พูดถึงนักพัฒนาเกมตัวพ่อแห่งวงการ เชื่อเลยว่าชื่อของ ฮิเดโอะ โคจิม่า น่าจะลอยมาเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน และผลงานของโคจิม่าที่ผู้คนทั่วโลกต่างจดจำกันได้อย่างดี ก็คงหนีไม่พ้นซีรีส์ Metal Gear เช่นเคย โดยบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักผลงานในอดีตของโคจิม่าที่ไม่ใช่เกมในตระกูล Metal Gear กันบ้างว่าเจ้าตัวเคยมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมอะไรมาก่อนกันแน่ มาชมกันเลยดีกว่า
Snatcher
Snatcher เป็นผลงานช่วงแรกๆ ที่โคจิม่าทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบทและออกแบบเกม ซึ่งพล็อตเรื่องนั้น ทางโคจิม่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายแนวไซเบอร์พังค์และไซไฟ ที่เป็นเหตุการณ์สมมติที่เกิดขึ้นในโลกอนาคต โดยเล่าถึง กิลเลียน ซีด นักสืบหนุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ตามสืบคดีที่เกี่ยวพันกับหุ่นชีวภาพ (Bioroid) ที่มีชื่อเรียกว่า "สแนชเชอร์" ซึ่งพวกมันได้สังหารมนุษย์และแทรกซึมปะปนอยู่ในกลุ่มสังคมกับผู้คนทั่วไป ส่วนเกมเพลย์ของ Snatcher จะเป็นลักษณะของการใช้คำสั่งที่ปรากฏบนหน้าจอเป็นหลัก โดยคำสั่งก็จะมีตั้งแต่ "มองดู" "พูดคุย" และมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ เป็นต้น
น่าเสียดายที่ตัวเกมเน้นทำแต่เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นเป็นหลักครับ จะมีทำเป็นเวอร์ชั่นอังกฤษอยู่เพียงแพลตฟอร์มเดียว นั่นก็คือ Sega CD แต่เผอิญว่าทาง Sega เองก็ไม่ได้โหมโปรโมทตัวเครื่อง Sega CD เท่าไหร่ด้วย ยอดขายเกมนี้ก็เลยดูดีแค่ภายในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
Policenauts
หลังจากเบิกร่องกับ Snatcher ไป จนเกิดเป็นกระแสขึ้นมาระดับนึง โคจิม่าก็มีผลงานสไตล์คล้ายกันออกมาอีกเกมคือ Policenauts ที่เจ้าตัวทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบทและผู้กำกับควบสองตำแหน่งเลย ในขณะที่เกมนี้ยังคงเป็นธีมโลกอนาคตแบบฮาร์ดไซไฟ ที่เป็นเรื่องราวของ โจนาธาน อินแกรม ผู้เป็น 1 ใน 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าร่วมโครงการ Policenauts ที่เป็นหลักสูตรฝึกตำรวจบนห้วงอวกาศ แต่ระหว่างทดสอบชุดนักบินอวกาศก็ได้เกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดฝัน ทำให้โจนาธานหลุดเคว้งไปในอวกาศและทุกคนก็เชื่อว่าเจ้าตัวตายไปแล้ว กระทั่งในอีก 24 ปีต่อมา ก็ได้มีการค้นพบร่างของโจนาธานที่ยังมีชีวิตอยู่ แถมโจนาธานนั้นสลบไสลอยู่ในชุดมาอย่างยาวนาน ทำให้ร่างกายของเขาถูกสต๊าฟเอาไว้ที่อายุเท่าเดิม
ภายหลังกลับมาที่โลก โจนาธานก็ผันตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน และได้ไปพัวพันกับคดีขนย้ายอวัยวะมนุษย์และค้ายาผิดกฎหมาย โดยมีอดีตเพื่อนผู้ร่วมโครงการ Policenauts กับโจนาธานเข้ามามีเอี่ยวด้วย สำหรับตัวละครโจนาธานกับเอ็ดที่ปรากฏอยู่ในเกมก็ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Lethal Weapon ที่ เมล กิ๊บสัน กับ แดนนี่ โกลเวอร์ แสดงนำครับ
Zone of the Enders
เกมนี้เป็นการผสมผสานความเป็นเกมแนวชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่ 3 กับแนว Hack and Slash เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งป๋าโคมีส่วนร่วมในเกมภาคแรกในฐานะโปรดิวเซอร์และดีไซเนอร์ ขณะที่ภาค 2 จะทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อย่างเดียว ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น "ลีโอ" เด็กหนุ่มที่ได้กลายมาเป็นคนขับหุ่นรบที่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวค่อนข้างหลากหลาย โดยเกมนี้แม้จะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก แต่ก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับเกมแนวลักษณะนี้ไว้หลายอย่างเลย
Tokemeki Memorial Drama Series
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าโคจิม่าก็เคยมีส่วนร่วมพัฒนาเกมแนวจีบสาวของ Konami อย่าง Tokimeki Memorial ด้วย ซึ่ง Drama Series จะเป็นภาคเสริมที่เนื้อหาจะไปเจาะจงที่สาวๆ บางคนที่ปรากฏอยู่ใน Tokimeki Memorial ภาคแรกมาก่อน โดยโคจิม่า ณ ตอนนั้นเคยรับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบเกมและโปรดิวเซอร์ในภาค Vol.1 และ Vol.2 ครับ
Boktai
นี่ก็เป็นอีกเกมที่ไม่น่าเชื่อว่าโคจิม่าจะเคยทำมาก่อนเช่นกัน แถมเป็นโปรดิวเซอร์ซะด้วย โดย Boktai จะเป็นเกมแนวแอ็กชั่นกึ่ง RPG ที่เล่าถึงเด็กหนุ่มนักล่าแวมไพร์นามว่า Django ที่มีอาวุธคู่ใจเป็นปืนโซล่าร์กัน ที่ยิงเป็นลำแสงอาทิตย์แผดเผาศัตรู แถมยังมีลูกเล่นการใช้แถบรับแสงบนตลับเกมเพื่อใช้ฟีเจอร์เปลี่ยนอาวุธภายในตัวเกมได้อีกด้วย นอกจากนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มเล่นเกมครั้งแรก ผู้เล่นจะต้องทำการเซ็ตเวลาเพื่อให้เกมรับรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นและตกตามเวลาจริงๆ พร้อมทั้งจำลองตำแหน่งของดวงอาทิตย์ที่จะโผล่ในเกมให้ด้วยเช่นกัน