หลายคนที่เติบโตมากับเกมบนเครื่อง PS1 น่าจะคุ้นเคยกับฉาก Cutscenes ที่มีภาพกราฟฟิคสวยกว่าตัวเกม โดยเฉพาะเกม Final Fantasy VIII ที่ได้รับการยอมรับว่ามีฉาก Cutscenes ที่งดงามที่สุดอีกเกมบนเครื่อง PS1
คำถามก็คือ แล้วตอนไหนกัน ที่ฉาก Cutscenes ดูด้อยกว่าภาพกราฟฟิคบนตัวเกม เราจะยกตัวอย่างเกมอย่าง Anthem, Resident Evil 2 Remake และ Far Cry 5 ที่มีภาพกราฟฟิคงดงามจนฉาก Cutscenes ไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากเทคโนโลยีของเกมในยุคนี้ล้ำหน้าไปไกลมาก โดยมันสามารถรันฉาก Cutscenes แบบเรียลไทม์ได้เลย ในขณะที่เกมในยุคก่อนยังไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้
โดยเฉพาะเกม Anthem ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นเกมที่มีความก้าวหน้าทางเทคนิคมากที่สุดในขณะนี้ ด้วยการแสดงแสงและเอฟเฟกต์ต่างๆ ภายในตัวเกม ยังไม่รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่ดูล้ำสมัยไปมาก ขณะเดียวกัน เมื่อย้อนเวลากลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีของเกมยังไม่ดีเท่าปัจจุบัน ดังนั้นฉาก Cutscene จึงนับเป็นตัวชูโรงของเกม และอย่าลืมว่าในยุคสมัยนั้น Pixar Studio ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ พึ่งเปิดตัวหนัง Animation เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีเกมในปัจจุบันที่ยังใช้เทคนิค Cutscenes อยู่บ้าง อย่างเช่นเกม JRPG อย่าง Persona 5 ซึ่งอีกไม่นาน เทคนิคฉาก Cutescenes ที่ว่านี้คงไม่มีค่ายพัฒนาเกมใดนำมาใช้อีก แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ที่เราไม่ต้องการฉาก Pre-Rendered เพื่อให้ตัวเกมมันดูดีขึ้นเหมือนเกมยุคก่อน ที่ยังไม่มีเทคโนโลยีสร้างกราฟฟิคให้งดงามเหมือนเกมยุคนี้อีกต่อไป แต่ก็คงไม่ยุติธรรมนักถ้าเราจะพูดว่าฉาก Pre-Rendered มันดูแย่ลงอย่างชัดเจน
เรียบเรียงโดย : Beer_Barbaro
ที่มา : theverge.com