หลายคนอาจกำลังรอคอย Devil May Cry 5 อย่างใจจดใจจ่อ ณ ขณะนี้ หากยังจำกันได้ หลายคนยังคงรู้สึกผิดหวังไม่หายกับ DmC: Devil May Cry ภาครีบู๊ตที่ตีความใหม่โดย Ninja Theory
ในขณะที่ Devil May Cry 5 กำลังเป็นเกมที่ถูกคาดหวังไว้สูงในปี 2019 แต่ DmC ของ Ninja Theory กลับถูกโจมตีอย่างหนัก และถูกเปรียบเปรยว่าเป็น ‘แกะดำ’ และ ‘เกมที่ถูกลืม’ ในบรรดาซีรีส์เกมชุด Devil May Cry นี่คือภาคที่น่าผิดหวังมากที่สุด
แน่นอนว่าสิ่งที่แฟนๆ รับไม่ได้มากที่สุด คือการที่ Ninja Theory ตีความเรื่องราวของDevil May Cry ใหม่ ให้ดูโตเป็นผู้ใหญ่และมีความดาร์กดิบขึ้นตามแบบสไตล์เกมตะวันตก แน่นอนว่าในส่วนของเกมเพลย์และเนื้อเรื่องของเกมนั้นทำได้ดีมาก เพียงแต่มันไม่ใช่กับตัวละครนำอย่างดันเต้ ที่ถูกตีความใหม่จนกลายเป็นดันเต้ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน
โดยฉากเปิดตัว DmC เราจะเห็นได้ว่า ดันเต้ กลายเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างผ่อมกระหร่อง สูบบุหรี่ และดูเหมือนคนติดยา จนทำให้สาวกของเกมในยุคแรกเริ่มรับไม่ได้ จนภายหลัง Ninja Theory ต้องปรับลุคส์ของดันเต้ใหม่ เพื่อลดกระแสวิจารณ์ในด้านลบ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
กับคำถามที่ว่า ตกลงแล้ว DmC: Devil May Cry เป็นเกมที่ดีหรือแย่ เราคงตอบได้ว่า ‘ยากที่จะฟันธง’ แม้คาแร็คเตอร์ของดันเต้คือปัญหาใหญ่ของเกม แต่เกมเพลย์และเนื้อเรื่อง คือสิ่งที่ดีงามที่สุดของเกม โดยเฉพาะด้านเนื้อเรื่อง ที่ตัวเกมได้จิกกัดประชดประชันโลกในความเป็นจริงได้อย่างแสบสันต์ ซึ่งมันก็ดูดีมากเลยทีเดียว
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร สำหรับสาวกเดนตายของ Devil May Cry ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า เกมในภาคนี้คือรอยด่างพร้อยของซีรีส์ และมันจะกลายเป็นภาคที่ถูกลืมไปในที่สุด และสุดท้าย Ninja Theory ก็ตกเป็นจำเลยของเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็พูดได้ว่า นี่เป็นความกล้าและบ้าบิ่นของ Capcom ที่แสดงความทะเยอทะยานของตัวเองด้วยการนำหนึ่งในเกมสร้างชื่อของตัวเองมาตีความใหม่ ถึงแม้ว่ามันจะไปไม่ถึงฝั่งฝันก็ตาม
แปลโดย :Beer_Barbaro
