เรียกได้ว่าทาง Pearl Abyss ได้โหมรุกตลาดเกมออนไลน์ในไทยอย่างต่อเนื่องครับ โดยในงาน Thailand Game Show ปีนี้ ทางบริษัทก็ได้ขนเอาเกม Black Desert: Remastered มาโชว์กันเต็มที่ พร้อมด้วยบูธขนาดใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งนอกเหนือไปจากเกมที่จัดแสดงภายในบูธและกิจกรรมอื่นๆ แล้ว ทางทีมงาน OS ยังได้รับเกียรติเข้าไปสัมภาษณ์ทีมผู้บริหารจากเกม Black Desert ถึงทิศทางของเกม แผนการตลาดในประเทศไทย ตลอดจนข้อมูลสุด Exclusive เรามาชมบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่าครับ
OS: อยากทราบว่าทาง Pearl Abyss มีมุมมองอย่างไรกับตลาดเกมออนไลน์ในไทย ณ ขณะนี้ครับ?
A: ตอนแรกทางเราก็ได้มา Business Trip ที่เมืองไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมของปี 2017 แต่ตอนนั้นทางเรายังไม่ค่อยเห็นภาพที่ชัดเจนเท่าไหร่ โดยก่อนหน้าที่เราจะมาเมืองไทย เราก็ได้ยินมาว่าเกมออนไลน์บน PC ที่นี่ไม่ค่อยดังนัก คนไทยไม่นิยมเล่นเกมออนไลน์บน PC แต่พอได้มาเยือนเมืองไทยแล้วก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก และรู้เลยว่าเขามาเปิดตัวเกม Black Desert ได้ถูกที่ถูกเวลาแล้ว อีกทั้งเสียงตอบรับจากผู้เล่นในไทยก็ดีมากๆ ด้วย
OS: ไม่ทราบว่าอะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการทำตลาดที่เมืองไทยครับ?
A: สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดคือเรื่องคุณภาพของตัวเกมครับ ซึ่งของไทยอาจจะไม่ได้มีคุณภาพเทียบเท่ากับที่เกาหลี ความท้าทายจึงเป็นการทำคุณภาพเกมในไทยให้ทัดเทียมกับของเกาหลีนั่นเอง ส่วนเรื่องของเน็ตเวิร์คหรือคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนเล่นในไทยถือว่าดีมากๆ ครับ
OS: ถ้าว่ากันตามตรง ตลาดเกม MMORPG ในไทยก็ซบเซาลงไปมากแล้ว อยากทราบว่าอะไรที่ทำให้ Black Desert ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ และมีอะไรที่แตกต่างจากเกม MMORPG เกมอื่นบ้าง?
A: ส่วนนึงอาจจะเพราะเกม MMORPG เกมอื่นได้อยู่ในช่วงขาลงกัน แต่ Black Desert นั้นยังคงมีการลงทุนและปรับปรุงพัฒนาตัวเกมอยู่ตลอด นอกจากนี้เซิร์ฟเวอร์ของ Black Desert ก็มีการอัพเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ด้วย
OS: โร้ดแมพของเกม Black Desert จะมีต่อไปจนถึงเมื่อไหร่ครับ?
A: อย่างเซิร์ฟเวอร์ไทยเนี่ย จะเริ่มเปิดให้บริการหลังเกาหลีประมาณ 3 ปี ซึ่งตอนนี้เซิร์ฟเวอร์ไทยเพิ่งจะมีอายุ 1 ปี ส่วนเกาหลีก็เพิ่งจะครบรอบ 4 ปีไป ทางเซิร์ฟเวอร์ไทยจึงทยอยอัพเดตเพื่อไล่ตามเซิร์ฟเวอร์เกาหลีให้ทัน และช่วงต้นปี 2019 แพตช์ของเซิร์ฟเวอร์ไทยก็จะไล่ตามเซิร์ฟเวอร์เกาหลีได้ทันพอดี โดยตอนนี้เราก็พยายามเพิ่มตัวละครและแมพใหม่ๆ ลงไปเพิ่ม ซึ่งตัวละครใหม่จะชื่ออาเชอร์ และมีแผนจะปล่อยพร้อมกันในเซิร์ฟเวอร์ทุกประเทศที่เปิดให้บริการ อย่างช้าสุดก็ไตรมาสแรกของปี 2019 ครับ
OS: หลังจากเกม Black Desert นี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวเกมใหม่ๆ ตามมามั้ยครับ?
A: เรามี Black Desert เวอร์ชั่นมือถือที่เพิ่งเปิดตัวในเกาหลีไป ตอนแรกในไทยและประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงปลายปี 2018 นี้ แต่ไทยยังติดปัญหาเรื่องการแปลภาษาในเกมให้เป็นภาษาไทยเสียก่อน ดังนั้นเวอร์ชั่นภาษาไทยบนมือถือน่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปี 2019 ครับ และนอกจาก Black Desert แล้ว ทางเรายังมีแผนที่จะเปิดตัวเพิ่มอีก 2-3 เกมในอนาคตด้วย ซึ่งไม่นานมานี้ก็มีบริษัทที่พัฒนาเกม Counter-Strike ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อร่วมลงทุนกับเราในการที่จะทำเกมแนวชู้ตติ้งร่วมกัน และเกมดังกล่าวก็จะไม่ใช่เกมแนว Battle Royale ทั่วไป แต่จะมีการเน้นวางกลยุทธ์ ชิงไหวชิงพริบยิ่งกว่านั้น และจะลงแพลตฟอร์มมือถือด้วย ในขณะที่มีอีกเกมนึงจะเป็นแนว MMORPG ที่มีความเป็นแคชชวลมากกว่า Black Desert โดยมีกำหนดเปิดให้บริการไม่เกิน 1-2 ปีข้างหน้านี้แน่นอน
OS: อย่างเกม Ragnarok Online เขาจะมีการสร้างแมพที่เป็นเมืองไทยเพื่อส่งเสริมการตลาดกับผู้เล่นในไทย แล้วอย่าง Black Desert เราจะได้เห็นอะไรลักษณะนี้บ้างมั้ยครับ?
A: คงต้องยอมรับว่าเรายังทำไม่ได้ขนาดนั้น เพราะเกมของเรามีการเปิดให้บริการหลายประเทศมาก ถ้าไล่ทำให้ทุกประเทศ ทางบุคลากรของเราจะยังไม่มีความพร้อมในเรื่องนี้ แม้แต่ในเกาหลีเองก็ยังไม่มีนโยบายการทำเช่นนี้เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้มีเทศกาลเฉพาะบางช่วงเวลาในแต่ละประเทศ จะมีความเป็นไปได้มากกว่า
OS: มีอะไรอยากฝากถึงเกมเมอร์ในไทยบ้างครับ?
A: อย่างแรกเลย เรารู้สึกเสียใจที่เซิร์ฟเวอร์ในไทยเปิดให้บริการช้ากว่าเกาหลีถึง 3 ปี แต่ถึงกระนั้นเขารู้สึกว่าคิดถูกมากๆ ที่ได้มาเปิดให้บริการเกม Black Desert ในไทย และเกมเมอร์ในไทยก็ให้การตอบรับที่ดีมากๆ สำหรับเกม Black Desert ถือเป็นเกมแรกของบริษัท ก็อยากให้เกมนี้ได้เข้าไปอยู่ในใจคนไทยตราบนานเท่านาน นอกจากในงาน Thailand Game Show ปีนี้แล้ว ทางเราก็อยากจะจัดงานที่เป็นแนว Fan Festival สำหรับแฟนเกม Black Desert โดยเฉพาะในอนาคต และจัดแบบต่อเนื่องด้วย
เพื่อนๆ สามารถแวะชมกิจกรรมต่างๆ ของเกม Black Desert ได้ที่บูธ Pearl Abyss ภายในงาน Thailand Game Show 2018 ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2018 ครับ