จัดเต็ม! รวมทุกข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเล่น Red Dead Redemption 2

เมื่อไม่นานมานี้ ทางทีมงาน OS ได้เกียรติรับเชิญจาก Rockstar ให้ไปทดลองเดโมของเกม Red Dead Redemption 2 (จากนี้จะขอเรียกสั้นๆ ว่า RDR2) มาครับ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเกมนี้ต่างได้รับความสนใจจากผู้เล่นทั่วโลกกันอย่างล้นหลาม โดยหากนับจากที่ภาคแรกวางจำหน่ายก็เป็นเวลาล่วงเลยมาถึง 8 ปีแล้ว และสิ่งต่างๆ ที่มีเพิ่มเข้ามาใหม่ในภาคนี้ก็มีมากซะจนต้องร้องว้าวไปหมด ว่าแล้วทีมงานก็ขอเล่าถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เพื่อนๆ ควรรู้ก่อนจะเล่นเกม RDR2 กันเลยดีกว่าครับ


ช่วงเริ่มแรกของการพัฒนาเกม RDR2 ทีมงานจาก Rockstar นั้นมีความต้องการที่จะผลักดันประสิทธิภาพของเกมให้สูงขึ้นไปจากเดิม ทั้งในแง่ของเกมเพลย์ การนำเสนอเนื่อเรื่อง และรายละเอียดในโลกโอเพ่นเวิลด์อันกว้างขาง โดยมีจุดประสงค์หลักๆ 3 อย่างดังนี้

1. สร้างโลกที่มีบรรยากาศ สถานที่ และตัวละครที่สมจริง เพื่อที่ผู้เล่นจะได้เกิดความรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นสถานที่ที่ควรไปท่องเที่ยวจริงๆ
2. สร้างโลกที่ไร้ซึ่งรอยต่อและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่รายละเอียดเล็กๆ ไปจนถึงภาพรวมใหญ่ๆ
3. เพื่อให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกอย่างอิสระและสัมผัสถึงประสบการณ์การเดินทางของตัวละครผ่านทางการสำรวจนั้นๆ

และในฐานะที่ RDR2 เป็นเกมของ Rockstar เกมแรกที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ในการสร้าง เกมนี้จึงถือเป็นโอกาสให้ทางทีมงานได้พัฒนาเกมให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้านเพื่อที่จะขับประสิทธิภาพของเครื่องคอนโซลรุ่นล่าสุดออกมาอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ในด้านการออกแบบภารกิจต่างๆ กราฟิก แสงเงา เพลง และเสียงประกอบต่างๆ หรือแม้แต่การแสดงอารมณ์และแอนิเมชั่นของตัวละคร รวมไปถึงระบบสภาพอากาศและอื่นๆ อีกมากมาย โดย RDR2 ได้ใช้ระบบเหล่านี้สรรสร้างโลกที่กว้างใหญ่และมีอะไรให้ทำมากมาย อีกทั้งยังให้ประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง เข้มข้น และน่าติดตามยิ่งกว่าเกมอื่นๆ ที่ Rockstar เคยทำมา ซึ่งก็ถือว่าเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับโลกที่ทุกคนมักเดินทางโดยการเดินหรือใช้ม้าเป็นพาหนะแทน

รายละเอียดอันสมจริงและละเอียดลออเหล่านี้จะมีอยู่ในทุกๆ ส่วนของตัวเกม ไม่ว่าจะเป็นบนอาวุธแต่ละชนิด จนถึงสภาพอากาศ ท่วงท่าการเคลื่อนไหว บุคลิกลักษณะของม้าแต่ละสายพันธุ์ หรือแม้แต่ความแตกต่างและความฉลาดของตัวละครแต่ละตัวที่ผู้เล่นจะได้พบเจอและทำความรู้จักระหว่างการเดินทางท่องโลก ทีมพัฒนายังเปิดเผยอีกว่าเกม RDR2 นั้นเป็นเกมที่ใช้ทีมงานจากสตูดิโอของ Rockstar ทั้งหมดทั่วโลกในการพัฒนา จึงเรียกได้ว่าโปรเจ็กต์นี้เป็นเป้าหมายหลักอย่างเดียวที่พวกเขามีตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี้ (นับตั้งแต่เกม GTA5 วางจำหน่ายในปี 2013) และด้วยความสำเร็จของเกม GTA5 นั้น ทำให้ทางทีมงานเหมือนกับได้รับโอกาสใหม่ๆ มากมาย และสามารถใช้ชื่อเสียงในครั้งนี้ทำให้คนหันมาสนใจ RDR2 ได้ด้วย โดยสรุปก็คือ 1 ในภารกิจหลักของเขาในการพัฒนาเกม RDR2 ก็คือการให้ทีมงานทุกคนมาโฟกัสอยู่กับเกมนี้ และการทำให้ผู้เล่นได้รู้ว่านี่คือเกมที่สร้างจากผู้สร้างเดียวกับ GTA5 ครับ

เรื่องราวของ Red Dead Redemption 2 นี้จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 1899 เมื่อเหล่าผู้พิทักษ์กฎหมายทั่วประเทศได้ออกตามล่าแก๊งโจรนอกรีตกลุ่มสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ นำโดยอาเธอร์ มอร์แกน และขุนโจรจากแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ ที่ต้องพากันหนีหัวซุกหัวซุนหลังจากที่ไปออกปล้นครั้งใหญ่แล้วดันเกิดความผิดพลาดขึ้น บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐและนักล่าค่าหัวจึงควานหาตัวพวกเขามาลงโทษอย่างไม่ลดละ ด้วยเหตุนี้กลุ่มของอาเธอร์เลยเข้าตาจน ต้องออกปล้น ต่อสู้ ลักขโมย และทำทุกวิถีทางเพื่อมีชีวิตรอดให้ได้

ทั้งนี้ สเกลพื้นที่ของเกม RDR2 จะครอบคลุมพื้นที่อันแสนกว้างใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเชื่อมอาณาบริเวณของเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เมืองโทรมๆ หนองน้ำ หัวเมืองใหญ่ที่มีความศิวิไลซ์ และแนวตะเข็บชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยทุกพื้นที่ล้วนมีกิจกรรมและอีเวนต์ต่างๆ ให้ผู้เล่นได้ทำอย่างมากมายด้วย

เพื่อนๆ คนไหนที่เคยเล่น RDR ภาคแรกมาก่อน คงจะจำตัวเอกของเกมที่ชื่อ จอห์น มาร์สตัน (John Marston) อดีตสมาชิกของแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ กันได้นะครับ แต่ใน RDR2 นี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนภาคแรก เราจะได้รับบทเป็น อาเธอร์ มอร์แกน สมาชิกรุ่นเก๋าของแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ และเป็นยุคที่แก๊งดังกล่าวอยู่ในช่วงพีคพอดี โดยอาเธอร์ถูก ดัตช์ แวน เดอร์ ลินด์ รับเข้ามาอยู่ในแก๊งตั้งแต่ยังเป็นเด็กหนุ่ม เขามองแก๊งนี้เหมือนเป็นครอบครัวของตนเอง คนในแก๊งเปรียบได้กับส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ที่สามารถพึ่งพาและเชื่อใจต่อกันได้ราวกับญาติพี่น้อง ดังนั้นเขายินดีที่จะทำทุกทางเพื่อปกป้องและดูแลแก๊งนี้ให้ถึงที่สุด และด้วยความที่อาเธอร์เป็นคนฉลาด เยือกเย็น และเด็ดขาด เขาจึงมักได้รับเลือกจากดัตช์ให้เป็นแนวร่วมในปฏิบัติการต่างๆ ของแก๊งไปโดยปริยาย

ทางด้านแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ นั้นถือเป็นแก๊งที่รวบรวมเอาคนนอกรีตและเหล่าคนที่สังคมไม่ต้องการเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีอุดมการณ์ร่วมกันว่าจะเสาะแสวงหาชีวิตที่เป็นอิสระ เป็นไทจากการแทรกแซงของกฎหมายและรัฐบาล ประกอบไปด้วยมือปืน, นักต้มตุ๋น, อดีตนักปฏิวัติ และผู้ลี้ภัยทั้งหลาย ซึ่งทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเองในการมาเข้าร่วมกับแก๊งนี้ พอได้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็เลยเกิดเป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ ขณะที่อาเธอร์ก็มีความสัมพันธ์อันดีที่แน่นแฟ้นผู้คนเหล่านี้ ตามประสาหัวอกคนนอกกฎหมายเหมือนกัน

ชีวิตประจำวันของแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่แคมป์ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา การพูดคุยกับสมาชิกแก๊งนั้นจะช่วยให้อาร์เธอร์สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวเพื่อปล้นธนาคารขนาดใหญ่ นั่งเล่นโป๊กเกอร์กับสมาชิกคนอื่นๆ ดื่มกินในโรงเหล้าในเมืองใกล้ๆ หรือออกไปล่าสัตว์ในพงไพรและกลับมาบอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยให้เพื่อนๆ ฟัง ซึ่งชีวิตในแคมป์และตัวละครที่มีชีวิตชีวาเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นได้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊ง และได้ใช้เวลาร่วมกับแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ จริงๆ อนึ่ง สมาชิกแก๊งแต่ละคนจะคอยให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยงานต่างๆ หรือแม้แต่การแชร์ประสบการณ์ให้แก่กัน หากเล่นไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะได้สัมผัสถึงความสัมพันธ์ที่สมาชิกแก๊งแต่ละคนมีกับอาร์เธอร์และตัวละครอื่นๆ และไม่ว่าอาเธอร์หรือคนอื่นๆ ในแก๊งจะทำอะไร ทุกๆ คนในแก๊งก็จะรู้เห็นอยู่เสมอ และหากเราอยู่ใกล้ๆ พวกเขาก็จะสนทนาพูดคุยกันหรือวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของเรา หรือแม้แต่หาเรื่องทะเลาะวิวาทเลยก็มี

บทสนทนาในเกมจะแตกต่างกันออกไปตามแต่สถานการณ์และการกระทำของเรา เช่นหากเราเลือกเข้าหาคนที่เราเพิ่งทะเลาะด้วย เขาก็จะยังรู้สึกไม่พอใจเราอยู่ หรือถ้าเราเข้าไปคุยกับคนที่เพิ่มเล่นโดมิโน่แพ้ไป พวกเขาก็จะพูดถึงชัยชนะของเราระหว่างการสนทนาด้วย หรือหากเราเลือกเข้าไปคุยกับใครในขณะที่กำลังเมา บทสนทนาและอากัปกิริยาของเราก็จะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกใช้เวลาอยู่ในแคมป์นานแค่ไหน และเมื่อใดที่เราจะออกไปผจญภัยในโลกภายนอก ซึ่งแน่นอนว่าแก๊งแวน เดอร์ ลินด์ นั้นก็ต้องการเงิน อาหาร และเสบียงต่างๆ ด้วยเช่นเดียวกัน และหากอาร์เธอร์เข้าไปช่วยเหลือโดยการนำอาหาร เงิน หรือของใช้อื่นๆ มาสนับสนุนแก๊ง แม้มันจะไม่ใช่หน้าที่ของเขาโดยตรง แต่เขาก็จะได้รับรางวัลในฐานะผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับแก๊งและช่วยให้แคมป์สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้เช่นเดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้น การช่วยเหลือเกื้อกูลแคมป์ยังช่วยให้ขวัญกำลังใจของเราสูงขึ้นด้วย ซึ่งมันจะสะท้อนออกมาให้เห็นผ่านทางบทสนทนา กิจกรรมต่างๆ ที่สมาชิกแก๊งเลือกเข้าไปมีส่วนร่วม หรือแม้แต่เรื่องราวต่างๆ ที่ถูกบอกเล่ารอบกองไฟ ผู้เล่นยังสามารถทำการอัพเกรดและปรับเปลี่ยนแคมป์ได้อีกด้วย ซึ่งการอัพเกรดแคมป์จะช่วยให้ช่องเก็บอาหาร ยา และกระสุนมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถใช้งาน Fast Travel มาที่แคมป์ได้ รวมถึงมีคอกม้าและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ให้อีกมากมาย แคมป์ของแก๊งนั้นจะถูกย้ายไปเรื่อยๆ ตามสถานที่ต่างๆ ตามการดำเนินของเนื้อเรื่องครับ

ท่ามกลางโลกอันไพศาลของเกม RDR2 จะมีระบบที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีปฏิสัมพันธ์กับทุกสิ่งอย่างรอบตัว รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ หรือแม้กระทั่งสัตว์และสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ และการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครที่เป็นมนุษย์ก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราเข้าหาด้วยลักษณะใด ถ้าเราชักปืนแล้วเล็งใส่ตัวละครนั้น บทสนทนาและช้อยส์ที่มีให้เราเลือกกระทำต่อตัวละครนั้นๆ ก็จะเปลี่ยนไป โดยตัวแปรเหล่านี้จะผกผันตามสถานการณ์ ณ ขณะนั้น, ตัวละครที่เราเข้าหา, และระดับความสัมพันธ์ที่เรามีต่อตัวละครนั้นด้วย

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราเห็นคนขับรถม้าเดินทางอยู่ในฉาก เราสามารถบังคับตัวอาเธอร์ไปพูดคุยกับคนขับรถม้าเพื่อให้เขาชะลอรถ หรือเราจะทำตัวเป็นนกต่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขา หรือเราจะขอเขาโดยสารรถม้าไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ๆ หรือเราจะทำการปล้นรถม้าเลยก็ย่อมได้ และหากเราทำอย่างหลัง แล้วมีนายอำเภอมาเห็น เขาก็จะกล่าวเตือนให้อาเธอร์อยู่ห่างๆ รถม้า มิเช่นนั้นเราก็จะต้องต่อสู้กับเขา เป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปก่อเรื่องเข้า และมีพยานเห็นเหตุการณ์ เราสามารถให้อาเธอร์ข่มขู่พยานให้หุบปาก ไม่สาวมาถึงตัวเราได้ หรือจะปล้นพยานด้วยเลยอีกคนก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับสัตว์ ที่เราสามารถชมหรือดุน้องหมาได้หากมันทำอะไรถูกใจหรือขัดใจเรา หรือจะพูดคุยกับม้าที่เราขี่เพื่อให้มันสงบลง ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบทำให้เกมนี้ดูมีมิติสมจริงยิ่งกว่าเกมโอเพ่นเวิลด์อื่นๆ ที่ Rockstar เคยทำมาเลยทีเดียว

ถ้าใน GTA มีระบบดาวอาชญากรรม ที่ยิ่งสะสมมากดวงก็จะยิ่งตกเป็นเป้าตามล่าจากทางการ ในฝั่งของ RDR2 ก็จะมีระบบชื่อเสียงเข้ามาสอดรับตรงนี้ครับ โดยชื่อเสียงของอาเธอร์ก็จะขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเราในโลกของเกมนี้ แต่จะมีการลงรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมลงไปให้มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น หากผู้เล่นคิดจะเป็นคนนอกกฎหมาย เราก็จะต้องตัดสินใจว่าจะเป็นคนนอกกฎหมายประเภทไหน และระดับชื่อเสียงของอาเธอร์ก็จะส่งผลไปยังอีเวนต์ต่างๆ และผลกระทบอื่นๆ ที่อาจตามมาในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์บางอย่างจะมีผลทันที ในขณะที่บางอย่างก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเกิดผล

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรายิ่งเล่นเป็นโจร ไล่ปล้นและเข่นฆ่าผู้คนมากเท่าไหร่ ผู้คนในเกมก็จะมีท่าทีต่อเราที่เปลี่ยนไป การปล้นแต่ละครั้งเราจะได้เงินมากขึ้นเพราะผู้คนต่างหวาดกลัวในกิตติศัพท์ของเรา อีกทั้งเรายังสามารถข่มขู่พยานได้ง่ายขึ้นเพราะไม่มีใครอยากแหยมกับเรา มิหนำซ้ำการฆ่าคนในแต่ครั้งก็จะกระชากขวัญของผู้คนจนสิ้นหวังกันไปเลย ในทางกลับกัน ถ้าเราเล่นเป็นคนดี งานจำพวกล่าค่าหัวเหล่าคนนอกกฎหมายจะสร้างรายได้แก่เราเป็นกอบเป็นกำมากกว่า เพราะเราจะคอยเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยนายอำเภอปัดเป่าพวกคนไม่ดีออกไปจากสังคม การฆ่าเดนทรชนในแต่ละครั้งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นฮีโร่ต่อคนในสังคมให้แก่เราได้ ซึ่งชื่อเสียงจะดีหรือชื่อเสีย ก็อยู่ที่เราจะลิขิตทั้งนั้น

ม้า ยานพาหนะสุดคลาสสิกในเกมก็เป็นอีกระบบที่ถูกปรับโฉมชนิดหน้ามือเป็นหลังมือครับ ซึ่งมันสามารถเป็นได้ทั้งคู่หูของเรา หรือจะใช้ในแง่ของการขนส่งก็ได้ ม้าในภาคนี้จะมีลูกเล่นในการเคลื่อนที่มากขึ้น และมีความคล่องตัวสูง เราสามารถบังคับมันให้เดินแบบสเต็ปด้านข้าง เดินถอยหลัง หรือแม้แต่การดริฟต์บนหลังม้าก็ยังได้ ยิ่งไปกว่านั้น ม้าของเราจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแตกต่างกันไป หากเราเดินทางอยู่บนพื้นราบ มันก็จะมีแอ็กชั่นอย่างนึง ถ้าเราย่ำบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำก็จะออกแอ็กชั่นอีกแบบ อีกทั้งเวลามันเกิดความกลัวหรือเครียดก็จะมีออกอาการหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ขี่อย่างอาเธอร์ด้วย

ฟังที่กล่าวมาในย่อหน้าข้างบนอาจจะยังไม่ซับซ้อนพอ ตัวเกมยังมีการใส่ระบบสร้างความสัมพันธ์กับม้าเข้ามาเสริมอีก ทุกๆ การกระทำที่เราทำกับม้าของเราจะมีผลต่อระดับจิตใจของมัน การแปรงขน การให้อาหาร และการปลอบมันเวลาตื่นกลัว จะช่วยให้มันมีความสัมพันธ์ที่ดีและเชื่องกับเรา แม้กระทั่งการได้ขี่มันออกเดินทางไปไหนมาไหนก็ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างเรากับมันได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งเราใช้เวลากับม้ามาก การทำให้มันหายเครียดก็จะง่ายขึ้นเป็นกอง ตลอดจนยังส่งผลกับการเร่งความเร็ว ความอึดของม้าในการวิ่งทางไกล และที่พิเศษกว่านั้นคือ เมื่อม้ามีระดับความสัมพันธ์กับเราที่ดีจนถึงระดับนึง ก็จะปลดล็อคสกิลใหม่ๆ ของม้าได้ อาทิ เพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยงดูม้า เพิ่มความสามารถในการบังคับม้า เพิ่มรัศมีการได้ยินของม้าเวลาเราผิวปากเรียกมันจากระยะไกล ฯลฯ ขณะเดียวกัน ม้ายังอำนวยความสะดวกในด้านการบรรทุกของด้วยครับ เราสามารถติดตั้งกระเป๋าใส่อาวุธ เงิน หนังสัตว์ เพื่อให้ม้าบรรทุกสิ่งของเหล่านั้นไปกับเราได้ และที่สำคัญ เกมยังมีระบบการปรับแต่งหรืออัพเกรดม้าได้ด้วยนะเออ!

ถัดมาเป็นเรื่องของอาวุธปืนกันบ้าง นอกจากระบบการอัพเกรดปืนที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของปืนต่างๆ แล้ว ตัวเกมยังเพิ่มมิติให้กับอาวุธปืนด้วยการใส่ระบบการสึกหรอเข้ามา กล่าวคือ ปืนในภาคนี้จะมีเกจค่าพลังอยู่ ซึ่งจะระบุความสามารถด้านต่างๆ ของปืนนั้นๆ เช่น ความเร็วในการยิง ความเร็วในการรีโหลด แรงถีบปืน ฯลฯ ทว่าหากเราไปเก็บปืนมาจากที่อื่นได้ (เช่น เก็บจากที่ซ่อนของโจรแก๊งอื่น) ปืนเหล่านั้นจะมีค่าพลังไม่เต็มเกจ เนื่องด้วยความที่มันอาจไม่ได้ถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน หรืออาจจะผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบัน ทำให้เกิดการสึกหรอจนค่าพลังลดลงไป แต่เราสามารถฟื้นค่าเหล่านี้กลับมาเป็นปกติได้ด้วยการนำมันมาทำความสะอาดเช็ดถูจนดูใหม่เอี่ยมอ่อง และเวลาเราได้ไปเยือนตามร้านปืน นอกจากการซื้อปืนหรืออัพเกรดแล้ว ทางร้านยังมีบริการตกแต่งปืนให้เป็นลวดลายสวยงามตามแต่ผู้เล่นจะต้องการได้อีกด้วย ภายในเกมอาเธอร์จะสามารถพกพาปืนเล็กติดตัวได้ 2 กระบอก และอาวุธจำพวกปืนยาวหรือธนูได้อีก 2 ชิ้น รวมถึงมีด, บ่วงบาศก์สำหรับจับสัตว์ และอาวุธขว้างนานาชนิด โดยผู้เล่นสามารถหยิบมาใช้ได้ยามที่อยู่บนหลังม้า หรือยืนอยู่ใกล้ๆ กับม้าครับ

ขึ้นชื่อว่าเป็นโลกธีมคาวบอยตะวันตก เสื้อผ้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่แสดงถึงแฟชั่นในยุคนั้นครับ ทว่าชุดแต่งกายในเกมหาได้เป็นเพียงเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ใส่เพื่อความสวยงามแต่อย่างใด หากแต่มันยังมีประสิทธิภาพในการทนทานต่อสภาพอากาศภายในเกมที่แตกต่างกันไปด้วย หากเราไปอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นทะเลทราย แล้วดันใส่เสื้อผ้าหนาเตอะ หรือไปอยู่บนภูเขาหิมะแล้วดันใส่เสื้อผ้าบางๆ ค่าความอึดของอาเธอร์ก็จะลดลงอย่างมาก ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็จะมีชุดให้เลือกเปลี่ยนมากมายตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่เราจะต้องผจญภัย บางชุดสามารถพับแขนเสื้อขึ้นได้ถ้าต้องไปในเขตร้อน บางชุดก็รูดเป็นแขนยาวได้ เรียกได้ว่าระบบนี้นอกจากจะซับซ้อนแล้วยังมีความยืดหยุ่นสูงด้วย นอกจากนี้เสื้อผ้าหลายๆ ชุดก็จะต้องใช้หนังสัตว์ในการสร้าง การล่าสัตว์เลยเป็นอีกฟีเจอร์นึงที่ผู้เล่นจะต้องทำระหว่างเกมก่อนที่จะไปลุยในพื้นที่ใหม่ๆ แล้วในบรรดาสัตว์ที่มีให้ล่า ก็จะมีสัตว์พันธุ์หายาก ที่สามารถล่าแล้วนำหนังของมันไปทำชุดหายากได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ระหว่างที่เราเดินทางด้วยม้าและเสพบทสนทนาในเกมไปพร้อมๆ กัน เราสามารถปรับเข้าโหมด Cinematic ได้ด้วยการกดปุ่มกากบาท (บนเครื่อง PS4) หรือปุ่ม A (บนเครื่อง Xbox One) จากนั้นม้าของเราก็จะเดินตามเส้นทางโดยอัตโนมัติ ปล่อยให้เราซึบซับเนื้อเรื่องราวกับชมภาพยนตร์คาวบอยตะวันตกชั้นดีเรื่องนึงแบบชิลๆ

ระบบต่อสู้ที่เปรียบเสมือนเครื่องหมายของเกมก็คือ Dead Eye ครับ สำหรับภาคนี้ ตัวระบบได้ถูกอัพเกรดขึ้นมาอีก 5 ระดับ โดยสามารถชะลอเวลา มาร์คจุดที่จะยิง และแสดงจุดที่ยิงแล้วจะเกิดผลคริติคอลฮิต หากเราใช้จนคล่องมือแล้วจะอาศัยระบบนี้ในการชิงความได้เปรียบจากศัตรูได้ในหลายๆ โอกาสเลย ส่วนใครที่ถนัดมุมกล้องแบบมุมมองบุคคลที่ 1 ทางเกม RDR2 ก็มีมุมมองนี้ให้เราได้ปรับกันด้วย โดยมุมกล้องนี้จะเอื้ออำนวยต่อคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์การยิงที่สมจริงราวกับเราเป็นคนจับปืนเองเลย และทางด้านเพลงประกอบใน RDR2 จะมีจำนวนเพลงทั้งหมด 192 เพลงที่ประพันธ์โดยคุณวู้ดดี้ แจ็คสัน (Woody Jackson) ที่เคยฝากผลงานไว้กับ RDR ภาคแรกมาแล้ว ซึ่งทั้ง 192 เพลงจะสลับกันบรรเลงตามสถานการณ์หรือภูมิประเทศที่เราไปเยี่ยมเยือน

สุดท้ายนี้ ทางทีมงาน OS ยังได้สอบถามไปยัง Rockstar ถึงประเด็นของแผนการโปรโมทเกม RDR2 ในภูมิภาคนี้ หลังจากที่บางค่ายได้เริ่มการโฆษณาเป็นภาษาไทยตามรถไฟฟ้า BTS หรือตามร้านเกมต่างๆ ซึ่งทาง Rockstar ก็อธิบายว่าพวกเขาพยายามทำการโฆษณาแบบ Outdoor ให้ได้มากที่สุด ด้วยความที่เกมของพวกเขานั้นมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว เช่น มีการใช้สีโทนแดงที่โดดเด่น มีตัวละครที่น่าจดจำ ทำให้การโฆษณาแบบ Outdoor นั้นสามารถดึงดูดคนได้มาก แต่ด้วยงบที่จำกัด ทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปทำการโฆษณาในพื้นที่บางแห่งได้ นอกจากนี้ทางทีมงานยังพยายามที่จะใช้สื่ออย่างโซเชียลมีเดียให้มากขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้ทางแฟนเพจบน Facebook หรือแชนเนลทางการบน Youtube ก็ได้มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ อย่างญี่ปุ่นหรือเกาหลีมาแล้ว และพวกเขาก็กำลังสนใจการ Localize เป็นภาษาไทยอยู่เหมือนกัน ถ้าจะพูดแบบง่ายๆ ก็คือหากพวกเขารับรู้ว่ากลุ่มผู้ชมของเขาอยู่ที่ใด เขาก็จะพยายามเผยแพร่เกมให้ทุกคนได้รับรู้อย่างทั่วถึงที่สุดนั่นเอง

เป็นไงกันบ้างครับกับสิ่งต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาในเกม Red Dead Redemption 2 นี้ หวังว่าน่าจะถูกใจเพื่อนๆ กัน ไว้เรามาสัมผัสกับกลิ่นอายคาวบอยตะวันตกเมื่อยุคร้อยกว่าปีก่อนพร้อมๆ กันในวันที่ 26 ตุลาคมนี้นะครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้