ทีมพัฒนาเกม PUBG ได้หันมาเรียนรู้ที่จะได้ระบบป้องกันผู้ใช้โปรแกรมโกงอย่างจริงจัง หลังจากแคมเปญในช่วงปีที่แล้วที่มีชื่อว่า Fix PUBG ผู้พัฒนาก็ได้เริ่มโพสต์ลงใน Stream ว่าจะต่อสู้กับพวกแฮคเกอร์ได้อย่างไร
พวกเขายอมรับว่าถ้าไม่ทุ่มเทต่อสู้กับโปรแกรมโกงในตอนนี้ พวกแฮคเกอร์จะทำลายเกมของพวกเขา มันจะได้รับความเสียหายมากเกินกว่าที่คาดคิดไว้ ผู้พัฒนาจึงหันไปศึกษาการต่อสู้กับโปรแกรมโกงจาก Battle Royale เกมอื่นๆดูบ้าง
“ใน PUBG เรามีผู้เล่นจำนวนมากถึงห้องละ 100 คนที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะ ด้วยอัตรา 1 ใน 100 ที่เรียกได้ว่ามันก็มีความยากอยู่แล้ว” โพสต์จาก Stream “เราเข้าใจว่าความไม่เป็นธรรมเล็กๆ น้อยๆ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้เล่นจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทุ่มเทให้กับระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น”
ผู้พัฒนากล่าวว่า นอกจากพวกเขาจะใช้โปรแกรมป้องกันโกงหลายโปรแกรม เช่น BattlEye และ Uncheater ที่คอยตรวจสอบโปรแกรมโกงแล้ว ในตอนนี้พวกเขาหันไปเรียนรู้ระบบตรวจจับโปรแกรมโกงโดยการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เล่นแต่ละคน และรายงานควาผิดปกติ ทำให้พวกเขาเข้าไปตรวจสอบและจัดการได้อย่างทันท่วงที
พวกเราเริ่มทำการแบนผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกงไปถึงระดับฮาร์ดแวร์ ที่ทำให้เครื่องนั้นไม่สามารถเล่น PUBG ได้อีก เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำๆ แต่เราก็ยังต้องคำนึงถึงร้านอินเตอร์เน็คคาเฟ่อีกด้วย เราจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบใดๆ และในเร็วๆนี้ทาง PUBG เริ่มตั้งข้อห้ามและแบนการเช้าเมาส์มาโคร และอุปกรณ์อื่นๆจากภายนอกที่จะส่งผลต่อความเป็นธรรมต่อผู้เล่น PUBG
และนี่คือทั้งหมดที่เราสรุปได้จากโพสต์ต่างๆของผู้พัฒนา PUBG ที่โพสต์ลง Stream เกี่ยวกับการยืนยันว่าพวกเขาจริงจังกับการกำจัดและป้องการโปรแกรมโกงมาแค่ไหน ผู้เล่น PUBG หลายๆคนอาจจะเริ่มสบายใจขึ้นได้ และรอการดำเนินการกำจัดคนโกงให้หมดสิ่น เพื่อการเล่นเกมที่สงบสุข
ที่มา http://www.gamasutra.com
โดย Heyden