วันที่ 25 มกราคม 2019 ที่จะถึงนี้ก็จะเป็นวันวางจำหน่ายของเกม Onimusha: Warlords บนเครื่อง PS4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC แล้วนะครับ โดยเกมนี้เป็นการนำเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่เคยจำหน่ายบนเครื่อง PS2 เมื่อปี 2001 กลับมารีมาสเตอร์อีกครั้ง ซึ่ง Onimusha ถือเป็นอีกซีรีส์จาก Capcom ที่มีแฟนๆ เรียกร้องให้ทำภาคต่อหรือนำมารีเมคมากที่สุดเกมนึงเลยทีเดียว และภาคแรกเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ก็น่าจะเป็นการหยั่งกระแสของแฟนๆ ดูด้วยว่ามีมากพอที่จะทำภาคต่อแล้วคุ้มหรือไม่กันแน่ ก่อนอื่นมาชมข้อมูลและความเป็นมาของเกมนี้กันดีกว่าครับ
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นอเมริกา
การพัฒนาและความเป็นมา
- ไอเดียในการสร้างเกม Onimusha ภาคแรกนี้เกิดขึ้นจากการที่คุณโยชิกิ โอคาโมโตะ หนึ่งในทีมพัฒนาของ Capcom เสนอความคิดว่าทำไมเราไม่ลองทำเกมแนว Resident Evil แต่มีธีมเนื้อเรื่องอยู่ในยุคประวัติศาสตร์เซ็นโกคุ พร้อมกับให้โลเคชั่นของเกมเป็นบ้านที่มีกลไกและกับดักแบบที่กบดานของพวกนินจาดูบ้างล่ะ ต่อมาคนอื่นๆ ในทีมพัฒนาเลยเอาด้วยกับความคิดดังกล่าว จนระดมความคิดกันออกมาเป็นโปรเจ็กต์พัฒนาเกมนี้ขึ้น และมีการวางแผนในช่วงแรกว่าจะลงให้กับเครื่อง Nintendo 64DD ที่เล่นด้วยดิสก์แม่เหล็ก ทว่าเจ้า Nintendo 64DD ดันมีปัญหาเรื่องความจุของตัวดิสก์ แถมไม่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นเลย ทีมพัฒนาจึงเปลี่ยนมาลงให้ PS1 แทน ก่อนจะยกเลิกอีกครั้งแล้วโยกงานทั้งหมดไปพัฒนาเพื่อลงให้กับ PS2 ในที่สุด
- ตอนแรกนั้น Onimusha ถูกวางโครงการให้เป็นเกมแบบไตรภาค (3 ภาคจบ) โดยมีคุณโนโบรุ สึกิมุระ รับหน้าที่เขียนเนื้อเรื่อง ซึ่งคุณสึกิมุระก็คือคนเดียวกับที่เขียนเนื้อเรื่องให้กับเกม Resident Evil 2 บน PS1 เมื่อปี 1998 นั่นเอง น่าเสียดายที่คุณสึกิมุระได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2005 ด้วยอายุเพียง 56 ปีครับ
- เพื่อที่จะให้ตัวละครในเกมมีสีหน้าและการเคลื่อนไหวที่สมจริง Capcom จึงนำเทคโนโลยี Motion Capture มาใช้ พร้อมกับดึงเอา ทาเคชิ คาเนชิโร่ (Takeshi Kaneshiro) นักแสดงหนุ่มที่กำลังดังไปทั่วเอเชียในขณะนั้น มาเป็นต้นแบบให้กับตัวละครซามาโนะสึเกะ ทั้งด้านแอ็กติ้งและให้เสียงพากย์เวอร์ชั่นญี่ปุ่น
- หลังจากวางขายบนเครื่อง PS2 มาได้ประมาณ 1 ปี ทาง Capcom ก็จัดการพอร์ตเกมนี้ลงเครื่อง Xbox ตามมาในปี 2002 และเปลี่ยนชื่อเกมเล็กน้อย เป็น Genma Onimusha โดยเวอร์ชั่น Xbox นี้มีการปรับปรุงกราฟิกให้คมชัดและเก็บรายละเอียดมากขึ้น พร้อมกับรองรับระบบเสียง Dolby 5.1 รวมถึงเพิ่มพื้นที่ใหม่ๆ ให้ได้สำรวจ และบอสใหม่ๆ ตลอดจนเปลี่ยนตำแหน่งปรากฏตัวของศัตรูและเพิ่มท่าชาร์จโจมตีกับอาวุธแต่ละชนิดด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเกมยังใส่ฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นวิญญาณสีเขียวเพิ่มเข้ามา โดยหากผู้เล่นดูดเอาวิญญาณสีเขียวเก็บไว้กับตัวครบ 5 ลูก ก็จะอยู่ในสภาพอมตะชั่วครู่ และระหว่างนั้นพลังชีวิตก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูทีละเล็กน้อย
- Onimusha: Warlords สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งให้กับ Capcom โดยเป็น 1 ในอีกหลายๆ ซีรีส์ที่ทำภาคแรกมาก็ปังเลย และสามารถทำยอดขายทั่วโลกไปได้ 3 ล้านชุด (นับจนถึงเดือนกรกฎาคม 2006 หรือหลังเกมวางจำหน่ายประมาณ 5 ปีเศษ)
เกมเพลย์
ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น ซามาโนะสึเกะ ซามูไรหนุ่มที่ต้องต่อกรกับเหล่าปีศาจที่เรียกว่า "เก็นม่า" โดยเมื่อเล่นไปสักระยะ ซามาโนะสึเกะจะได้รับไอเทมที่มีชื่อว่าปลอกแขนอสูร (Onimusha) ที่สามารถดูดเอาวิญญาณที่ลอยออกมาจากศพของเก็นม่าที่ถูกกำจัดมาเพิ่มความสามารถให้กับตัวเองได้ ซึ่งวิญญาณจะมีแบ่งเป็น 3 สี ได้แก่ สีแดง ที่ต้องสะสมเพื่อนำมันไปอัพเกรดให้กับปลอกแขนอสูรและอาวุธของเรา, สีน้ำเงิน จะช่วยฟื้นฟูเกจพลังเวทมนตร์ ที่จำเป็นในการใช้ท่าไม้ตาย และสีเหลือง ที่จะช่วยฟื้นพลังชีวิตให้เราได้
ทั้งนี้ ภายในเกมจะมีปริศนาให้ผู้เล่นขบคิดระหว่างทาง รวมถึงหีบสมบัติและทางลับต่างๆ และในช่วงกลางเกม จะมีบางเหตุการณ์ให้ผู้เล่นต้องสลับมาบังคับเป็น คาเอเดะ นินจาสาวที่เป็นผู้ช่วยของซามาโนะสึเกะแทน ซึ่งแม้ว่าเธอจะไม่มีอาวุธที่แข็งแกร่งและพลังโจมตีขนาดซามาโนะสึเกะ แต่สิ่งที่เธอมีทดแทนคือความปราดเปรียวนั่นเอง
ความลับต่างๆ ในเกม
ดาบบิชามอน (อาวุธสุดยอด)
- ภายในเกมเราจะได้เจอภูตตัวหนึ่งนามว่า มิโนโกโระ (Minogoro) ที่ปรากฏตัวต่อหน้าเราในลักษณะห้อยหัว เมื่อเราคุยกับมันก็จะสามารถเข้าไปลุยในดันเจี้ยนลับที่มีชื่อว่า Dark Realm ได้ ภายในนั้นจะมีด่านทดสอบทั้งหมด 20 ชั้น และแต่ละชั้นก็จะมีศัตรูมากมายให้เราปราบ หากเราสามารถเอาชนะเหล่าศัตรูในชั้นที่ 20 ได้สำเร็จ หีบก็จะโผล่ขึ้นมาเป็นรางวัล ข้างในจะเป็นขลุ่ยบิชามอน จากนั้นให้เราลุยไปจนถึงช่วงที่กำจัดบอส Marcellus ครั้งที่สองได้ เดินไปต่ออีกนิดนึงเราจะเจอประตูแปลกๆ ที่เหมือนมีโครงกระดูกรูปมือปิดทางอยู่ ให้เรากดใช้ขลุ่ยบิชามอนตรงนั้น ประตูจะเปิดออกให้เราเข้าไปเก็บดาบบิชามอนได้ ดาบดังกล่าวจะไม่ใช้เกจพลังเวทมนตร์เลย และมีพลังโจมตีสูงขนาดที่สามารถปราบศัตรูพวกลูกกระจ๊อกได้ภายในดาบเดียวด้วย
(ล่าง) ภูตมิโนโกโระ
ฟาร์มไอเทม Talisman
- เมื่อใดก็ตามที่เราเสียพลังชีวิตจนเกลี้ยงหลอด หากเรามีไอเทม Talisman อยู่กับตัว มันก็จะถูกใช้โดยอัตโนมัติ ทำให้ตัวเราฟื้นคืนชีพทันที ซึ่งการฟื้นคืนชีพ 1 ครั้งจะใช้ Talisman จำนวน 1 ชิ้น ทว่าหากเราเล่นเกมไปตามปกติจะเก็บไอเทมนี้มาได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น แต่มันมีวิธีฟาร์มอยู่ครับ โดยให้เราเข้าไปลุยใน Dark Realm ไปเรื่อยๆ มันจะมีอยู่ด่านนึงที่มีหีบที่เปิดแล้วได้ไอเทม Talisman เมื่อเก็บมาแล้วให้เราออกมาจาก Dark Realm แล้วกลับเข้าไปอีกครั้ง เวลาเราผ่านด่านเดิมที่เราเคยได้ Talisman ก็จะมีหีบที่เปิดแล้วได้ Talisman โผล่มาอีก เราสามารถใช้วิธีนี้ปั๊ม Talisman ได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดจำนวนครั้งครับ (ไม่เคลียร์ให้มันรู้ไป!)
ปลดล็อคความยากระดับ Easy
- ให้ยอมตายในการต่อสู้กับ Osric ที่เป็นบอสตัวแรกของเกมเป็นจำนวน 3 ครั้ง หลังจากนั้นให้กลับมาที่หน้าไตเติ้ลจะมีโหมด Easy ให้เราเลือกเวลาเราเข้าไปที่ New Game แต่ในความยากระดับ Easy นี้ ผู้เล่นจะได้แรงค์สูงสุดหลังจบเกมเพียงแค่ A เท่านั้น (หากจะเอาแรงค์ S ต้องเล่น Normal ขึ้นไปจ้า)
(ล่าง) โฉมหน้าของ Osric
ชุดพิเศษของซามาโนะสึเกะ
- เคลียร์เกมโดยเก็บไอเทมที่ชื่อว่าฟลูออไรท์ (Fluorite) มาให้ได้อย่างน้อย 10 ชิ้น พอเซฟเกมแล้วกลับมาหน้าไตเติ้ล ให้เลือก New Game และเลือก Extra ที่หัวข้อ Samanosuke เมื่อเริ่มเกมอีกรอบ ซามาโนะสึเกะก็จะสวมชุดพิเศษครับ (สามารถเลือกปรับให้ถอดหรือใส่หมวกได้ด้วยการกดปุ่ม L2)
ชุดพิเศษของคาเอเดะ
- เคลียร์เกมโดยได้แรงค์ S พอเซฟเกมแล้วกลับมาหน้าไตเติ้ล ให้เลือก New Game และเลือก Extra ที่หัวข้อ Kaede เมื่อเริ่มเกมอีกรอบ คาเอเดะก็จะสวมชุดพิเศษครับ
ปลดล็อคมินิเกม Oni Spirits
- เคลียร์เกมโดยเก็บไอเทมที่ชื่อว่าฟลูออไรท์ (Fluorite) มาให้ครบ 20 ชิ้น พอเซฟเกมแล้วกลับมาหน้าไตเติ้ล จะสามารถเข้าไปเล่นมินิเกมนี้ได้จากหัวข้อ Special Feature
ปลดล็อคระดับความยาก Ultimate
- เล่นมินิเกม Oni Spirits ให้เคลียร์อย่างน้อย 1 รอบ เซฟเกมแล้วกลับมาหน้าไตเติ้ล ก็จะมีโหมด Ultimate ให้เราเลือกเวลาเราเข้าไปที่ New Game