หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อเกมเอาชีวิตรอดสุดโหดอย่าง Don’t Starve และสิ่งหนึ่งที่ใครที่เคยเล่นเกมนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ Don’t Starve เป็นเกมที่ยากมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้เล่นต้องรักษาสถานะของตัวละครถึง 3 อย่างหรืออาจจะเป็นเพราะมีสัตว์ประหลาดดุร้ายอยู่เต็มไปหมด แต่ที่แน่ๆ คือเกมนี้ไม่มีการสอนใดๆ ผู้เล่นเลย ทำให้มือใหม่หลายคนต่างต้องท้อเพราะว่าเอาชีวิตรอดในเกมนี้ได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น วันนี้เราจึงจะมาเผยเคล็ดลับที่จะทำให้คุณสามารถเอาชีวิตรอดได้นานขึ้นกัน แต่ก็อย่าปล่อยให้เคล็ดลับพวกนี้ทำให้เกมหมดสนุกเพราะวิธีต่อไปนี้ก็ไม่ใช่เพียงวิธีเดียวในการเล่นเกม Don’t Starve
เพื่อนๆ สามารถหาเกม Don’t Starve นี้มาเล่นได้ทั้งใน PC และบนมือถือได้ที่นี่
ลิงค์ดาวน์โหลดสำหรับ iOS คลิกที่นี่
ลิงค์ดาวน์โหลดสำหรับ Android คลิกที่นี่
ลิงค์สู่หน้า Steam ของเกม Don’t Starve คลิกที่นี่
1. เดินเล่นสำรวจโลก
ช่วงแรกที่เริ่มผู้เล่นควรเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ซัก 6-7 วันก่อนเพื่อที่จะสำรวจว่าไอเทมสำคัญๆ อยู่ตรงไหนบ้าง โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภทได้แก่ ไอเทมที่เคลื่อนย้ายไม่ได้กับเคลื่อนย้ายได้ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงหลักปักฐานด้วย โดยในระหว่างการสำรวจนี้ผู้เล่นก็ควรเก็บอาหารอย่างเบอร์รี่หรือเนื้อต่างๆ ไว้กินขณะเดินทาง รวมไปถึงของที่จำเป็นในการสร้างฐานอย่าง ไม้ หิน ทอง กิ่งไม้ ฟางด้วย หากกระเป๋าเต็มผู้เล่นก็สามารถสร้าง Science Machine เพื่อสร้าง Backpack ได้ โดยหลังจากที่ใช้เสร็จแล้วก็ใช้ค้อนทุบเพื่อเอาวัตถุดิบคืนด้วย
2. กรุณาอย่าเด็ดดอกไม้
หลายคนคงเคยคิดว่าดอกไม้ใน Don’t Starve มีไว้เพื่อเพิ่ม Sanity หรือสมองแต่หารู้ไม่ว่าดอกไม้นั้นสำคัญกว่าแหล่งเพิ่มสมองและหัวใจทีละเล็กๆ น้อยๆ หากปล่อยดอกไม้ไว้ก็จะมีผีเสื้อเกิดทุกๆ วันยกเว้นในฤดูหนาวและผีเสื้อนี้เองที่จะทำให้การเอาชีวิตรอดของผู้เล่นนั้นง่ายขึ้นอย่างมาก โดยวิธีเก็บผีเสื้อนั้นทำได้โดยยืนอยู่ห่างๆ รอให้ผีเสื้อโฉบลงพื้นหรือหยุดที่ดอกไม้แล้วค่อยวิ่งเข้าไปตีมันหนึ่งที ผู้เล่นจะได้รับปีกผีเสื้อซึ่งจะเพิ่มหัวใจและกระเพาะพอสมควรเลยทีเดียวหรือบางทีอาจจะได้เนยซึ่งเป็นส่วนผสมในการทำไอศครีม ด้วยวิธีนี้ผู้เล่นสามารถเพิ่มหัวใจซึ่งเป็นสถานะที่เพิ่มยากในช่วงต้นเกมได้อย่างง่ายดาย
3. เลือกบ้านดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากสำรวจแผนที่เสร็จแล้ว การเลือกทำเลของฐานก็จะเป็นสิ่งสำคัญต่อไปซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยโดยจะมีที่สำคัญๆ ได้แก่ทรัพยากรที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ และความปลอดภัย ทรัพยากรที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ที่สำคัญๆ นั้นได้แก่ ราชาหมูหรือ Pig King, ฝูงวัว Beefalo, ดินแดนที่มีหิน และป่าพรุที่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเขตที่อันตรายมากๆ แต่เขตนี้เป็นเขตที่เราสามารถวิ่งเข้าไปเพื่อเอาของดีๆ ที่ตกอยู่ตามพื้นได้ตามสบาย เพียงแค่ผู้เล่นห้ามหยุดวิ่งอย่างเด็ดขาดเท่านั้น การเลือกทำเลตั้งฐานนั้นควรเลือกให้อยู่ใกล้ทรัพยากรเหล่านี้ให้มากที่สุดทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกลๆ แต่ก็ต้องอยู่ไม่ใกล้ฝูง Beefalo จนเกินไปเพราะว่าในฤดูใบไม้ผลิพวกมันจะตกมันและจู่โจมทุกอย่างที่ขวางหน้า
4. ปล่อยให้สัตว์มันฆ่ากันเอง
หลังจากที่เล่นมาได้สักพัก ผู้เล่นจะได้ยินเสียงหมาเห่าดังลั่นเป็นระยะๆ เสียงนี้เป็นเสียงเตือนว่ากำลังจะมีฝูงหมามาโจมตีเรา หากใครไม่สันทัดในการต่อสู้ละก็ ให้รีบวิ่งไปหาสัตว์อื่นๆ อย่างผึ้ง Beefalo หรือหนวดปลาหมึกในเขตป่าพรุเพื่อเอาตัวรอดทันทีเพราะหมาป่าพวกนี้จะโจมตีทุกอย่างที่อยู่ใกล้หากผู้เล่นวิ่งหนีไปเรื่อยๆ หมาพวกนี้ก็จะเริ่มโจมตีสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ ที่มักจะแข็งแกร่งกว่ามันและเลิกตามเราไปเอง วิธีนี้สามารถใช้ได้กับสัตว์เกือบทุกตัวในเกมแม้กระทั่งยักษ์ซึ่งจะปรากฏตัวในช่วงปลายฤดู หากไม่มีสัตว์คอยช่วยจริงๆ ผู้เล่นสามารถให้เนื้อกับพวกหมูเพื่อนำพวกมันมาใช้งานหรือต่อสู้แทนเราก็ได้
5. ทำอาหารกินเองมีประโยชน์
หลังจากที่ได้สำรวจแผนที่ตั้งหลักปักฐานแล้วสิ่งต่อไปก็คือเอาชีวิตรอดให้ได้นานที่สุด โดยการเพิ่มสถานะแต่ละอย่างนั้นจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากินเข้าไปและค่าที่เพิ่มขึ้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากหากอาหารนั้นผ่านขั้นตอนมาก่อน จึงขอแนะนำให้สร้าง Crock Pot, Drying Rack และ Birdcage ซึ่งจะทำให้เราสามารถทำอาหารอย่าง Meatballs, Ice Cream และ Pierogi ได้ซึ่งจะเพิ่มสถานะแต่ละอย่างมากขึ้นจากอาหารธรรมดา โดยดูและเรียนรู้สูตรการทำอาหารใน Don’t Starve ได้โดย คลิกที่นี่ โดยสิ่งก่อสร้างอื่นๆ เช่น Drying Rack และ Birdcage ก็จะช่วยให้เรามีอาหารที่หลากหลายมากขึ้น
