Online Station

รู้จักกับเกมในอดีต Brave Fencer Musashi การผจญภัยของซามูไรจิ๋วทะลุมิติ

แชร์เรื่องนี้:
รู้จักกับเกมในอดีต Brave Fencer Musashi การผจญภัยของซามูไรจิ๋วทะลุมิติ

ปลายยุค 90 ถือเป็นช่วงมือทองของค่าย Square Enix บนเครื่อง PS1 เลยครับ เพราะมีเกมหลายแนวและสนุกๆ ออกมาให้เล่นเต็มไปหมด นอกจากซีรีส์หลักอย่าง Final Fantasy แล้วก็ยังมีอีกหลายเกมที่ปังในยุคเดียวกัน ซึ่ง Brave Fencer Musashi ก็เป็นหนึ่งในนั้น และรอบนี้ทีมงาน OS จะขอพาเพื่อนๆ ย้อนอดีตไปทำความรู้จักกับเกมนี้กันสักหน่อยครับ

การพัฒนาและความเป็นมา

- คุณฮิโรโนบุ ซาคากุจิ ผู้อำนวยการสร้างของเกมนี้ได้เคยกล่าวไว้ว่าไอเดียในการสร้างเกมได้เริ่มผุดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 1997 โดยมีที่มาจากการลองจินตนาการให้ยอดนักดาบอย่าง มิยาโมโตะ มุซาชิ ได้เข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง แล้วได้ผจญภัยและต่อสู้ที่นั่น ซึ่งตอนแรกมุซาชิในเกมถูกวางบทให้เป็นคนพเนจรธรรมดา แต่ต่อมาก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นคนที่มีจิตใจเมตตาและตั้งใจช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก เนื่องจากในเกมจะมีส่วนของเควสต์ที่มุซาชิต้องมีปฏิสัมพันธ์และคอยช่วยเหลือชาวเมืองเป็นระยะนั่นเอง


- ระหว่างที่พัฒนาเกมนี้ คุณซาคากุจิไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าเกมนี้จะปังเป็นพลุแตกหลังวางจำหน่าย แต่พอทีมงานได้ลองออกแบบกราฟิกและเกมเพลย์มาให้เขาดูเป็นตัวอย่าง ก็รู้สึกชอบใจกับเนื้องานเป็นอย่างมาก โดยตัวละครในเกมเป็นผลงานการออกแบบโดยคุณโคจิ มัตซึโอกะ ในขณะที่คนวาดก็คือคุณเท็ตซึยะ โนมุระ ซึ่งคุณโนมุระก็คือผู้ที่วาดตัวละครหลักใน Final Fantasy ภาค 7, 8, 10, 13, และ 15 นั่นเอง


- Brave Fencer Musashi สามารถทำยอดขายเฉพาะที่ญี่ปุ่นในปี 1998 ไปได้ 648,803 ชุด ติดอันดับ 17 ของเกมที่มียอดขายดีที่สุดประจำปีนั้น และจากความสำเร็จเมื่อนับรวมกับยอดขายทั่วโลก ทาง Square (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) ก็ตัดสินใจผลักดันแผนทำภาคต่อทันที แต่กว่าจะพัฒนาเสร็จและวางจำหน่ายก็ปาเข้าไปปี 2005 หรือ 7 ปีให้หลังนับจากภาคแรก โดยใช้ชื่อเกมว่า Musashi: Samurai Legend และโยกไปลงบนแพลตฟอร์ม PS2 แทน แถมภาค 2 ก็ดันไม่ปังอย่างที่ทาง Square Enix คาดหวังไว้ จึงทำให้ซีรีส์นี้ไม่มีภาคต่อมาอีกเลยตั้งแต่นั้น


- ช่วงก่อนเกมวางจำหน่ายไม่กี่วัน ทางสื่อเกมชื่อดังหลายสำนักพยายามที่จะนำเกมนี้ไปเปรียบเทียบกับ The Legend of Zelda ซึ่งเป็นซีรีส์ระดับเรือธงของ Nintendo แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกความคิดไป เพราะพวกเขารู้สึกว่า Brave Fencer Musashi มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ชูความเป็นเกมแอ็กชั่นมากกว่าที่จะเน้นความเป็น Action-RPG แบบ The Legend of Zelda ดังนั้นเกม Brave Fencer Musashi จึงไม่น่าจะใช่คู่แข่งโดยตรงของ The Legend of Zelda ไปโดยปริยาย


- ใครที่ซื้อแผ่นแท้ของเกมนี้ ข้างในจะมีแถมเดโมของเกม Final Fantasy VIII มาให้ด้วย ซึ่งเดโมตัวดังกล่าวเราจะได้เล่นเป็นสควอลล์ เซล และ เซลฟี่ ที่อยู่ในช่วงบุกตีกองทัพกัลบาเดียที่กำลังยึดครองเมืองโดลเลตอยู่ และจะจบเดโมหลังจากหนีหุ่นบอส X-ATM092 มาจนถึงชายหาดครับ ขณะที่วงการเกมในบ้านเราตอนนั้นจะเล่นเถื่อนกันเกลื่อนเมือง บรรดาร้านขายเกมที่หัวหมอหน่อยก็ปั๊มเดโม FF8 มาขายแยกต่างหากเลย

พล็อตเรื่องและเกมเพลย์

ทางด้านเนื้อเรื่องของเกม Brave Fencer Musashi จะกล่าวถึงซามูไรหนุ่มร่างจิ๋วนามว่า มุซาชิ ที่ถูกอัญเชิญจากโลกคู่ขนาน เพื่อให้มาช่วยปกป้องอาณาจักรอัลลูคาเน็ตจากจักรวรรดิของพวกเหล่าร้าย แม้ว่าในทีแรกมุซาชิเองจะไม่ได้มีความอยากที่จะทำตามคำขอร้องของเจ้าหญิงแห่งอัลลูคาเน็ต แต่สุดท้ายก็รับปากที่จะช่วยเพราะตนเองก็ต้องการกลับไปยังโลกของตัวเองด้วยเช่นกัน


ภาพรวมของเกม Brave Fencer Musashi จะเป็นเกมแนวแอ็กชั่นที่เจือปนองค์ประกอบของแนวเกม RPG เข้ามาอย่างละนิดละหน่อย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น มุซาชิ ซามูไรจากอีกโลกหนึ่งที่มีดาบคู่กาย 2 เล่ม ได้แก่ ฟิวชั่น และ ลูมิน่า โดยฟิวชั่นจะเป็นลักษณะดาบคาตานะที่มีคุณสมบัติในการต่อคอมโบและสามารถดูดซับพลังของศัตรูกลับมาได้ ขณะเดียวกัน ลูมิน่าก็จะเป็นดาบยักษ์ที่สามารถโจมตีเป็นธาตุต่างๆ ตามม้วนตำราที่เราติดตั้งไว้ แต่ก็จะโจมตีได้ช้ากว่าดาบฟิวชั่น ผู้เล่นจึงจำเป็นต้องปรับใช้ดาบทั้ง 2 ให้เข้ากับสถานการณ์ และต้องพึ่งพาคุณสมบัติของดาบลูมิน่าในการเปิดทางบางจุดที่ถูกบล็อคไว้ เป็นต้น


ทั้งนี้ มุซาชิต้องออกผจญภัยเพื่อออกตามหาม้วนตำรา 5 ชิ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับดาบลูมิน่า ซึ่งภายในเกมก็จะมีมินิเกมและปริศนาตามฉากให้เราได้ขบคิดและพิชิตเควสต์กัน โดยเกมจะมีระบบเวลากลางวัน – กลางคืน ที่จะส่งผลกับบรรดาผู้คนในเมืองและชนิดศัตรูที่อยู่ตามป่าหรือดันเจี้ยน นอกจากนั้นแล้ว มุซาชิจะมีปัจจัยเรื่องค่าพลังความเหนื่อยล้าที่เราต้องควรระวัง หากปล่อยให้มันมีมากเกินไป ความสามารถในการต่อสู้ของมุซาชิก็จะลดลง ตรงจุดนี้ผู้เล่นสามารถเลือกให้มุซาชิเข้าไปพักในโรงแรม หรือจะนอนมันกลางทุ่งเลยก็ได้ ซึ่งการนอนนอกโรงแรม ข้อดีคือไม่เสียเงิน แต่ข้อเสียคือเราจะฟื้นฟูพลังได้ไม่เต็มที่และมีความเสี่ยงที่จะโดนศัตรูเล่นงานเอาได้

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

Online Station