ในยุคที่เครื่อง PS1 กำลังครองเมือง นอกจากซีรีส์ Resident Evil จะได้ถือกำเนิดในยุคดังกล่าว และเป็นเกมที่สร้างชื่อและรายได้ให้กับ Capcom อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว ช่วงปลายของเจน PS1 ทาง Capcom ก็ได้พัฒนาเกมแนวเดียวกันมาอีกซีรีส์หนึ่ง ซึ่งก็คือ Dino Crisis อีกหนึ่งผลงานกำกับและสร้างโดย ชินจิ มิคามิ ที่ผู้คนในวงการเกมรู้จักเขากันดีในฐานะผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Resident Evil นั่นเอง และในบทความนี้ทีมงาน OS จะพาเพื่อนๆ ไปรำลึกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเกมนี้กันครับ
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นอังกฤษ
การพัฒนาและความเป็นมา
เกมนี้เป็น 1 ในผลงานจากโปรเจ็กต์ที่พัฒนาโดย ชินจิ มิคามิ และทีมงานอีกส่วนหนึ่ง ที่ภายหลังพวกเขาได้ไปก่อตั้งสตูดิโอแยก แต่ยังอยู่ภายใต้การดูแล Capcom ที่มีชื่อว่า Studio 4 ซึ่งตอนแรกมิคามิตั้งใจว่าจะทำเกมแนว Suvival Horror อีกสักเกมที่มีกลิ่นอายคล้ายกับ Resident Evil แต่อยากจะให้ตัวเกมมีธีมที่ดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นก็ปิ๊งไอเดียธีมไดโนเสาร์ขึ้นมา เพราะมันมีขนาดร่างกายที่ใหญ่ อีกทั้งพวกมันมีความแข็งแกร่ง ดูน่ากลัว และดุร้าย ประกอบกับมิคามิเองก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง The Lost World: Jurassic Park และ Aliens ด้วย (เรื่องหลังได้นำแรงบันดาลใจมาใช้ในแง่ของธีมเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ต่างๆ)
แต่ด้วยความที่เหล่าไดโนเสาร์ได้สูญพันธุ์ไปนานกว่า 65 ล้านปีแล้ว เลยไม่มีใครทราบได้ว่าไดโนเสาร์มันเคลื่อนไหวกันอย่างไรในโลกความเป็นจริง ตามสื่อบันเทิงต่างๆ อย่างภาพยนตร์ก็ใช้วิธีจำลองการเคลื่อนไหวที่คาดว่าพวกมันจะใช้กันในอดีต เช่นเดียวกับทีมงานที่ร่วมทำเกม Dino Crisis ที่ก็ต้องจินตนาการกันเอาเอง โดยยึดเอาสัตว์อย่างจระเข้และสุนัขมาเป็นต้นแบบ ส่วนทางด้าน AI ของพวกไดโนเสาร์ในเกมก็ยึดแบบอย่างจากสิงโต, เสือ และสัตว์กินเนื้อชนิดอื่นๆ มาใช้ เนื่องจากพวกมันไม่กลัวมนุษย์นั่นเอง ต่อมามิคามิก็รู้สึกว่าลำพังแค่ใส่ไดโนเสาร์เข้ามามันยังไม่ตอบโจทย์เต็มที่ ก็เลยใส่พฤติกรรมของบรรดาไดโนเสาร์ให้มีความฉลาด สามารถสังเกตสถานะและตำแหน่งของตัวละครเพื่อลอบเข้ามาทำร้ายเราได้
สำหรับเกม Dino Crisis นั้นถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Game Show ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1999 (ราวๆ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ต่อมาก็วางจำหน่ายเวอร์ชั่นญี่ปุ่นบน PS1 ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกันทันที หรือราวๆ 2 เดือนก่อนที่เกม Resident Evil 3 จะวางขาย และตัวเกมถือว่าประสบความสำเร็จพอตัว โดยเวอร์ชั่น PS1 สามารถทำยอดขายทั่วโลกไปได้ 2.4 ล้านชุด แต่คะแนนรีวิวเฉลี่ยจากกลุ่มผู้เล่นและบรรดาสื่อมวลชนกลับได้น้อยกว่าภาค 2 ที่เน้นไปในแนวแอ็กชั่นมากกว่า บ้างก็นิยาม Dino Crisis ภาคแรกว่าเป็น Resident Evil ที่มีศัตรูเป็นไดโนเสาร์กันเลย (ฮา)
กราฟิกและเกมเพลย์
Dino Crisis ถือเป็นเกมแนว Survival Horror ตัวแรกๆ ของทาง Capcom ที่เริ่มปฏิวัติการใช้มุมกล้องและงานกราฟิกที่ ณ เวลานั้น เกมเมอร์ยังชินตากับ Resident Evil ซึ่งใช้เทคโนโลยีพรีเรนเดอร์ ที่เป็นการนำโพลีกอนของตัวละครมาเคลื่อนที่อยู่บนฉากหลังที่เป็นภาพนิ่ง แต่ในกรณีของ Dino Crisis ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ฉากหลังแบบ 3D โพลีกอนแทน ข้อดีคือทำให้มุมกล้องสามารถแพนตามตัวละครที่วิ่งไปมาในฉากได้เต็มที่ ทว่าคุณภาพของโพลีกอนบน PS1 ในยุคนั้นก็ยังไม่ค่อยเอื้อให้ดูสวยกว่าการพรีเรนเดอร์เท่าไหร่นัก (มาดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดก็เข้ายุค PS2 ไปแล้ว)
ลักษณะการบังคับของเกมนี้ โดยทั่วไปจะมีความคล้ายกับ Resident Evil อยู่หลายด้าน แต่จะมีความแตกต่างตรงรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ระบบไอเทมฟื้นพลัง ซึ่งเมื่อเราถูกไดโนเสาร์โจมตี ในบางครั้งเราจะติดสถานะ Bleeding หรือมีเลือดไหลและหยดลงตามทางตลอดเวลา ผลที่เกิดจากการติดสถานะนี้จะคล้ายกับการติดพิษใน Resident Evil ก็คือพลังชีวิตของเราจะลดลงไปเรื่อยๆ วิธีแก้คือต้องหายาห้ามเลือด (Hemostat) มาใช้ โดยจะหาได้ตามตู้เก็บยาที่อยู่ในบางห้อง หรือจะผสมสารเคมีเพื่อสร้างยาห้ามเลือดขึ้นมาเองก็ได้
ทั้งนี้ นอกจากยาห้ามเลือดแล้ว ผู้เล่นยังสามารถผสมสารเคมีเพื่อสร้างไอเทมอื่นๆ ได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นยาฟื้นพลังชีวิต หรือลูกดอกยาสลบชนิดต่างๆ ตลอดจนลูกดอกอาบยาพิษ ที่สามารถสังหารไดโนเสาร์ได้ในเวลาอันสั้น ขณะเดียวกัน ระหว่างที่เราต่อสู้กับพวกมัน บางครั้งมันก็จะมีรูปแบบการโจมตีที่ทำให้อาวุธกระเด็นออกจากมือเราได้ด้วย และเราก็ต้องเสียเวลาไปเก็บมันขึ้นมาใหม่ ซึ่งไดโนเสาร์ที่เราจะได้ต่อสู้ด้วยในเกมล้วนมีลูกเล่นแพรวพราว ไม่ได้เชื่องช้าเหมือนซอมบี้ใน Resident Evil ดังนั้นการกำจัดมันจึงต้องอาศัยทริคในการวิ่งหรือจับจังหวะในการยิงแล้วสเต็ปหลอกเอาเป็นระยะ หากอาวุธในมือของเราไม่มีอานุภาพมากนัก
เนื้อเรื่องย่อ ***มีการสปอยล์แบบเต็มๆ นะครับ***
ในปี 2009 ทางหน่วยปฏิบัติการลับที่มีชื่อว่า SORT ได้ส่งเจ้าหน้าที่นามว่า ทอม ไปสำรวจสถานีวิจัยแห่งหนึ่งที่อยู่บนเกาะไอบิส พอสืบไปสืบมา ทอมก็พบว่าด็อกเตอร์เอ็ดเวิร์ด เคิร์ค นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกที่เคยมีข่าวว่าเสียชีวิตไปตั้งแต่ 3 ปีก่อนเป็นหัวหน้าโปรเจ็กต์พัฒนาอาวุธอย่างลับๆ ในสถานีวิจัยดังกล่าว จากนั้นหน่วย SORT จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่อีก 4 คน ได้แก่ เรจิน่า, เกล, ริค และ คูเปอร์ เพื่อตามมาสมทบ โดยมีเป้าหมายภารกิจคือจับตัวเคิร์คมาให้ได้ ซึ่งสมาชิกหน่วย SORT ทั้ง 4 ได้กระโดดร่มลงมายังเกาะไอบิสในตอนกลางดึก ทว่าระหว่างที่โดดลงมานั้น ร่มของคูเปอร์ดันโดนลมกรรโชกทำให้เขาไปลงที่กลางป่า จนถูกสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายไทแรนโนซอรัส (T-Rex) จับกินในที่สุด ขณะที่อีก 3 คนที่เหลือที่ร่อนลงมายังสถานีวิจัยได้ตามปกติต่างก็ไม่ทราบความเป็นไปของคูเปอร์ ทั้งหมดเลยต้องร่วมปฏิบัติการกันตามจำนวนคนที่มี
ภายในสถานีวิจัย ทั้ง 3 คนได้พบกับศพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและนักวิทยาศาสตร์เป็นจำนวนมาก บ้างก็เจอแต่ชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ตกตามจุดต่างๆ รวมทั้งได้เจอกับไดโนเสาร์พันธุ์ดุร้ายชนิดต่างๆ เพ่นพ่านอยู่ทั่วสถานีวิจัย เลยมั่นใจว่าเจ้าพวกนี้น่าจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้คนเหล่านั้นแน่นอน ไม่นานนัก เรจิน่าก็จัดการซ่อมเสาอากาศของสถานีวิจัยได้สำเร็จ และก็เป็นเวลาเดียวกับที่เธอได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากใครบางคน ซึ่งเธอคาดว่าอาจจะเป็นคูเปอร์หรือไม่ก็ทอม ริคเลยอยากจะไปเช็คดูยังต้นตอของสัญญาณ แต่เกลกลับค้าน พร้อมกับบอกว่าตนอยากจะไปเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดมากกว่า เผื่อว่าจะได้เจอตัวเคิร์ค ตรงจุดนี้ผู้เล่นจะต้องเลือกว่าจะตามเกลหรือริคไป
- ถ้าเลือกตามเกล เรจิน่ากับเกลจะไปพบกับชายลึกลับคนนึงเข้า แต่พอจะวิ่งไล่ตามไปก็ดันคลาดกัน ชายลึกลับสามารถหนีไปได้ แล้วริคจะติดต่อเข้ามาว่าทอมเสียชีวิตแล้ว
- ถ้าเลือกตามริค เรจิน่ากับริคจะพบทอมที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ ริคเลยพยุงร่างทอมไปยังห้องปฐมพยาบาล แต่ดันเจอแรพเตอร์เข้ามาทำร้าย ทอมเลยจำต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อฆ่ามันและช่วยริคไว้ได้
ต่อมา เรจิน่า เกล และริคก็พบเคิร์คและจับกุมตัวเอาไว้ได้ จึงติดต่อให้เฮลิคอปเตอร์มารับพวกตนทันที ทว่า T-Rex ก็ดันโผล่ออกมาและโจมตีเฮลิคอปเตอร์จนพังยับ ทำให้พวกเรจิน่าต้องหนีกลับเข้าไปในสถานีวิจัย และเคิร์คก็อาศัยจังหวะชุลมุนหนีไปได้ จากนั้นเรจิน่าก็พบกับประตูมิติเข้า ริคสันนิษฐานว่านี่น่าจะเป็นประตูกาลเวลาที่ดึงเอาเหล่าไดโนเสาร์จากในอดีตหลายร้อยล้านปีก่อนมาอยู่ในยุคปัจจุบัน พอเรจิน่ากับริคจะสืบหาเบาะแสเพิ่มเติม เรจิน่าก็ถูกเคิร์คเอาปืนมาจ่อ เคราะห์ดีที่เกลมาช่วยได้ทัน และจับตัวเคิร์คไว้ได้อีกครั้ง เคิร์คยอมรับสารภาพว่าที่พวกไดโนเสาร์ถูกดึงเข้ามาผ่านมิติกาลเวลาได้นั้น เป็นเพราะผลการทดลองที่ตนเองกำลังวิจัยอยู่ ซึ่งก็คือเรื่องเทคโนโลยีพลังงานที่สาม ที่สามารถสร้างประตูเวลาเชื่อมต่อระหว่างเกาะไอบิสในยุคปัจจุบันกับยุคดึกดำบรรพ์นั่นเอง เคิร์คกล่าวว่าถ้าตัวเตาปฏิกรณ์ถูกเซ็ตให้ทำงานจนโอเวอร์โหลด พลังงานและประตูมิติก็จะหายไป เรจิน่าจึงไปหาวิธีทำให้เตาปฏิกรณ์โอเวอร์โหลดได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วสถานีวิจัย กระทั่งเพดานถล่มลงมาทับร่างเกล เคิร์คเลยหนีรอดไปได้อีก
ถึงตอนนี้ เรจิน่ากับริคจำเป็นต้องพาร่างเกลหนีลงไปทางระบายน้ำใต้ดินเพื่อหนีแรงระเบิด แต่เกลที่บาดเจ็บหนักก็ยังยืนกรานที่จะไปจับเคิร์คกลับมาให้ได้ พร้อมกับสั่งเรจิน่ากับริคว่าให้หนีเอาตัวรอดไปเองได้เลยหากเขาไม่กลับมาภายใน 30 นาที และผู้เล่นจะต้องทำการเลือกเส้นทางอีกครั้ง โดยฉากจบของเกมจะมีทั้งหมด 4 แบบ ขึ้นอยู่กับการเลือกของผู้เล่น
ฉากจบที่ 1
- เรจิน่าตัดสินใจอัดเกลจนสลบ แล้วช่วยริคพาเกลไปขึ้นโฮเวอร์คราฟต์ที่จอดอยู่ แต่แล้วระหว่างที่เดินทางด้วยโฮเวอร์คราฟต์ เจ้า T-Rex ก็ยังไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ ริคเลยยิงปืนจรวดสวนกลับไป ปรากฏว่าจรวดได้พุ่งใส่ถังเชื้อเพลิง ทำให้เกิดแรงระเบิดมหาศาลจนเตาปฏิกรณ์โอเวอร์โหลด ส่งผลให้ T-Rex และไดโนเสาร์ตัวอื่นๆ บนเกาะตายเรียบ เรจิน่า เกล และริคเลยหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนเคิร์คก็หนีลอยนวลไปได้
ฉากจบที่ 2
- เรจิน่าเลือกตามเกลไปช่วยจับเคิร์คจนสำเร็จ ซึ่งเกลสามารถรู้ตำแหน่งของเคิร์คได้จากเครื่องติดตาม สักพักเกลก็เริ่มทนพิษบาดแผลไม่ไหว ก่อนจะเปิดใจกับเรจิน่าว่าเป้าหมายที่แท้จริงของภารกิจนี้ก็คือชิงเอาข้อมูลพลังงานที่สามกลับมาให้ได้ ส่วนการตามจับเคิร์คเป็นเพียงภารกิจฉากหน้า แล้วเกลก็เสียชีวิตลง ในที่สุด เรจิน่า ริค และเคิร์คก็หนีออกจากเกาะได้ด้วยโฮเวอร์คราฟต์
ฉากจบที่ 3
- เรจิน่าเลือกทำตามแผนของริค ด้วยการหาทางชิงเอาข้อมูลพลังงานที่สามมาให้ได้โดยใช้เครื่องติดตาม และเธอก็พบกับเคิร์คที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งเจ้าตัวพยายามจะหนีด้วยเฮลิคอปเตอร์ แต่เรจิน่าไปขวางได้ทันและอัดเคิร์คจนสลบ จากนั้นเรจิน่า เกล ริค และเคิร์คก็โดยสารเฮลิคอปเตอร์ออกมา พร้อมกับจัดการ T-Rex ด้วยการหย่อนระเบิดใส่
ฉากจบที่ 4
- เรจิน่าเลือกที่จะช่วยเกลจับตัวเคิร์คเหมือนฉากจบที่ 2 แต่แทนที่จะลงไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั้นใต้ดินก่อน ก็ให้เปลี่ยนไปยังจุดที่เกลล้มลงสิ้นใจตายในฉากจบที่ 2 แทน หากเป็นไปตามนี้ เรจิน่าจะบอกเกลว่าพวกตนยังสามารถหนีไปโดยเฮลิคอปเตอร์ได้อยู่ สุดท้าย ทั้งเรจิน่า เกล ริค และเคิร์คก็จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนีออกมาได้ รวมทั้งจัดการ T-Rex ที่ตามมารังควานสำเร็จ