สัมภาษณ์ตัวแทนผู้พัฒนา CoD: Black Ops 4 ตัวเกมมีอะไรเปลี่ยนไป รู้กันตรงนี้เลย!

แชร์เรื่องนี้:
สัมภาษณ์ตัวแทนผู้พัฒนา CoD: Black Ops 4 ตัวเกมมีอะไรเปลี่ยนไป รู้กันตรงนี้เลย!

***ทีมงาน OS ขอขอบคุณบริษัท Sony Interactive Entertainment สาขาประเทศสิงคโปร์ ที่สนับสนุนด้านการเดินทางและที่พักเพื่อร่วมงาน Tokyo Game Show 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่นมา ณ ที่นี้ด้วยครับ***

ระหว่างงาน Tokyo Game Show 2018 ที่มีขึ้นในรอบสัปดาห์ก่อน ทางทีมงาน OS ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ 1 ในตัวแทนจากสตูดิโอ Treyarch ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกม Call of Duty: Black Ops 4 ได้แก่คุณ John Rafacz ที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและโซเชียลมีเดีย ถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวเกมในภาคดังกล่าว เรามาชมรายละเอียดต่างๆ ของเกมและบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่าครับ


ในช่วงแรกนั้น คุณ John ได้อธิบายเกี่ยวกับ Call of Duty: Black Ops 4 ว่าตัวเกมจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือโหมด Multiplayer, Zombies และ Blackout โดยโหมด Multiplayer นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงและต้องใช้การวางแผน ในขณะที่โหมด Zombie จะให้ประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ถึง 3 แบบด้วยกัน (จะอธิบายในย่อหน้าถัดไป) ส่วนโหมด Black Out นั้นจะให้ประสบการณ์แบบ Battle Royale ในสไตล์ของทางค่ายเอง

เริ่มต้นที่โหมด Multiplayer กันก่อนครับ สำหรับโหมดนี้ ยูนิต Specialist จะกลับมาอีกครั้ง รวมถึงมีการเพิ่มอาวุธใหม่ๆ เข้ามามากมาย อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างอาวุธที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองได้ด้วย นอกจากนี้ เมื่อผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ พลังชีวิตจะไม่ฟื้นฟูโดยอัตโนมัติแล้ว รวมถึงระบบ Fog of War ที่จะทำให้ผู้เล่นรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมที่รายรอบได้ดีขึ้น รวมถึงใช้ประโยชน์จากส่วนนั้นในการวางแผนร่วมกับทีมได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นคนเดียวเพียงลำพัง หรือจะสร้างทีมของตัวเองขึ้นมาเองก็ได้เช่นกัน

ถัดมาคือโหมด Zombies เนื่องด้วยปีนี้เป็นปีที่โหมดนี้มีอายุครบ 10 ปี โดย Zombies นี้เคยปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในเกม Call of Duty: World at War เมื่อปี 2008 ในรูปแบบของ Easter Egg กระทั่งได้รับความนิยมอย่างสูง จนต่อมาก็ได้พัฒนามาเป็นโหมด Standalone และในภาคนี้โหมด Zombies ก็ได้กลายมาเป็นโหมด Standalone ที่มี 3 รูปแบบรวมอยู่ในเกมเดียวเลย ดังนี้

1. Blood of the Dead - ตัวละครทั้ง 4 ที่แฟนๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจะหวนกลับมาอีกครั้งเพื่อทำภารกิจที่ยังคงค้างคาอยู่ให้เสร็จสิ้น รวมถึงจะมีตัวละครใหม่เพิ่มมาอีก 4 ตัว
2. Voyage of the Despair - เป็นเรื่องราวที่ผู้เล่นจะได้ไปโลดแล่นบนเรือไททานิคและเผชิญฝูงซอมบี้ที่นั้น
3. IX (อ่านว่าไนน์) - ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Gladiator และต้องลงไปต่อสู้ในอารีน่า

ทั้งนี้ ภายในโหมด Zombies จะมีส่วนของ Custom Game ที่ถูกปรับให้ง่ายขึ้นเพื่อรองรับกับผู้เล่นหน้าใหม่ (อารมณ์ประมาณว่าใช้งานง่ายนั่นเอง)

ตบท้ายด้วยโหมด Blackout ที่คุณ John ได้เล่ารายละเอียดว่าโหมดนี้เป็นโหมด Battle Royale ที่ทาง Treyarch ออกแบบขึ้นมาเองโดยเฉพาะ ซึ่งผู้เล่นอาจเลือกเล่นคนเดียว, เล่นเป็นคู่ หรือเล่นกับเพื่อนอีก 3 คนในรูปแบบทีม 4 คนก็ได้ โดยจะมียานพาหนะมากมายหลากหลายรูปแบบให้ผู้เล่นได้ใช้เดินทางในแมพที่ว่ากันว่าเป็นแมพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีรีส์เกม Call of Duty และพาหนะที่กล่าวมานี้ก็จะมีทั้งที่ใช้เดินทางบนบก บนอากาศ และในน้ำได้ ซึ่งด้วยความที่มันเป็นรูปแบบ Battle Royale ดังนั้นเกมเพลย์ในโหมดนี้จึงเป็นการต่อสู้เพื่อเฟ้นหาผู้ที่รอดชีวิตคนสุดท้ายเพียงผู้เดียวเท่านั้น ถ้าเป็นบนบก ผู้เล่นก็อาจจะเลือกขับรถบรรทุกหรือรถ ATV ไปพร้อมกับเพื่อน หรือถ้าใครไม่ชอบว่ายน้ำ ก็อาจจะเลือกขับเรือ Tactical Boat หรือถ้าหากใครเป็นสายสำรวจหรือสายลอบเร้น หรืออยากหลบหลีกการต่อสู้ก็อาจจะเลือกเฮลิคอปเตอร์แทน

พิเศษสุดสำหรับ Blackout ก็คือตัวแผนที่จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา Call of Duty ทุกภาค แถมยังเป็นการนำแมพเก่าๆ หลายๆ แมพที่ผู้เล่นชื่นชอบกลับมาให้ได้เล่นกันอีกครั้ง (เช่น Nuke Town หรือ Firing Range ซึ่งเป็นแมพเก่าจาก Multiplayer ใน Call of Duty ภาคก่อนๆ ทั้งนั้น) นอกจากนี้ยังมีสถานที่ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีก รวมถึงมีแมพอันเป็นเอกลักษณ์จากโหมด Zombies ด้วย


Q: ก่อนที่รอบ Beta รอบล่าสุดจะปิดตัวลงนั้น เห็นว่าทางทีมงานได้มีการเพิ่มจำนวนผู้เล่นในโหมด Blackout เป็น 100 คน อยากทราบว่าจำนวนนั้นจะคงอยู่ต่อไปรึเปล่า?

A: จริงๆ แล้วเรายังไม่ได้กำหนดปริมาณคนที่แน่นอนสำหรับตัวเกมเต็มเลยครับ ในช่วง Beta นั้น เราก็ได้มีการทดลองเพิ่มปริมาณคนมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 80 คน ไปจนถึง 100 คน รวมถึงมีการทดสอบด้านอื่นๆ แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือเรื่องของความสนุกของตัวเกมครับ ดังนั้นในตอนนี้ เราก็กำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะกำหนดค่าตัวเลขต่างๆ ยังไงเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเกม ให้เกมของเราออกมาสมบูรณ์และลงตัวที่สุด


Q: ในช่วงที่เปิด Beta นั้น ทีมงานได้เจอกับอะไรที่เซอร์ไพรส์บ้างรึเปล่า?

A: ก็มีบางเรื่องครับ อย่างเรื่องของการจัดการช่องไอเทมภายในตัว กับเรื่องของระบบเสียงภายในเกม แต่โดยรวมแล้วเราก็ต้องใส่ใจทุกเรื่องนั่นแหละครับ เพราะการทำงานในสตูดิโอนั้น อย่างมากก็มีคนทดสอบเกมในหลักร้อยเท่านั้น แต่การเปิดช่วง beta นั้นทำให้เราได้รับโอกาสในการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นนับพันได้มาทดสอบเกมให้กับเรา ดังนั้น มันจึงเป็นโอกาสให้เราได้สำรวจเกมของเราอย่างจริงๆ จังๆ หาปัญหาต่างๆ เพื่อนำออกมาแก้ไข แม้แต่ในขณะที่ช่วง Beta กำลังเปิดอยู่นั้น ทางเราเองก็ยังคงพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้รองรับกับตัวเกมในวันแรกอยู่เลยครับ ดังนั้น จะใช้คำว่าเซอร์ไพรส์ก็คงได้ล่ะมั้งครับ แต่ผมว่ามันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับช่วง beta อยู่แล้วแหละ


Q: Call of Duty ภาคนี้เปรียบเสมือนกับเป็นจดหมายบอกรักสำหรับแฟนๆ ของเกมเลย อย่างเช่น Blood of the Dead นั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาจากการเรียกร้องของแฟนๆ อยากทราบว่าในการสร้างและพัฒนาภาค Black Ops 4 นี้ ทีมงานรู้สึกอย่างไรบ้าง?

A: ในฐานะผู้พัฒนาเกมนั้น เราจำเป็นที่จะต้องคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ ครับ คือเราจะต้องคิดถึงสิ่งที่จะทำต่อจากนี้อยู่ตลอด คิดถึงต้นแบบแบบต่างๆ คิดถึงเกมที่จะสร้างเป็นเกมต่อไป และไม่ว่าคุณจะอยู่ในทีมหรือองค์กรไหนก็ตาม การที่จะหยุดคิดสิ่งเหล่านี้และหันมาชื่นชมประสบการณ์เหล่านี้นั้นเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ แต่ตอนนี้ เราก็ได้มีโอกาสหันกลับมามองแล้วว่าทีมงานของเรานั้นได้สร้างเกม Black Ops 4 มาถึง 10 ปีด้วยกันแล้ว และมันก็ไม่ใช่แค่เพียงจักรวาล Black Ops เท่านั้น เพราะเราเองก็มีโหมด Zombie อยู่ด้วยเหมือนกัน และการได้ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริงขึ้นมานั้น ถึงจะต้องเจอปัญหาต่างๆ นานา แต่มันก็เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ เลยละครับ โดยเฉพาะเมื่อคุณได้ทำทั้ง Black Ops 4 ทั้ง Zombie ไปพร้อมๆ กัน นับว่าเป็นประสบการณ์ที่เกินบรรยายจริงๆ


Q: พวกคุณมีการตัดสินใจกันอย่างไรบ้างในการตัดโหมดเนื้อเรื่องทิ้งไปครับ?

A: คือพวกเราได้ลองมองย้อนไปยังวัตถุประสงค์หลักของเรา แล้วก็ได้พบว่าสิ่งที่พวกเราต้องการนั้นก็คือการสร้างประสบการณ์ที่ผู้เล่นจะได้มีร่วมกันและเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับ Community ของเราครับ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว เราก็เคยลองคิดเนื้อเรื่องหลายๆ แบบออกมาอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้ว เราก็กลับรู้สึกว่าทางนี้ต่างหากคือทางที่แฟนๆ ของเราต้องการ หรือก็คือการให้ผู้เล่นทุกคนได้เฉลิมฉลองผ่าน Community ร่วมกันครับ


Q: แล้วพวกคุณรู้สึกตกใจบ้างรึเปล่า เมื่อต้องพบกับเสียงตอบรับในด้านลบหลังจากที่ทางคุณประกาศออกมาว่าจะนำโหมดเนื้อเรื่องออกไป เพราะจุดเด่นหลักๆ ของ Call of Duty ที่ผ่านมาก็คือโหมดเนื้อเรื่องนี่เอง?

A: ผมคิดว่าตอนนี้นี่แหละครับคือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้วในการเลือกตัดสินใจแบบนี้ จริงๆ แล้ว Black Ops 4 นั้นจะเกิดขึ้นมาไม่ได้เลยหากขาดภาค Black Ops 1-3 ไป และแน่นอนว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ก็ย่อมมีผู้คนที่รู้สึกผิดหวังอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ผมรู้สึกว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะตอบแทนให้กับ Community ของเราบ้าง

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เหนื่อยจากเกมก็ลองหยุดพัก แต่ถ้าเหนื่อยจากรักก็จงหยุดเถอะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ