นับจากนี้ไปอีกประมาณ 6 เดือน เกมเมอร์ทั่วโลกก็จะได้สัมผัสความสยองอีกครั้งกับ Resident Evil 2 เวอร์ชั่นรีเมค ที่จะวางจำหน่ายวันที่ 25 มกราคม 2019 แล้วนะครับ ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ทางทีมงานไม่อยากจะให้ใช้คำว่ารีเมคสักเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างการหยิบเกมมารีเมคกับการทำเกมใหม่เลยมากกว่า และทีมงานของต้นทางอย่าง Gamingbolt ก็ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์คุณ Mike Lunn ตำแหน่ง Brand Manager จาก Capcom ในงาน E3 2018 ที่ผ่านมา ถึงข้อมูลเด็ดๆ เกี่ยวกับตัวเกม Resident Evil 2 เวอร์ชั่นรีเมคด้วย เรามาชมบทสัมภาษณ์กันเลยละกันครับ
Q: อะไรทำให้คุณตัดสินใจทำ Resident Evil 2 เวอร์ชั่นใหม่นี้ให้เป็นมุมกล้องผ่านหัวไหล่ แทนที่จะเป็นมุมกล้องแบบกล้องวงจรปิดเหมือนเวอร์ชั่นดั้งเดิม?
- นี่มันไม่ใช่แค่การรีเมคครับ จริงๆ แล้วเราได้ยึดเอาองค์ประกอบต่างๆ ของเวอร์ชั่นดั้งเดิมบน PS1 มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ แต่เวอร์ชั่นนี้จะถือเป็นเกมใหม่ไปเลย ถ้าคุณเคยเล่นเวอร์ชั่นดั้งเดิมมาก่อน ก็จะเห็นได้ว่ามีสิ่งใหม่ๆ ปรากฏในเกมที่คุณเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน เราได้เซ็ตปริศนาขึ้นมาใหม่ จัดวางตำแหน่งของศัตรูใหม่ และก็เปลี่ยนมุมกล้องด้วย เรียกได้ว่ามันคือเกมใหม่ที่เริ่มทำจากศูนย์ด้วย RE Engine เลยดีกว่า เราต้องการที่จะทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ในสมัยที่ทำเวอร์ชั่นดั้งเดิมบน PS1 นั้นมันมีข้อจำกัดหลายอย่าง และนั่นก็คือสาเหตุที่เราจำเป็นต้องใช้มุมกล้องนั้น แต่เรารู้สึกว่ามุมกล้องผ่านไหล่ดูจะเหมาะกับเกมเวอร์ชั่นนี้มากกว่า
Q: กับการเปลี่ยนมุมกล้องใน Resident Evil 2 เวอร์ชั่น 2019 นี้ มันจะมีผลกระทบอะไรกับเกมเพลย์ของตัวเกมเองมั้ย? เราจะได้เห็นเมคานิคใหม่ๆ ในเกมที่ไม่เคยอยู่ในเวอร์ชั่นดั้งเดิมบ้างรึเปล่า หรือในทางกลับกัน มันมีอะไรในเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่ถูกตัดไปใน Resident Evil 2 เวอร์ชั่น 2019 เนื่องด้วยผลจากการเปลี่ยนมุมกล้องบ้างหรือไม่?
- มันยังคงเป็นเกมแนว Survival Horror เหมือนเดิมครับ ผู้คนชอบคิดว่าถ้าเป็นมุมกล้องผ่านหัวไหล่แล้วจะกลายเป็นเกมแบบ Gears of War ไปซะงั้น คุณยังต้องใช้กระสุนแบบเขียมๆ อยู่ คุณยังต้องสร้างของ ผสมของ เหมือนกับที่เคยทำใน Resident Evil 7 อยู่ คุณสามารถทำกระสุนเพิ่มเองได้ คุณสามารถทำไอเทมฟื้นพลังได้ แต่ข้อดีของมุมกล้องผ่านหัวไหล่ก็คือสิ่งที่เราเห็นตรงหน้าครับ ตัวอย่างเช่น เวลาคุณโดนซอมบี้ตะครุบตัวได้ กล้องจะซูมเข้าไปและให้เรารู้สึกว่าโดนซอมบี้กัดคอแบบจะๆ คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้อยู่ในสถานการณ์จริง ไม่ใช่เห็นลีออนยื้อกับซอมบี้อยู่ตรงมุมห้องนึงแบบในมุมกล้องแบบกล้องวงจรปิด เรารู้สึกว่ามุมกล้องผ่านหัวไหล่นี่แหละเยี่ยมแล้ว
Q: พูดถึงเรื่องมุมกล้อง ในเมื่อมุมกล้องแบบ FPS ใน Resident Evil 7 นั้นประสบความสำเร็จได้ด้วยดี ทางคุณเคยคิดจะนำมุมกล้องแบบนั้นมาใส่ใน Resident Evil 2 เวอร์ชั่น 2019 ระหว่างการพัฒนาบ้างมั้ยครับ?
- ก็มีบ้างครับ ด้วยความที่ภาคนี้สร้างขึ้นมาด้วยเอนจิ้นเดียวกับภาค 7 แต่ถึงแม้ภาคนี้จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตั้งแต่แรก แต่ผมว่าการใช้มุมกล้องแบบ FPS ไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ เราได้ทำการลองและทดสอบมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องแบบเหนือไหล่ หรือมุมกล้องแบบกล้องวงจรปิดแบบเวอร์ชั่นดั้งเดิม แต่สุดท้ายก็เลือกแบบผ่านหัวไหล่เพราะคิดว่ามันเหมาะกับภาคนี้ที่สุดครับ
Q: อยากทราบว่า Resident Evil 2 เวอร์ชั่น 2019 นี้จะเหมือนกับเวอร์ชั่นดั้งเดิมมากแค่ไหนในแง่ของการดีไซน์ฉาก มันเป็นการรีเมคแบบ 1 ต่อ 1 เลยรึเปล่า หรือว่าเล่าเรื่องใหม่โดยการนำเอาองค์ประกอบของเวอร์ชั่นดั้งเดิมมาใช้?
- มันจะไม่เหมือนเป๊ะๆ ซะทีเดียวครับ ถ้าคนๆ นั้นเคยเล่นเวอร์ชั่นดั้งเดิมมาก่อน ไม่ว่าจะเคยเล่นจบรอบเดียวหรือจบมาแล้วเป็นพันๆ ครั้ง เราอยากให้เกมมันดูสดใหม่ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราไม่เรียกเกมนี้ว่า RE2 Remake ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างในฉากที่เราเดินในสถานีตำรวจแล้วมี Licker คลานผ่านหน้าต่างไป ถ้าเป็นเวอร์ชั่นดั้งเดิม ฉากนั้นจะเกิดขึ้นแบบตายตัวทุกครั้ง แต่เราไม่ได้เอาส่วนนั้นมาใส่ไว้ในภาคนี้เนื่องด้วยปริศนาและ Jumpscare ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป และเพราะเราอยากให้สิ่งเหล่านี้สร้างความท้าทายและความกลัวให้กับผู้เล่น มันจะไม่ใช่แค่การย้ายตำแหน่งศัตรูไปยังที่ต่างๆ แต่หากเป็นเหมือนการคิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และเราเองก็ไม่ได้อยากให้ผู้เล่นรู้ด้วยว่าปริศนาต่างๆ มีวิธีแก้ยังไง หรือศัตรูตัวนี้จะอยู่ตรงไหน สิ่งที่เราอยากทำคือการเซอร์ไพรส์ผู้เล่น ดังนั้น เราเลยเปลี่ยนอะไรนิดๆ หน่อยๆ แต่โครงเรื่อง แก่นเรื่อง และเนื้อเรื่องต่างๆ จะมีความใกล้เคียงกับของเดิม เพียงแต่จะมีอะไรใหม่ๆ มาทำให้คุณตกใจเล่นเท่านั้น
Q: Resident Evil 2 เวอร์ชั่นใหม่นี้จะมีส่วนที่เป็นการเล่นแบบ Co-op หรือมัลติเพลเยอร์บ้างมั้ย? หรือว่าเป็นซิงเกิลเพลเยอร์เพียวๆ เลย?
- เป็นซิงเกิลเพลเยอร์ เหมือนเวอร์ชั่นดั้งเดิมครับ
Q: คุณเคยบอกว่า Resident Evil 2 เวอร์ชั่น 2019 นั้นจะมีการบรรยายเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม ตรงส่วนนี้หมายความว่ากราฟิกที่สวยงามขึ้นจะมีส่วนช่วยทำให้สามารถถ่ายทอดเนื้อเรื่องได้ดีขึ้นหรือเปล่า หรือหมายถึงการเอาเนื้อเรื่องมาเขียนและเรียบเรียบใหม่ให้ดีขึ้นเลย?
- ทั้งคู่เลยครับ ตัวอย่างเช่น ในเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมอาจจะมีสถานที่ที่คุณขับรถผ่านหรือแค่เดินผ่านไปเฉยๆ หรือมีผู้คนที่คุณอาจได้พูดคุยด้วยแค่ไม่กี่ประโยค แต่ในภาคนี้ คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม คุณอาจจะได้เข้าไปในสถานที่นั้นๆ และสำรวจเพิ่มเติม หรืออาจจะได้ปฏิสัมพันธ์กับคนๆ นั้นมากยิ่งขึ้น พวกเขาจะมีส่วนร่วมในเรื่องราวภายในเกมมากกว่าเดิม ผมคงพูดอะไรไม่ได้มาก แต่การบรรยาย การเล่าเรื่องภายในเกมจะได้รับการพัฒนาขึ้นแน่นอนครับ
Q: ทางด้านเพลงประกอบใน Resident Evil 2 เนี่ยก็ถือเป็นส่วนสำคัญของเกมเลย แบบช่วยสร้างบรรยากาศ สร้างความกดดัน อะไรทำนองนี้ ถามว่าแล้วเพลงใน Resident Evil 2 เวอร์ชั่นปี 2019 นี้จะเน้นเคารพต้นฉบับหรือเอามารีมิกซ์ใหม่?
- ทางเราพยายามรักษาความเป็นออริจินัลของเกมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกันทางเราก็อยากให้เกมมันดูสดใหม่ด้วย เพราะฉะนั้นเพลงก็จะมีทั้งแบบนำมารีมิกซ์ใหม่และเพลงที่คงไว้แบบเดิม เพลงไหนให้อารมณ์กดดัน ชวนตื่นเต้น ก็จะคงแบบนั้นไว้ ทว่าอย่างเพลงในห้องเซฟ เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เบาใจได้ว่าอยู่ในห้องนี้แล้วไม่โดนซอมบี้เขมือบแน่ๆ ก็จะเป็นเพลงรีมิกซ์ออกสบายๆ หน่อย เป็นต้น
Q: เกมนี้เห็นว่าจะรองรับกับการเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลบน Xbox One X ด้วย ถ้าเช่นนั้นแล้วผู้เล่นจะคาดหวังอะไรได้บ้างหากเล่นบน Xbox One X ครับ? จะได้ที่ระดับ 4K พร้อมกับเฟรมเรต 60fps เลยรึเปล่า?
- ผู้เล่นจะสามารถเล่นบน Xbox One X และ PS4 Pro ได้ที่ความละเอียด 4K ครับ แต่ถ้าคุณเลือกจะเอาภาพระดับ 4K ก็จะได้เฟรมเรตคงที่ที่ระดับ 30fps เท่านั้น
Q: ถ้าเกมนี้ไปรันบน PS4 และ Xbox One รุ่นธรรมดา จะได้เฟรมเรตและความละเอียดที่เท่าไหร่ครับ?
- เรากำลังพุ่งเป้าไปที่การแสดงเฟรมเรตสูงไว้ก่อนครับ แต่ก็ต้องมีการตัดสินใจเรื่องนี้อีกที
Q: คุณมีแผนที่จะนำเกม Resident Evil 2 เวอร์ชั่นใหม่นี้ไปพอร์ตลง Nintendo Switch มั้ย?
- ไม่ครับ ไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ เราอยากจะโฟกัสกับการพัฒนาลงแพลตฟอร์ม PS4, Xbox One และ PC ไปก่อน
เครดิต: Gamingbolt
