช้เดินทางเป็นหลัก แต่ใน Firestorm นั้น นอกจากรถทั่วไปแล้ว ยังมีรถหุ้มเกราะที่ติดปืนกลไว้ รวมไปถึงรถถังอีกด้วย ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนให้มีน้ำมันแตกต่างจากเกมโหมดปกติทำให้ไม่โกงเกินไป และกระสุนก็มีค่อนข้างจำกัดเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์รุ่นต้นแบบที่ใช้การบังคับเกม Battlefield ภาคก่อนๆ เพียงแต่เพิ่มระบบกันร่วงทำให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น


ฟีลลิ่งในการเล่นที่ผสมผสานหลายสไตล์

ในส่วนของความรู้สึกในการเล่นจะคล้ายๆ โทน PUBG ที่ลดความ Hardcore น้อยลง ซึ่งจุดสำคัญคือมีการคลานที่ทำให้เหล่าสายซุ่มทั้งหลาย สามารถแอบเนียนได้ และพุ่มหญ้าภายในเกมก็มีมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นเพราะตัวเกมมีแต่โหมด FPS การซุ่มก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักเพราะอาจจะทำให้เราเห็นพื้นที่รอบๆ ได้น้อยลงด้วย


การเล่นแบบ Squad ที่เน้น Teamwork มากกว่าเดิม

     โดยปกติรถถังในโหมดทั่วไปของเกม Battlefield คนขับจะสามารถบังคับปืนได้ปกติ แต่ในโหมด Squad ใน Firestorm นั้น รถถังจะใช้คนบังคับแยกกันระหว่างคนขับกับพลปืน ดังนั้นจึงทำให้เกมนี้ต้องสื่อสารกันมากขึ้น อีกทั้งการถูกยิงซ้ำตอนล้มก็จะตายออกไปเลย ไม่เหมือนเกม Apex Legends ที่สามารถชุบชีวิตมาได้อีกครั้ง ทำให้การเล่นแบบเป็นทีมต้องรัดกุมมากกว่าเดิม


ความรู้สึกของผู้เขียน

     ออกตัวก่อนเลยว่าสมัยก่อนเป็นคนที่อยากเห็น Battlefield ทำสไตล์ Battle Royale เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการได้ลองเล่นโหมด Firestorm นี้ ก็เป็น Battle Royale ที่ดีเกมหนึ่ง เพียงแต่ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากนัก รวมไปถึงเรื่องของราคาที่หากคิดจะซื้อมาเพื่อเล่นโหมด Battle Royale อย่างเดียว คงไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ ยกเว้นเสียว่าอยากเล่น Battlefield V เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และคิดว่า Firestorm เป็นของแถมก็พอได้ เพราะว่ากันตรงๆ เล่นโหมดอื่นของเกมนี้จะค่อนข้างสนุกได้ฟีลสงครามมากกว่า ยิ่งถ้าหากคุณชอบ Battle Royale แต่ไม่ชอบสไตล์การเล่นแบบ Survival แต่ชอบเน้นบู๊มันๆ ในปัจจุบันก็มี Apex Legends ที่เป็นกระแสบูมและสนุกกว่าอยู่ดี


     ในตอนนี้จากที่เล่นก็ยังมีปัญหาบัคและเรื่องระบบอยู่บ้าง โดยเฉพาะพวกไอเท็มที่หล่นตามพื้น บางทีเปิดกล่อง Air Drop แล้วของจมดินไม่สามารถเก็บได้ หรือศัตรูที่เราฆ่าได้ของก็จะหล่อเกลื่อนเกะกะการเก็บของและทำให้มองหาของที่เราต้องการยากกว่าเดิม แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามของฉากและ Gunplay ของเกมที่ได้ฟีลลิ่งสงครามจริงๆ ตรงนี้ก็แทบจะไม่มีเกมไหนเทียบได้เลย หากใครที่เป็นแฟน Battlefield อยู่แล้ว และชื่นชอบในสไตล์ Battle Royale ก็น่าสนใจ แต่ถ้าคุณไม่ได้อินความเป็น Battlefield ขนาดนั้น ในตลาดก็มีตัวเลือก Battle Royale อื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่า

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ