ณ เวลานี้ ถ้าเราจะพูดถึงยอดเกมเมอร์ในฝั่งเครื่องเกมคอนโซลอย่าง PS4 และเป็นสายนักล่าโทรฟี่ เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึง Hakoom เป็นคนแรกๆ แน่นอน ซึ่งล่าสุด Hakoom หรือชื่อจริงว่า ฮาคาม คาริม (Hakam Karim) เกมเมอร์หนุ่มชาวบาห์เรนนั้นเพิ่งจะได้รับการจดบันทึกลงในกินเนสบุ๊คว่าเป็นผู้ที่พิชิตแพลตินัมโทรฟี่บนเครื่องเกมของ PlayStation ได้แก่ PS3, PS4 และ PS Vita รวมกันได้มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 1,700 เกมเลยทีเดียว และด้านล่างนี้คือ 12 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับนาย Hakoom ครับว่าเจ้าตัวมีที่มาอย่างไรกันแน่ กว่าจะก้าวมาสู่ความเป็นอันดับ 1 ของตำแหน่งนักล่าโทรฟี่นี้
1. ปัจจุบัน Hakoom มีอายุ 34 ปี
2. ทุกวันนี้ Hakoom พักอาศัยอยู่กับครอบครัว และเริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นนักล่าโทรฟี่ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปี 2008 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
3. Hakoom เผยว่าเขาเคยทำงานเป็นวิศวกรอยู่ในบริษัทไฟแนนซ์แห่งนึง กระทั่งต่อมาบริษัทก็ได้ปิดตัวลงไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน จากนั้นเขาก็ย้ายไปทำงานในบริษัท Bloomberg สาขาประเทศบาห์เรนก่อนที่บริษัทจะปิดตัวไปอีก Hakoom จึงว่างงานนับแต่นั้น แต่พี่แกก็ไม่หวั่น เลือกเดินหน้าปั่นแพลตินัมโทรฟี่ต่อไป โดย Hakoom ยังคงมีรายได้ในช่องทางอื่น อาทิ เงินช่วยเหลือจากครอบครัว, เงินสวัสดิการจากภาครัฐที่มอบให้แก่คู่สมรส (Hakoom แต่งงานแล้วและมีลูกชายคนนึง), ปล่อยเกมให้คนอื่นเช่า ตลอดจนรับจ้างเก็บถ้วยแพลตินัมโทรฟี่ให้คนอื่น ซึ่งค่าจ้างก็จะผันแปรตามระดับความยากของเกมนั้นๆ เรตราคาที่ Hakoom เคยรับทำก็มีตั้งแต่ 20-500 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่กระบวนการของการเก็บแพลตินัมให้ลูกค้าเนี่ย ตัว Hakoom จะไม่ได้เป็นคนเล่นเองครับ ทว่าจะเป็นการนำข้อมูลไอดีของลูกค้าไปให้เพื่อนของเขาล็อกอินแล้วเล่นให้แทน
4. ในอดีต สปีดในการเก็บแพลตินัมโทรฟี่ของ Hakoom จะอยู่ที่ประมาณ 100 เกมต่อปี แต่ในช่วงปีหลังๆ เขาได้ปลดปล่อยพลังแฝงในตัวออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้สามารถเก็บแพลตินัมโทรฟี่ได้เฉลี่ยปีละ 300 เกม และในปี 2018 นี้ แม้เวลาเพิ่งจะล่วงเลยมาได้แค่ 10 เดือน แต่พี่แกก็ซัดแพลตินัมโทรฟี่เพิ่มไปได้แล้ว 320 เกมครับ
5. สืบเนื่องจากที่มีการอัพเดตล่าสุด หลังจากที่ Hakoom ได้ถูกบันทึกลงกินเนสบุ๊คไม่นานนัก จำนวนแพลตินัมโทรฟี่ของเขาก็พุ่งไปกว่า 1,724 ถ้วยแล้ว
6. ผู้เล่นที่ได้แพลตินัมโทรฟี่มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Hakoom คือผู้ที่ใช้ไอดี Roughdawg4 โดยตอนนี้เขาพิชิตแพลตินัมโทรฟี่ไปได้ 1,723 เกม หรือน้อยกว่า Hakoom เพียง 1 เกมเท่านั้น
7. เหตุการณ์ที่ดึง Hakoom เข้าสู่วังวนของการล่าโทรฟี่ มาจากตอนที่เขาเล่นเกม Super Stardust แล้วเห็นป๊อปอัพโทรฟี่เด้งตรงมุมหน้าจอ พร้อมกับเสียงดังกริ๊งอันเป็นเอกลักษณ์ หลังจากผ่านด่าน Lava Planet
8. แพลตินั่มโทรฟี่ใบแรกของ Hakoom คือเกม Uncharted: Drake's Fortune ซึ่งเป็นเกมที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2007 โดยในตอนแรกเกมนี้ไม่ได้มีโทรฟี่ครับ แต่เพิ่งจะมาอัพเดตแพตช์ให้สามารถเก็บโทรฟี่ได้ในภายหลัง และ Hakoom ก็ได้มาเริ่มเก็บเอาตอนนั้น
9. หนึ่งในประสบการณ์การเก็บถ้วยแพลตินัมโทรฟี่ที่ Hakoom ภาคภูมิใจที่สุดก็คือเกม Max Payne 3 บนเครื่อง PS3 ซึ่งจะมีอยู่ถ้วยนึง (เป็นถ้วยเงิน) ที่ผู้เล่นต้องทำการเคลียร์เกมด้วยโหมดยากที่สุดโดยห้ามตายเลย แถมยังต้องเคลียร์แต่ละ Chapter ภายใน 60 วินาทีด้วย ซึ่งเวลาจะเริ่มนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ โดยการฆ่าศัตรูแต่ละตัว ผู้เล่นจะได้เวลาเพิ่มเป็นจำนวน 5 วินาที แต่ถ้าสามารถฆ่าศัตรูด้วย Headshot ก็จะได้เวลาเพิ่มเป็น 6 วินาทีแทน ทั้งนี้ Hakoom ได้ใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมงในการเก็บถ้วยดังกล่าวครับ
10. บรรดาเกมมากมายก่ายกองที่ Hakoom ไล่เก็บแพลตินัมโทรฟี่มานั้น บางส่วนเขาได้ซื้อมาเล่นด้วยตนเอง ขณะที่บางส่วนเขาก็ยืมคนอื่นมา ซึ่งคนอื่นที่ว่านี้ก็มีทั้งเพื่อนฝูงและเหล่าแฟนคลับที่ปลื้มผลงานการปั่นแพลตินัมโทรฟี่ของ Hakoom นี่แหละครับ
11. นาย Hakoom เขามีทริคเด็ดๆ ในการปั่นแพลตินัมโทรฟี่อยู่อย่างนึง นั่นคือจะมีอยู่บางเกมที่ทำโทรฟี่แยกชุดกัน ประมาณว่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเป็นถ้วยชุดนึง เวอร์ชั่นอังกฤษเป็นถ้วยอีกชุด แต่ใช้เงื่อนไขในการปลดถ้วยเหมือนกัน ดังนั้นเขาก็แค่ซื้อเกมมาทั้งสองเวอร์ชั่น แล้วใช้วิธีการเล่นแบบเดียวกัน ก็จะได้แพลตินัมโทรฟี่มา 2 เกมนั่นเอง (อย่างเกม Jack N' Jill DX นั้นเป็นเกมที่มีทำออกมาถึง 6 เวอร์ชั่น 6 ภาษา และ Hakoom ก็เก็บแพลตินัมโทรฟี่จากเกมนี้ไปครบทั้ง 6 เวอร์ชั่นเรียบร้อย)
12. เคยมีชาวเน็ตบางคนกล่าวครหา Hakoom ว่าเขาเอาแต่เก็บแพลตินัมโทรฟี่จากเกมที่มีเงื่อนไขง่ายๆ แต่คนเหล่านั้นกลับลืมว่าในวงการนักล่าโทรฟี่เขามองว่าทุกแพลตินัมโทรฟี่ล้วนมีค่าเท่ากัน เกมที่เก็บแพลตินัมโทรฟี่ได้ใน 10 นาที ย่อมมีค่าเท่ากับเกมที่ใช้เวลา 500 ชั่วโมง Hakoom เผยอีกว่า พอเป็นเช่นนี้ แล้วทำไมเขาต้องเปลืองเวลาและเปลืองเนื้อที่สมองไปหัวร้อนกับเกมที่เก็บแพลตินัมโทรฟี่ได้ยากล่ะ ในเมื่อเล่นเกมที่เก็บแพลตินัมโทรฟี่ได้ง่าย มันก็ได้แต้มโทรฟี่เท่ากันอยู่ดี และเขาเองก็ไม่ได้เล่นแต่เกมง่ายๆ ด้วย เพราะเกมที่เก็บแพลตินัมโทรฟี่ได้ยากโคตรๆ อย่าง Ninja Gaiden 3 หรือ Street Fighter 4 เขาก็ทำได้มาแล้ว
เครดิต: Kotaku