นิตยสาร Weekly Famitsu ฉบับล่าสุดได้สัมภาษณ์ ชูเฮย์ โยชิดะ ประธานของ Sony Interactive Entertainment Worldwide Studio เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 5 ปี ในการเปิดตัวเครื่อง PS4 ที่ญี่ปุ่น โดยระหว่างสัมภาษณ์ คุณโยชิดะได้ออกความเห็นเกี่ยวกับความรู้สึกเกี่ยวกับเครื่อง PS4 ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และพูดถึงทิศทางในอนาคตข้างหน้า
คุณโยชิดะบอกกับเราว่า เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงในสังคมคนเล่นเกมในญี่ปุ่น เกมเมอร์ที่อยู่ในวัย 40-50 ปี พวกเขาจะเน้นไปที่เกมผู้เล่นคนเดียวเป็นหลัก ในขณะที่กลุ่มเกมเมอร์วัย 20 ปี จะเพลิดเพลินไปกับเกม Call of Duty, Rainbow Six Siege และ Overwatch ซึ่งคุณโยชิดะบอกว่าวงการเกมของญี่ปุ่นในยุคนี้ดูเข้ากันได้ดีกับวงการเกมทั่วโลกมากขึ้น
ที่ผ่านมา Sony ได้สร้างความแตกต่างระหว่างเครื่อง PS3 และ PS4 อย่างเห็นได้ชัด เครื่อง PS3 นั้นมีประสิทธิภาพสูงคล้ายกับ Super Computer ที่เหมือนเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยความฝัน จากวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดในยุคนั้น ในขณะที่ PS4 จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและความสะดวกสบายในการใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งที่ผ่านมาต้องบอกว่าระดับการพัฒนาจากยุค PS3 มาถึง PS4 นั้นมีความน่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม คุณโยชิดะแสดงความเห็นว่า นับตั้งปีที่สองของยุค PS4 เป็นต้นมา ผมรู้สึกว่าค่ายผู้พัฒนาเกมหลายขายเริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับการนำเสนอ ถึงแม้จะมีเกมชั้นดีจากฝั่งญี่ปุ่นออกมาอย่าง Bloodborne แต่ค่ายอื่นๆ ไม่สามารถผลิตเกมได้มากตามที่วางแผนเอาไว้ก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน PS4 Pro สามารถแสดงความละเอียดของภาดได้ถึง 4K รวมถึงศักยภาพของเครื่องที่สูงขึ้น จนทำให้เกมอย่าง Horizon Zero Dawn, Detroit: Become Human และ Marvel’s Spider-Man ขายดิบขายดีในญี่ปุ่น
ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะก่อนหน้านั้นตลาดเกมของญี่ปุ่นค่อนข้างจะปิดกั้นเกมจากฝั่งตะวันตก ขณะเดียวกัน คุณโยชิดะได้ทิ้งท้ายว่า ถึงเวลาแล้วที่ค่ายเกมในญี่ปุ่นจำเป็นต้องแสดงความทะเยอทะยานและความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างเกมดีๆ ของฝั่งญี่ปุ่นขึ้นมาสู้กับเกมฝั่งตะวันตกบ้างในอนาคต
แปลโดย :Beer_Barbaro