หนึ่งในสิ่งที่เกมเมอร์สายพีซีรอกันมานานก็ได้กลับมาแล้วอีกครั้งในปีนี้อย่างเทศกาลลดกระหน่ำราคาเกม Steam Winter Sale โดยเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าวันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 3 มกราคมปีหน้า แน่นอนว่าแทบทุกเกมใน Steam ตอนนี้กำลังลดราคาได้ล่อตาล่อใจให้ควักเงินในกระเป๋า แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะซื้อเกมอะไรดีในช่วงนี้ ทาง Online Station ขอแนะนำ 5 เกมคุณภาพที่กล้ารับประกันได้แน่นอนว่าคุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป เกมที่จะแนะนำต่อไปนี้มีทั้งเกมฟอร์มยักษ์จากทีมพัฒนาชื่อดังจนไปถึงเกมอินดี้ขนาดเล็กแต่คุณภาพไม่เล็กตาม
5. Dead Cells (ทีมพัฒนา Motion Twin วางจำหน่ายครั้งแรก เดือนสิงหาคม ปี 2018)
หากคุณชอบเกมสไตล์ Metroidvania ที่ต้องเดินทางไปมาเกมและเน้นการสำรวจเส้นทางใหม่ๆ และเกมสไตล์ Roguelike ที่หากตายจะต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกรวมถึงแผนที่และศัตรูในฉากเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็จะต้องชอบเกมนี้อย่างแน่นอน เพราะสำหรับ Dead Cells ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นปรสิตที่เข้าไปสิงร่างนักโทษปริศนาและต้องผจญภัยไปในแผนที่ทั้งหมด 13 ด่าน, บอส 4 ตัว หากว่าตายระหว่างทางก็จะต้องกลับมาเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
ฟังดูแล้วอาจจะดูยาก แต่เมื่อผู้เล่นสังหารศัตรูได้ก็จะมีโอกาสได้รับ Cell ซึ่งสามารถนำไปอัพเกรดไอเท็มต่างๆ ในเกมหลังผ่านด่านนั้นได้ การอัพเกรดทุกครั้งจะถาวรและไม่ถูกรีเซ็ตเมื่อผู้เล่นเล่นใหม่อีกครั้ง เรียกว่ายิ่งผู้เล่นตายเยอะครั้งมากเท่าไหร่ก็จะเริ่มเก่งขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นเสน่ห์อันแสนแปลกประหลาดของเกมนี้
ราคา: 311.20 บาท จากราคาเต็ม 389.00 บาท (ลดลงมา 20%)
4. Stardew Valley (ทีมพัฒนา ConcernedApe วางจำหน่ายครั้งแรก เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016)
หากเกมเมอร์คนไหนเคยผ่านยุค PlayStation 1 และ 2 คงคุ้นเคยกับแฟรนไชส์เกมเลี้ยงสัตว์ทำไร่ทำนาอย่าง Harvest Moon ที่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ายุคหนึ่งเคยครองใจเกมเมอร์ไทยหลายๆ คนเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาค Back to Nature และ A Wonderful Life ฉะนั้นเกมเมอร์คนไหนอยากย้อนวันวานกลับไปสัมผัสประสบการณ์ทำฟาร์มของตัวเองใน Steam ละก็คงไม่มีเกมไหนเหมาะสมไปกว่า Stardew Valley ที่พัฒนาโดยคนคนเดียวอย่าง ConcernedApe
แม้ว่าเกมจะวางจำหน่ายมา 2 ปีจนจะเข้าปีที่ 3 แล้ว ตัวเกมก็ยังมีการอัพเดตอย่างต่อเนื่องและฟรีโดยไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม ยิ่งการอัพเดตครั้งล่าสุดอย่างการเพิ่มระบบ Multiplayer ก็ทำให้เหมาะที่จะจับกลุ่มรวมกับเพื่อนมาทำไร่ทำสวนไปด้วยกันในเกม
ราคา: 236.25 บาท จากราคาเต็ม 315.00 บาท (ลดลงมา 25%)
3. Overcooked 2 (ทีมพัฒนา Ghost Town Games วางจำหน่ายครั้งแรก เดือนสิงหาคม ปี 2018)
ภาคต่อของเกมอภิมหาความป่วนแห้งห้องครัวที่ภาคนี้ทีมพัฒนายังรู้สึกว่าเกมท้าทายไม่พอ ก็เลยใส่อุปสรรคมาขัดขวางผู้เล่นไม่ให้ทำอาหารร่วมกันได้ง่ายๆ Overcooked จะให้ผู้เล่นรับบทเป็นพ่อครัวแม่ครัวประจำร้านอาหาร ผู้เล่นสามารถร่วมมือกันสูงสุด 4 คนเพื่อเอาชนะในเกมให้ได้ ตัวเกมอาศัยการสื่อสารจากกลุ่มผู้เล่นเป็นหลัก เพราะแต่ละคนจะได้ทำหน้าที่แตกต่างกันไปในห้องครัว จึงต้องอาศัยทีมเวิร์กและการสื่อสารที่ดีเพื่อผ่านด่านนั้นไปให้ได้
เรียกว่าเป็นเกมที่เสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างเพื่อนฝูง, ครอบครัว, และคนรักได้อย่างดี หรือว่าจะตรงกันข้ามกันแน่ ? ภาคนี้ยังได้อัพเดตระบบเล่นแบบออนไลน์เพิ่มเข้ามา ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นร่วมกันกับเพื่อนๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้สะดวกยิ่งขึ้นเข้าไปอีก
ราคา: 239.25 บาท จากราคาเต็ม 319.00 บาท (ลดลงมา 25%)
2. Assassin’s Creed: Odyssey (ทีมพัฒนา Ubisoft Quebec และ Ubisoft Montreal วางจำหน่ายครั้งแรก เดือนตุลาคม ปี 2018)
ภาคต่อและภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ภาคีนักฆ่า ที่ในภาคนี้ผู้เล่นไม่ได้รับบทเป็น Assassin แล้ว แต่เป็นทหารรับจ้าง Mercenary แทน นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถเลือกที่จะเล่นเป็นตัวละครหญิงหรือชายได้อีกด้วย สำหรับภาค Odyssey ถือเป็นการสานต่อระบบหลายๆ ระบบจากภาค Origins โดยนำมาขัดเกลาให้ดียิ่งขึ้นและความเป็น RPG ให้แก่เกมมากขึ้น ผู้เล่นจึงมีอิสระในการทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามในโลกของกรีกยุคโบราณตามใจต้องการ
งานศิลป์และภาพในเกมก็ถูกปรับปรุงจากภาค Origins ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายให้กลายเป็นพื้นที่ป่าเขาเพิ่มความเขียวขจีและความหลากหลายทางธรรมชาติมากขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะมีใครบอกว่าภาคนี้เป็นเกมแฟรนไชส์ Assassin’s Creed ที่ภาพสวยที่สุด นอกเหนือจากนี้ที่น่าสนใจคือส่วนของราคาที่ได้ลดลงมาในเวอร์ชั่น Steam ถึง 50% ทำให้จากราคาเต็มที่ 1,800 บาทถูกลดเหลือแค่ 900 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจจากการที่วางจำหน่ายได้ไม่ถึง 3 เดือน
ราคา: 900 บาท จากราคาเต็ม 1,800 บาท (ลดลงมา 50%)
1. The Witcher 3: Wild Hunt - Game of the Year Edition (ทีมพัฒนา CD Projekt Red วางจำหน่ายครั้งแรก เดือนสิงหาคม ปี 2016)
แม้จะผ่านมาแล้วเกือบ 4 ปีสำหรับเกมภาคที่และภาคสุดท้ายของ Geralt of Rivia อย่าง The Witcher 3 ก็ยังถือว่าเป็นเกมที่เกมเมอร์คนในก็ตามที่ชอบเกมแนว Action-RPG จะต้องลองเล่นสักครั้งในชีวิต เพราะนอกจากจะมีเนื้อเรื่องหลักและเนื้อเรื่องของบรรดาเควสต์เสริมที่เข้มข้นแล้ว ตัวเกมก็มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบให้ผู้เล่นได้สำรวจและทำ จึงไม่แปลกใจที่ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นคนไหนก็ต่างใช้เวลาเกิน 100 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
เพราะทางทีมพัฒนา CD Projekt RED ได้ใส่ใจพัฒนาร่วมหลายปี สำหรับ The Witcher 3 เองยังมี DLC อยู่ 2 ตัวที่อย่าง Hearts of Stone และ Blood and Wine ที่ควรจะเรียกว่าเป็นภาคเสริมดีกว่า เนื่องจากเนื้อหาใน DLC 2 ตัวนี้มีความละเอียดๆ พอกับเกมหลักเลยทีเดียว เกมเมอร์คนใดที่ยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์สุดยอดเกม RPG แบบนี้ก็ควรที่จะลองดูสักครั้งในชีวิต
ราคา: 519.60 บาท จากราคาเต็ม 1,299 บาท (ลดลงมา 60%)
หวังว่าหลังจากอ่านแล้วผู้อ่านก็น่าจะมีเกมในใจกันไปแล้วว่าอยากจะซื้อเกมใดไว้เล่นช่วงปลายปีเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเกมที่กำลังเล็งอาจจะไม่ใช่เกมจากรายชื่อ 5 อันดับนี้ทาง Online Station ก็ขอให้ผู้อ่านมีความสนุกจากการเล่นเกมที่ซื้อมาละกันนะครับ และอย่าลืมซื้อเกมจนเงินหมดกระเป๋านะครับ ไม่งั้นคงต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปสักพักแน่ๆ เลย เพื่อนๆ สามารถคลิกดูเกมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ store.steampowered.com
