ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก เพราะ Nintendo Switch สามารถยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง PS4 และ Xbox One พิสูจน์ได้จากยอดขายตัวเครื่องและเกมที่น่าพอใจในรอบสองปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากเกมอินดี้นอกกระแสที่เป็นจุดเด่นของเครื่อง Nintendo Switch แล้ว ยังมีเกมแนว JRPG ที่กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญที่ทำให้เจ้า Nintendo Switch ยืนหยัดอยู่ได้อย่างน่าทึ่ง
ในปีแรกของ Nintendo Switch เราได้ยลโฉมเกม JRPG ชั้นดีอย่าง Zelda, Disgaea5 และ Xenoblade Chronicles ที่ช่วยให้เจ้าเครื่องพบพา Nintendo Switch ได้รับความนิยม ในขณะที่ปี 2018 ที่ผ่านมา ก็ยังมีเกมชั้นดีอย่าง Ys VIII, Octopath Traveller, Pokemon Let’s Go, Dark Souls Remastered, Valkyria Chronicles 4 และ ซีรีส์เกม Atelier รวมถึงเกมอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยนามอีกมากมาย
จากรายชื่อเกมที่เรายกตัวอย่างมา จะเห็นได้ว่า Nintendo Switch ได้กลายเป็นเครื่องคอนโซลและเครื่องเกมพกพาที่เหมาะสำหรับ JRPG ส่วนหนึ่งเพราะเจ้า Nintendo Switch เป็นเครื่องเกมแบบลูกผสม ที่คุณสามารถต่อทีวีเล่นหรือพกพาไปเล่นด้านนอกได้ ซึ่งนับว่านี่เป็นจุดแข็งของ Nintendo Switch ที่มาทดแทนเรื่องประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ ที่อาจเป็นรอง PS4 และ Xbox One
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เล่นจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับเกม JRPG ที่ไหน เมื่อไร ก็ได้ และในปีนี้ ก็ยังมีเกม JRPG ชั้นดีอย่าง The Caligula Effect: Overdose, Final Fantasy Port และ Grandia I & II Remaster
เราคงไม่ต้องอธิบายให้มากความแล้วว่า ตอนนี้ Nintendo Switch คือเครื่องคอนโซลลูกผสมที่เหมาะสำหรับคอเกมแนว JRPG ที่ชื่นชอบการเล่นแบบต่อหน้าจอโทรทัศน์แบบดั้งเดิม หรือพกพาไปเล่นด้านนอกมากเพียงใด
แปลโดย : Beer_Barbaro
Link ต้นฉบับ
https://twinfinite.net