รู้จักกับเหล่านักประพันธ์เพลงระดับตำนานแห่งวงการเกม มีใครบ้างมาดูกัน

แชร์เรื่องนี้:
รู้จักกับเหล่านักประพันธ์เพลงระดับตำนานแห่งวงการเกม มีใครบ้างมาดูกัน

โดยทั่วไป เวลาเรานึกถึงผลงานการพัฒนาเกม ผู้คนมักจะให้เครดิตกับคนที่เป็นผู้กำกับ, โปรดิวเซอร์, ศิลปินผู้ออกแบบตัวละคร หรือไม่ก็คนเขียนเนื้อเรื่องกันเป็นส่วนใหญ่นะครับ แต่จริงๆ แล้วก็มีอีกตำแหน่งสำคัญอย่าง นักแต่งเพลงประกอบ ที่ทำหน้าที่เหมือนผู้ปิดทองหลังพระให้กับเกมนั้นๆ อยู่ด้วยเช่นกัน เพราะเพลงประกอบเกมก็เปรียบเสมือนสิ่งที่คอยช่วยเสริมอรรถรสในการเล่น ให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับเกมได้อย่างสุนทรีเลยทีเดียว ซึ่งในบทความนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับนักแต่งเพลงประกอบที่อยู่ในระดับ “ขึ้นหิ้ง” ของวงการเกมจำนวนบางส่วนกันครับ หากตกหล่นใครไปบ้างก็ต้องขออภัยกันก่อนนะเออ


1. โนบุโอะ อุเอมัตสึ (Nobuo Uematsu)

เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา แฟนเกม RPG ซีรีส์ดังอย่าง Final Fantasy ต้องร้องอ๋อกันแน่นอน ใช่แล้วครับ เพราะคุณอุเอมัตสึคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานประพันธ์เพลงให้กับ Final Fantasy ภาคหลักมาเกือบทุกภาคนั่นเอง ซึ่งความสามารถของเจ้าตัวจัดอยู่ในขั้นที่เรียกว่า “พรสวรรค์สูง” ครับ เนื่องจากในวัยเด็ก คุณอุเอมัตสึเขาศึกษาการเล่นเปียโนด้วยตัวเองล้วนๆ โดยที่ไม่เคยไปเรียนคอร์สสอนเปียโนเลย ซึ่งเขาได้ทดลองเล่นเปียโนมาตั้งแต่มีอายุเพียง 11-12 ปี เท่านั้น แล้วจึงอาศัยการลองผิดลองถูกจนมีความชำนาญ

ต่อมาภายหลังจากที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย คุณอุเอมัตสึก็ได้มีโอกาสไปร่วมวงดนตรีในฐานะมือคีย์บอร์ด และแต่งเพลงประกอบให้กับโฆษณาทางโทรทัศน์อยู่หลายตัว กระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังทำงานอยู่ที่ร้านเช่าแผ่นเพลง ก็ได้มีพนักงานของค่ายเกม Square (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) เข้ามาทาบทามให้เจ้าตัวลองแต่งเพลงประกอบให้กับวิดีโอเกม ก่อนจะได้เข้ามาเป็นพนักงานของ Square เมื่อปี 1985 (พ.ศ. 2528) ในที่สุด

และแล้วคุณอุเอมัตสึก็ได้ลาออกจาก Square Enix ตั้งแต่ปี 2004 (พ.ศ. 2547) แล้วก่อตั้งสตูดิโอผลิตผลงานเพลงของตัวเองในชื่อ Dog Ear Records ในปี 2006 (พ.ศ. 2549) แต่ก็ยังคงคอยช่วยแต่งเพลงให้กับเกม Final Fantasy อยู่อีกหลายภาค อย่างล่าสุดก็คือ Final Fantasy XIV (FF14) ทว่าเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 2018 (พ.ศ. 2561) ที่ผ่านมา คุณอุเอมัตสึก็ออกมาประกาศว่าตนเองจะขอพักงานอย่างไม่มีกำหนดเพื่อขอฟื้นฟูสภาพร่างกายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ ตรงนี้ก็ขอเอาใจช่วยให้คุณอุเอมัตสึหายไวๆ ด้วยนะครับ

คลิปตัวอย่างเพลง Aerith’s Theme จากเกม Final Fantasy VII ที่เป็นหนึ่งในผลงานระดับมาสเตอร์พีซของคุณอุเอมัตสึ


2. โยโกะ ชิโมมุระ (Yoko Shimomura)

อีกหนึ่งปูชนียบุคคลด้านประพันธ์เพลงในวงการเกมครับ โดยผลงานเด่นๆ ของคุณชิโมมุระจะมีอยู่ 2 ช่วงใหญ่ๆ คือช่วงที่เธอทำงานให้กับ Capcom ระหว่างปี 1988 (พ.ศ. 2531) จนถึงปี 1993 (พ.ศ. 2536) ซึ่งตอนนั้นเธอเป็นผู้แต่งเพลงประกอบให้กับเกม Street Fighter II และมีเพลงฮิตติดหูจากเกมดังกล่าวมากมาย ลองฟังได้จากคลิปสัมภาษณ์คุณชิโมมุระ จากช่อง Samba ด้านล่างนี้เลย

หลังออกมาจาก Capcom คุณชิโมมุระก็ไปทำงานที่ Square (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) จนถึงปี 2002 (พ.ศ. 2545) โดยระหว่างที่อยู่กับ Square เธอได้มีผลงานตามมาอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลงให้กับเกมซีรีส์ดังๆ ของบริษัท เช่น Kingdom Hearts, Parasite Eve, Front Mission และ Legend of Mana เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่คุณชิโมมุระออกจาก Square เธอก็ผันตัวเองเป็นฟรีแลนซ์คอยรับแต่งเพลงให้ค่ายเกมต่างๆ ตามแต่จะมีการจ้างวานเป็นโปรเจ็กต์ไป โดยผลงานช่วงที่เป็นฟรีแลนซ์ก็ได้แก่ Xenoblade Chronicles, The 3rd Birthday และรวมถึงเกม RPG ที่เป็นบิ๊กโปรเจ็กต์ล่าสุดของ Square Enix อย่าง Final Fantasy XV ด้วย


3. โคจิ คนโดะ (Koji Kondo)

    

คุณคนโดะเป็นนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงจากการแต่งเพลงให้กับซีรีส์ดังๆ ของค่าย Nintendo ไว้เพียบ โดยเฉพาะซีรีส์คู่บุญของบริษัทอย่าง Super Mario Bros. และ The Legend of Zelda ซึ่งคุณคนโดะได้เข้ามาทำงานให้กับ Nintendo มาตั้งแต่ปี 1984 (พ.ศ. 2527) และปัจจุบันเขาก็ยังทำงานอยู่ที่นั่น

นอกจากนี้ คุณคนโดะยังมีปรัชญาในการทำเพลงประกอบที่ได้รับอิทธิพลมาจากคุณชิเงรุ มิยาโมโตะ บิดาผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Super Mario Bros. ว่าเพลงจะต้องสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกของการเคลื่อนไหว หรือท่วงท่าอากัปกิริยาของตัวละครที่เชื่อมโยงกับองค์ประกอบต่างๆ ในเกม เพื่อให้เกิดสุนทรียศาสตร์ ด้วยเหตุนี้ แนวเพลงที่คุณคนโดะมักจะใช้ในเกมเป็นหลักจะเป็นแนวเพลงสำหรับเต้นรำ เช่น เพลงสไตล์ลาติน และเพลงวอลซ์ เป็นต้น

ตัวอย่างเพลงธีมหลักของเกม Super Mario Bros. ภาคแรกสุด ที่ติดหูเกมเมอร์ไปทั่วโลก


4. เจเรมี่ โซล (Jeremy Soule)

ข้ามมายังนักประพันธ์ฝั่งสหรัฐอเมริกากันบ้าง หาก จอห์น วิลเลียมส์ เป็นดั่งพ่อมดในการแต่งเพลงให้กับวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เช่นนั้นแล้ว เจเรมี่ โซล ก็ไม่ต่างกับพ่อมดในการแต่งเพลงให้กับเกมตะวันตกครับ ผลงานที่เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าของเขาก็คืองานเพลงประกอบเกม The Elder Scrolls ภาคหลักตั้งแต่ Morrowind, Oblivion จนมาถึง Skyrim ที่เป็นภาคล่าสุดนั่นเอง ตลอดจนการแต่งเพลงให้กับเกม Harry Potter ภาค 1-4 อีกด้วย

ตัวอย่างเพลง Watch the Skies ของเกม Skyrim อันสุดอลังการ

อนึ่ง แนวเพลงที่ถนัดของโซลก็คือแนวคลาสสิกและออเคสตร้าครับ โดยเขาได้ฉายแววมาตั้งแต่วัยเด็กที่เริ่มหัดเขียนโน้ตเปียโนเองระหว่างที่ทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ จนคุณครูกับคุณพ่อของเขาเล็งเห็นพรสวรรค์ด้านนี้ จึงให้โซลได้เรียนคอร์สส่วนตัวกับศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีตั้งแต่อยู่ชั้นประถม จนมีความรู้ด้านการแต่งเพลงเทียบเท่าคนจบปริญญาโทสาขาเดียวกัน ทั้งๆ ที่อายุของเขายังไม่เท่าเด็กที่จบไฮสคูลเลยด้วยซ้ำ

โซลนั้นมีความชื่นชอบในการเล่นวิดีโอเกมตั้งแต่เด็ก และเขามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าประสบการณ์ด้านการแต่งเพลงของเขาจะช่วยยกระดับให้กับการทำเพลงประกอบเกมได้อีกไม่น้อย หลังจากที่จบชั้นไฮสคูล เขาจึงร่อนใบสมัครและส่งเทปเดโมเพลงที่เขาแต่งเองไปยังค่ายเกมต่างๆ ปรากฏว่าค่าย Square (สาขาซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา) รู้สึกถูกใจกับชิ้นงานของโซลมาก เลยรีบรับเขาเข้าทำงานเพียงแค่ 2 สัปดาห์ให้หลังจากที่ทดลองฟังเทปเดโมเลยทีเดียว

กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี 2000 (พ.ศ. 2543) โซลก็ออกมาตั้งสตูดิโอทำเพลงเป็นของตัวเองที่มีชื่อว่า Artistry Entertainment แล้วมุ่งทำเพลงให้กับเกมชั้นนำมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ Skyrim ที่บรรดาเกมเมอร์ต่างยกให้เป็นเพลงประกอบที่ควรค่าแก่การหามาฟังแห่งปี 2011 เลยก็ว่าได้


5. จุนอิจิ มาสึดะ (Junichi Masuda)

ทุกวันนี้ Nintendo มีเกมเรือธงอยู่ 3 ซีรีส์ใหญ่ๆ ซึ่ง Super Mario Bros กับ The Legend of Zelda มีคุณคนโดะคอยรับหน้าที่แต่งเพลงให้อยู่แล้ว ในขณะที่ซีรีส์ Pokemon ก็จะเป็นคุณมาสึดะที่คอยดูแลแทน โดยเขานั้นไม่ใช่แค่ผู้แต่งเพลงให้กับซีรีส์ Pokemon เท่านั้น หากแต่ยังเป็นผู้กำกับให้เกม Pokemon อีกหลายภาคด้วย

ปกติคุณมาสึดะจะมีแนวเพลงที่ชื่นชอบคือเพลงคลาสสิกและเพลงแนวเทคโน โดยที่ได้รับแรงบันดาลใจหลักๆ มาจากการมองสิ่งต่างๆ รอบตัว ก่อนจะมโนภาพในหัวแล้ววาดมันออกมา จากนั้นก็จินตนาการถึงท่วงทำนองที่เข้ากันกับวัตถุนั้นๆ เพลงของเกม Pokemon จึงเป็นที่กล่าวขานกันในหมู่แฟนๆ มาช้านาน แถมยังเพิ่มความสนุกให้กับเกมได้มาก

ตัวอย่างเพลงซาวด์แทร็คของเกม Pokemon Red and Blue


6. อาริ พัลคิเนน (Ari Pulkkinen)

ขณะที่นักแต่งเพลง 5 คนก่อนหน้าได้โด่งดังจากการทำผลงานระดับเทพต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายทศวรรษ ก็ยังมีนักแต่งเพลงชาวฟินแลนด์คนนี้ ผู้เข้าข่าย “ดังเปรี้ยงเดียว เก็บกินยาว” ให้เราได้รู้จักอีกคน โดยผลงานของพัลคิเนนที่น่าจะคุ้นหูเพื่อนๆ ทุกคนน่าจะเป็นเพลงธีมหลักของเกม Angry Birds ถ้าใครนึกไม่ออกว่าเพลงเป็นยังไง ก็ลองฟังคลิปด้านล่างดูก่อนครับ

จากผลงานประพันธ์เพลงธีม Angry Birds ได้ทำให้พัลคิเนนสามารถกวาดรางวัลนักแต่งเพลงยอดเยี่ยมในหลายๆ สาขามาแล้วนับไม่ถ้วน แม้เจ้าตัวเพิ่งจะเข้าสู่วงการมาได้ไม่ถึงทศวรรษด้วยซ้ำ โดยหลังจากเกมดังกล่าว เขาก็ได้มีโอกาสแต่งเพลงให้กับเกมบน PlayStation และ Xbox อยู่เป็นระยะ ซึ่งเพลงที่ติดหูหน่อยก็น่าจะเป็นเพลงจาก Dead Nation ที่เป็นเกมแนวยิงซอมบี้แบบ Exclusive บนเครื่อง PS3, PS4 และ PS Vita นั่นเอง เพื่อนๆ สามารถฟังตัวอย่างเพลงได้ที่ด้านล่างจ้า

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ