หลังคู่แข่งชิงออกตัวไปก่อนราวๆ 1 เดือน ในที่สุดอีกหนึ่งเกมฟุตบอลประจำปีอย่าง FIFA 19 ก็ได้ออกมาวาดลวดลายกันแล้วครัยโดยแน่นอนว่าสิ่งที่ชูโรงในภาคนี้ที่โปรโมตกันมาตั้งแต่ช่วง E3 ก็คือโหมด UEFA Champions League และ การเดินทางในโหมดเนื้อเรื่องของ Alex Hunter ที่จะถึงบทสรุปกันในภาคนี้นั่นเอง
ในภาพรวม FIFA 19 ก็ยังคงเป็นเกมฟุตบอลที่คล้ายๆ กับทุกๆ ปี โหมดเก่าๆ ก็กลับมากันเกือบๆ จะครบครัน รวมถึงลิขสิทธิ์ของทีมแข่งและรายการต่างๆ ก็จัดเต็มอย่างเคย เพียงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าภาคนี้จะไม่มีอะไรเปลี่ยน ทว่ามันเป็นเหมือนการยืนยันเสียมากกว่าว่ารากฐานของเกมฟุตบอลซีรีส์นี้ยังมั่นคง และอย่างน้อยๆ ผู้เล่นก็ยังมั่นใจได้ว่าเขายังคงได้เล่นเกมที่พวกเขาสนุกสนานกับมันอยู่ในทุกๆ ปีนั่นเอง
กระนั้นก็ใช่ว่าตัวเกมจะยํ่าอยู่กับที่นะครับ เพราะตัวเกมก็หาทางเพิ่มอะไรใหม่ๆ อยู่ที่ๆ ปี จนมาภาค 19 นี้แหละครับที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และเพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามาจนค่อนข้างเห็นได้ชัดเจนจริงๆ โดยอย่างแรกคือการที่เกมได้ลิขสิทธิ์ UEFA Champions League ที่ไม่ใช่แค่เข้ามาเติมเต็มความเป็นเกมฟุตบอลแต่ยังเติมเต็มอารมณ์เกมด้วยครับ
ทั้งยังส่งให้บทสรุปการผจญภัยของตัว Alex Hunter และมิตรสหายนักเตะทวีความฟินาเล่เพิ่มขึ้นไปเป็นเท่าตัวครับ ซึ่งเราก็ไม่ขอสปอยล์แล้วกัน แต่อยากบอกว่าแคมเปญภาคนี้ทำออกมาได้สมกับเป็นบทสรุปไตรภาคจริงๆ ทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นวาเกมกีฬาก็มีโหมดเนื้อเรื่องเจ๋งๆ ได้เหมือนกัน
เกมเพลย์เองก็มีการปรับปรุงเช่นกัน จากคนที่จับ FIFA 18 มานับร้อยชั่วโมงสามารถยืนยันได้ว่าจังหวะเกมมันเปลี่ยนไป เร็วขึ้นและ AI ก็ฉลาดขึ้นเช่นกันทำให้ในความยากระดับเดียวกัน ภาค 19 จะสู้ด้วยลำบากกว่าพอสำควร เพราะมีลูกหลอกล่อเยอะ และในความยากระดับ World Class หรือ Legendary ก็มักจะทำอะไรที่คาดไม่ถึงให้ได้เห็นอยู่เหมือนกัน
การปรับปุ่ม เพิ่มปุ่มคอมมานด์ก็มากขึ้น ระบบ Timed Finishing ทำให้ภาคนี้ผู้เล่นต้องกะจังหวะและระยะรวมถึงทิศทางให้เป๊ะก่อนยิง เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด แต่แน่นอนว่ามันทำให้การยิงประตูยากขึ้นไปอีกระดับ แต่ระบบใหม่ที่ผมชอบและคิดว่ามีประโยชน์มากๆ ก็คือ Dynamic Tactics ที่ให้เราตั้งค่าล่วงหน้าไว้ และเรียกใช้ระหว่างแข่งได้ทันที โดยไม่ต้องเข้าเมนูปรับแทคติคแต่อย่างใด เหมาะมากกับการเล่นในโหมด Career ครับ
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือโหมดใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อเอื้อต่อการแข่ง E-Sports และการแข่งกันในหมู่เพื่อนๆ มากขึ้นนั่นเองครับ อย่างโหมดไร้กฎหรือพวก Best of หรือ Survival ที่ยิง 1 ลูก สุ่มผู้เล่นออก 1 คน ก็เป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่ได้เห็นในเกมฟุตบอลมานานแล้วเหมือนกัน
โดนสรุปก็รู้สึกว่า FIFA 19 มีความกล้าหาญที่จะหาอะไรใหม่ๆ มาให้เล่น ไม่ใช่เป็นแค่เพียงเกมอัพเดตนัะกเตะรายปีอย่างที่ใครหลายๆ คนค่อนขอดกัน ที่สำคัญคือมันยังคงเป็นเกมฟุตบอลที่เล่นอย่างสนุกสนาน แม้จังหวะจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างสำหรับผู้เล่นเก่าๆ แต่ก็ยังไม่มีเหตุผลอะไรให้รู้สึกว่าต้องปันใจอยู่ดีครับ
***ทีมงาน OS ขอขอบคุณบริษัท Electronic Arts (EA) ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเกมสำหรับใช้ในการรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ***