พูดถึงปืน AR ในเกม Apex Legends ไปแล้ว มาวันนี้เรามาเจาะลึกกับปืนประเภท Submachine Gun (SMG) ซึ่งเป็นปืนที่เน้นในการสู้ระยะประชิด งานนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละกระบอกมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
Alternator SMG
ใช้กระสุน – Light Rounds
ความเสียหายต่อนัด – 13
ความเสียหายยิงเข้าหัว – 19
ความเร็วการลั่นกระสุน – 640 RPM
จำนวนกระสุนพื้นฐาน – 16 นัด
ความเร็วการเปลี่ยนกระสุน (แบบกระสุนหมดและแบบเหลือกระสุน) – 2.0 / 1.6 วินาที
โหมดการยิง – Full Auto
อุปกรณ์ที่ติดตั้งเสริมได้ – Barrel Stabiliser, Extended Light Mag, Standard Stock, กล้องตั้งแต่ x1-x4
Pattern กระสุนในการยิงแบบ Full Auto
ข้อดี Alternator SMG
เป็นปืน SMG ที่คุมง่าย เพราะกระสุนที่ลั่นช้า สามารถยิงแบบ Hip Fire โดยไม่เล็งได้ดีเช่นกัน มักจะเป็นปืนที่ใช้ช่วงต้นเกมได้ดี (พยายามหาข้อดีให้แล้วสำหรับปืนนี้)
ข้อเสีย Alternator SMG
เป็นปืนที่แย่ที่สุดในประเภท SMG ด้วยความเร็วการลั่นกระสุนที่ช้าที่สุด (ช้ากว่า R-301 Carbine ที่เป็นปืน AR เสียอีก) แถมกระสุนก็เบากว่าและบรรจุในแม็กกาซีนน้อยกว่า (เพียงแค่ 16 นัด) ทำให้ปืนนี้เป็นปืนที่ทำ DPS ได้น้อยที่สุดในหมวดหมู่ปืน AR และ SMG ถึงแม้จะคุมปืนง่ายที่สุดแต่เมื่อเทียบกับปืนอื่นที่มีประสิทธิภาพดีกว่าและคุมยากกว่าปืนนี้ไม่มากนัก ก็ทำให้ Alternator SMG ไม่ค่อยถูกใครใช้งานสักเท่าไหร่ ยกเว้นเสียว่าไม่มีปืนอื่นให้ใช้จริงๆ
R-99
ใช้กระสุน – Light Rounds
ความเสียหายต่อนัด – 12
ความเสียหายยิงเข้าหัว – 18
ความเร็วการลั่นกระสุน – 1080 RPM
จำนวนกระสุนพื้นฐาน – 18 นัด
ความเร็วการเปลี่ยนกระสุน (แบบกระสุนหมดและแบบเหลือกระสุน) – 2.2 / 1.6 วินาที
โหมดการยิง – Full Auto
อุปกรณ์ที่ติดตั้งเสริมได้ – Barrel Stabiliser, Extended Light Mag, Standard Stock, กล้องตั้งแต่ x1-x4
Pattern กระสุนในการยิงแบบ Full Auto
ข้อดี R-99
เป็นปืนที่ทำ DPS ได้สูงที่สุดในปืน SMG รวมถึงปืนประเภท AR เช่นกัน ทำให้ปืนนี้มักจะเป็นตัวเลือกต้นๆ สำหรับสายลุยระยะประชิด แม้ความเสียหายต่อนัดจะน้อยที่สุดในปืนประเภทเดียวกัน แต่ทดแทนมาด้วยการลั่นกระสุนที่เร็วมาก จนสามารถล้มศัตรูได้ภายในเวลาไม่ถึงวินาที แถมปืนก็คุมได้ไม่ยากนักยิ่งหาตัวแต่งเสริมมาใส่ครบแล้วละก็ ยิงทำให้ปืนนี้ยิงระยะกลางได้สบายๆ เล่นเช่นกัน
ข้อเสีย R-99
เป็นปืนที่เบิร์นกระสุนเยอะมากๆ ด้วยความที่ยิงเร็วของมัน หากผู้ใช้ไม่ชำนาญยิงพลาดบ่อย ก็อาจจะทำให้กระสุนหมดโดยไม่ทันตั้งตัวได้ นอกจากนี้กระสุนต่อแม็กกาซีนยังน้อยเพียง 18 นัดเท่านั้น หากเราไม่มี Extended Light Mag มาช่วยเพิ่มความจุกระสุนก็อาจจะทำให้เสียเวลาเปลี่ยนกระสุนบ่อยๆ จนเสียจังหวะการปะทะได้
Prowler Burst PDW
ใช้กระสุน – Heavy Rounds
ความเสียหายต่อนัด – 14
ความเสียหายยิงเข้าหัว – 21
ความเร็วการลั่นกระสุน – 800 RPM
จำนวนกระสุนพื้นฐาน – 20 นัด
ความเร็วการเปลี่ยนกระสุน (แบบกระสุนหมดและแบบเหลือกระสุน) – 2.4 / 1.7 วินาที
โหมดการยิง – Burst Fire 5 นัด, Full Auto (ต้องติดตั้ง Selectfire Receiver)
อุปกรณ์ที่ติดตั้งเสริมได้ – Extended Heavy Mag, Standard Stock, กล้องตั้งแต่ x1-x4, Hop-up Selectfire Receiver
Pattern กระสุนในการยิงแบบ Burst Fire
ข้อดี Prowler Burst PDW
เป็นปืนกลเบาที่ยิงกระสุนต่อนัดได้แรงที่สุดในเกม Apex Legends แม้จะมี DPS โดยรวมจะน้อยกว่า R-99 แต่ก็สูงกว่าปืน AR ทุกชนิด โดยเฉพาะเวลาเก็บ Selectfire Receiver ซึ่งจะทำให้ปืนยิงแบบ Full Auto ได้ จะยิ่งเห็นปืนนี้แสดงประสิทธิภาพสูงสุดของมันได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นปืน SMG เแต่ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ปืน AR เลย เพราะสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกลเลยทีเดียว
ข้อเสีย Prowler Burst PDW
เป็นปืนที่หากไม่เจอ Hop-up Selectfire Receiver ก็มักจะไม่ค่อยนิยมใช้สักเท่าไหร่ ด้วยความที่ปืนใช้การยิง Burst แบบ 5 นัด ซึ่งคุมค่อนข้างยาก และช่วงหน่วงในการยิงแต่ละชุดค่อนข้างช้าทำให้มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า นอกจากนี้กระสุนพื้นฐานยังมีเพียง 20 นัด ซึ่งทำให้สามารถยิงได้แค่ 4 ชุดเท่านั้นในช่วงแรก ซึ่งเงื่อนไขที่ค่อนข้างจำเป็นต้องมี Selectfire Receiver ทำให้บางทีปืนนี้ก็ถูกเมินในหลายๆ สถานการณ์
ทั้งหมดนี้ก็เป็นปืนประเภท SMG ภายในเกม Apex Legends นี้ ส่วนตัวผู้เขียนหากมี Selctfire Receiver ก็มักจะเลือกใช้ Prowler Burst PDW เป็นประจำ เพราะค่อนข้างยืดหยุ่นในหลายๆ สถานการณ์ ใกล้ก็ได้ ไกลก็ดี ต่างจาก R-99 ที่จะเหมาะในการเล่นระยะประชิดเสียมากกว่า ว่าแต่เพื่อนๆ คนไหนถูกใจปืน SMG กระบอกไหนกันบ้าง ก็มาแนะนำพูดคุยกันได้นะครับ
