นับตั้งแต่วงการเกมในบ้านเราเข้าสู่ยุคที่ข่าวสารเป็นข้อมูลดิจิตอล เหล่าเกมเมอร์ก็เริ่มมีการใช้คำหรือวลีแบบแนวๆ ที่อินเทรนด์ตามยุคสมัยอยู่ไม่ขาดสาย บางคำก็มีการนิยมใช้กันจนกลายเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่บางคำก็ถูกนำมาใช้อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่แล้วก็เสื่อมความนิยมไปตามกาลเวลา โดยตลอดช่วง 10-20 ปีมานี้ได้มีศัพท์แปลกๆ ที่ใช้กันในหมู่เกมเมอร์มากมาย และบทความนี้เราจะขอยกตัวอย่างศัพท์บางส่วนมาให้ชมกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. ซูเนโอะ
หนึ่งในตัวละครหลักจากการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน ผู้มีนิสัยโอ้อวด และชอบพูดจาข่มโนบิตะอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเวลามีของเล่นชิ้นใหม่มาโชว์เพื่อนๆ ด้วยนิสัยที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ของซูเนโอะนี้ ทำให้ในบางคอมมูนิตี้ของวงการเกมในไทยได้หยิบเอาคำนี้มาใช้เวลาใครสักคนซื้อเกมแบบ Day 1 (ซื้อวันเดียวกับวันวางจำหน่ายวันแรก) แล้วโพสต์อวดบนโลกโซเชียล หรือไม่ก็เป็นการโพสต์ชุด Collector’s Edition ที่มีของแถมแบบพรีเมียมครบเซ็ต ให้คนได้ฮือฮากับของชิ้นนั้นของตนเอง ซึ่งคำว่าซูเนโอะที่ใช้กับวงการเกมในไทยจะไม่ค่อยมีความหมายในเชิงลบครับ อย่างแย่ที่สุดก็อาจจะแค่ทำให้เกมเมอร์บางคนรู้สึกหมั่นไส้เบาๆ เท่านั้น
2. หลังหัก
คำนี้จะไปนิยมใช้ในฝั่งเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการซื้อเกมแบบดิจิตอลดาวน์โหลด แต่จะหนักไปทางฝั่งผู้เล่นบน PC ที่ต้องซื้อเกมผ่าน Steam ครับ เพราะ Steam นั้นมักจะมีโปรโมชั่นลดราคากันรัวๆ จนเกมเมอร์ตั้งตัวไม่ทัน ความหมายของคำนี้จึงหมายถึงคนที่เจอเกมใดเกมหนึ่งลดราคาแบบสุดๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองเพิ่งจะกดซื้อมาไม่นานด้วยราคาเต็ม ก็เลยเกิดอาการ “หลังหัก” ประมาณว่า “ทำไม Steam ถึงทำกับฉันด้ายยยยยย!!”
หากจะให้นึกถึงคนดังในโลกโซเชียลที่ขึ้นชื่อเรื่องหลังหักบ่อยๆ คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก จ่าพิชิตแห่งเพจ Drama-Addict นี่แหละครับ ซึ่งสมัยที่พี่แกท็อปฟอร์ม เรียกได้ว่า จ่าซื้อเกมไหนปุ๊บ ผ่านไปอีก 1-2 วันให้หลัง มันจะชอบมีโปรโมชั่นลดราคาเกมนั้นแบบจัดหนัก ราวกับแจกฟรีเลยทีเดียว จนชาวเน็ตเอาประเด็นนี้มาแซวจ่ากันอย่างสนุกสนาน บ้างก็รอจังหวะที่จ่าพิชิตกดซื้อเกมไหนสักเกม แล้วค่อยรอดูว่าเกมนั้นจะลดราคาแบบสายฟ้าแลบตามอาถรรพ์ของแกหรือไม่ (ฮา)
3. หัวร้อน
มาถึงคำยอดฮิตในหมู่เกมเมอร์กันบ้าง ซึ่งน่าจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักคำนี้ โดยอาการหัวร้อนมักจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เวลาใครเล่นเกมที่ยากมากๆ จนแทบอยากจะด่าบุพการีคนสร้าง เช่น Dark Souls ที่พอเวลาเราตาย โซลที่เรามีอยู่ก็ร่วงลงพื้น เสียเวลาต้องวิ่งกลับไปเก็บ แล้วถ้าเราดันพลาดตายก่อนจะเก็บกู้โซลได้ โซลนั้นก็จะหายไปตลอดกาล ความยากแบบที่ไม่ให้โอกาสผู้เล่นซ้ำสองเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่เกมเมอร์จะหัวร้อนจนปาจอยกันอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกับเวลาเล่นโหมดมัลติเพลเยอร์ แล้วเจออาการ Lag หรือเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ได้ดั่งใจก็ชวนหัวร้อนได้เหมือนกัน ซึ่งระยะหลังเราก็มักจะเห็นวงการอื่นๆ นำคำว่าหัวร้อนไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่จำกัดแค่ในวงการเกมแล้ว
4. ขายไต
เกิดเป็นเกมเมอร์ต้องอดทน โดนสิบล้อชนต้องไม่ตาย เป็นคำปลอบใจให้เกมเมอร์ต้องกัดฟันเพื่ออยู่รอดท่ามกลางวงการเกมอันแสนโหดร้ายครับ เพราะเกมมักจะออกมายั่วกิเลสและคอยละลายเงินในกระเป๋าเราไม่หยุดหย่อน คำว่าขายไตจึงถูกนำมาใช้เปรียบเปรยเวลาที่เราไม่เหลือตังค์พอจะไปซื้อเกมแล้ว ประมาณว่าถ้ามีเกมน่าเล่นออกมาอีก คงได้ขายไตเพื่อเอาเงินไปสนองกิเลสแน่ๆ โดยคำนี้เคยมีการสันนิษฐานว่าน่าจะมีอิทธิพลมาจากข่าวหนุ่มชาวจีนขายไตตัวเองเพื่อไปซื้อ iPhone ด้วยครับ แต่ทว่าเจ้าตัวดันโชคร้าย เกิดภาวะติดเชื้อลามไปยังไตอีกข้างที่เหลือ ทำให้เขาต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเข้ารับการฟอกเลือดไปตลอดชีวิต ตรงนี้หวังว่าเพื่อนๆ คงไม่คิดจะไปขายไตตามหนุ่มเคราะห์ร้ายคนนี้เชียวนะครับ
5. เกลือ
คำที่สุดเสียดแทงบรรดาเกมเมอร์ที่เล่นเกมที่มีการเปิดกล่องกาชา หรือกล่องเสี่ยงดวงทั้งหลายแหล่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอุตส่าห์ยอมเปย์เงินจริงเพื่อซื้อกล่องกาชามาเปิด แล้วดันสุ่มไม่ได้ของที่ต้องการ ไอเทมจากกล่องนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับกากเกลือ บ้างอาจจะเป็นของที่ซ้ำกับที่เรามีอยู่ก่อนแล้ว บ้างก็อาจเป็นของที่มีคุณสมบัติหรือเพิ่มค่า Stat ได้ห่วยแตก นับเป็นศัพท์แห่งความโชคร้ายโดยแท้