ไฮไลท์เด็ดอย่างนึงภายในงาน E3 2018 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ที่ทาง OS ภูมิใจนำเสนอก็คือบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive ของคุณชูเฮย์ โยชิดะ (Shuhei Yoshida) ผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่ง President of Worldwide Studios ของบริษัท Sony Interactive Entertainment นั่นเอง ซึ่งคุณโยชิดะถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของทาง Sony ที่เห็นการเติบโตของ PlayStation มาตั้งแต่ยุคแรกๆ จนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว เรามาชมบทสัมภาษณ์ของคุณโยชิดะกันเลยดีกว่าครับ
Q: คุณได้มีโอกาสเล่นเดโมของเกม Death Stranding แล้วหรือยังครับ และคุณมีความคิดเห็น หรือความประทับใจกับเกมนี้อย่างไรบ้าง?
คุณโยชิดะ: ยังไม่เคยเล่นเลยครับ และผมก็รู้เท่าๆ กับที่พวกคุณรู้นั่นแหละ แต่ผมก็รู้สึกดีใจมากๆ เวลาที่เห็น Kojima Production ออกเทรลเลอร์ใหม่ๆ และผมก็ชอบเกมเพลย์ทุกๆ รูปแบบในโลกนี้เลย
Q: คุณคิดยังไงกับเกม Resident Evil 2 ที่ทำภาครีเมคออกมาในเจเนเรชั่นนี้?
คุณโยชิดะ: ผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในข่าวที่น่ายินดีที่สุดเลยล่ะตอนที่ภาคนี้ประกาศออกมา สำหรับผมแล้ว มันดูเป็นมากกว่าการรีเมคเสียอีก และทาง Capcom เองก็เหมือนจะทุ่มเทให้กับเกมมากกว่าการแค่เอาเกมเก่ามารีเมคลงแพลตฟอร์มใหม่เฉยๆ ดังนั้นผมก็เลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครับที่จะได้เล่นเกมนี้ตอนที่มันออกวางขายในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า
Q: ดูเหมือนว่าตอนนี้ทาง Microsoft จะมีกำหนดการออกเกม Exclusive มาเป็นจำนวนมาก และได้มีการรับทีมพัฒนาใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มให้กับสตูดิโอของตนด้วย อยากทราบว่าทาง Sony มีวิธีการอย่างไรบ้างในรับมือด้านเกม Exclusive นี้?
คุณโยชิดะ: ทางเราได้ให้ความสำคัญกับเกมของเราเองมาโดยตลอด และเรายังหมั่นเพิ่มอัตราการเติบโตและลงทุนให้กับสตูดิโอของเราต่อไป และเกม Exclusive ของเราที่เพิ่งวางขายไปเมื่อเร็วๆ นี้อย่าง Uncharted 4, Horizon Zero Dawn, God of War หรือ Detroit: Become Human ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งก็ทำให้เราภูมิใจมากจริงๆ รวมถึงเกมใหม่ๆ ที่เราได้นำมาโชว์บนเวที E3 ในครั้งนี้อย่าง The Last of Us 2, Ghost of Tsushima รวมถึง Death Stranding และ Spider Man ด้วย ซึ่งแต่ละเกมก็เป็นเกมใหญ่ๆ ที่เราลงทุนและใช้ทรัพยากรในการพัฒนาไปเยอะมากๆ แม้กระทั่งเกมที่กำลังพัฒนาอย่าง Days Gone หรือเกมบน PSVR ก็สำคัญสำหรับเรามากเช่นกัน ทางเราจะคอยสนับสนุนและลงทุนกับสตูดิโอเหล่านี้ต่อไปอย่างแน่นอนครับ ผมขอรับปากด้วยตัวเองเลย
Q: เราจะมีโอกาสได้เห็น PlayStation หยิบเกมซีรีส์เก่าๆ ที่เคยโด่งดังสมัย PS1 หรือ PS2 กลับมาทำอีกมั้ยครับ?
คุณโยชิดะ: ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าผมดีใจมากจริงๆ ที่แฟนๆ ยังจำเกมเก่าๆ ตั้งแต่สมัย PS1 ได้ดี และเราก็ได้รับคำร้องขอจากแฟนๆ เป็นจำนวนมากให้นำเกมเก่าๆ กลับมารีเมค ซึ่งทางเราก็ได้นำเกมดังๆ บางเกมมารีเมคบ้างแล้ว อย่างเช่นเกม Shadows of the Colossus และในตอนนี้เราก็กำลังทำการรีมาสเตอร์เกม MediEvil จาก PS1 อยู่ มิหนำซ้ำ เกมจากสมัยเก่าๆ หลายเกมที่เรานำมารีมาสเตอร์ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านๆ มา ดังนั้น เราจะยังคงนำเกมเก่าๆ มาทำการรีเมคหรือรีมาสเตอร์ต่อไปครับ แต่ปัญหาก็คือทรัพยากรของสตูดิโอของเรานั้นมีค่อนข้างจำกัด และแต่ละสตูดิโอเองก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว แต่ก็มีเกมเก่าๆ หลาย IP อยู่นะครับที่เราอยากหยิบกลับมาทำใหม่ ซึ่ง The Legend of Dragoon ก็เป็นหนึ่งในนั้น อันนี้คงต้องรอดูกันต่อไปครับ อย่างไรก็ตาม ทางเราก็มีบริษัทลูกที่จะคอยทำเกมมาลงให้กับสมาร์ทโฟนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็กำลังพัฒนาเกมอย่าง Wild Arms มาลงให้กับสมาร์ทโฟนจากทางฝั่งญี่ปุ่นอยู่พอดี ดังนั้นใครที่สนใจหรือใครที่เป็นแฟนๆ ของเกมนี้ก็เตรียมตัวรอฟังข่าวดีในปีนี้ได้เลยครับ
Q: ในช่วงที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่าข่าวเกี่ยวกับเกมอินดี้ของทาง Sony จะเงียบเหลือเกิน คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างครับ?
คุณโยชิดะ: ผมกลับไม่คิดว่ามันเงียบนะครับ เพราะทางเราก็ยังคงสนับสนุนวงการเกมอินดี้มาโดยตลอด อย่างเมื่อเร็วๆ นี้เราก็เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน PlayStation Store ที่จะโชว์เฉพาะเกมอินดี้เท่านั้น ถึงแม้ภายในงาน E3 เราจะไม่มีโอกาสได้โชว์เกมที่เป็นเกมอินดี้มากนักก็ตาม ด้วยความที่เราอยากจะนำรายละเอียดของเกมซีรีส์ใหญ่ๆ มาโชว์ซะมากกว่า แต่ถ้าคุณไปดูที่บูธของทาง PlayStation คุณจะได้เห็นเกม PS VR ใหม่ๆ มากมาย และเกมพวกนั้นก็เป็นเกมอินดี้เสียส่วนใหญ่ ดังนั้นผมพูดได้เลยว่าเรายังคงคอยสนับสนุนวงการเกมอินดี้อยู่ตลอดครับ
Q: พอจะบอกได้ไหมครับว่ามีเกมอินดี้อะไรที่น่าสนใจบ้าง?
คุณโยชิดะ: ได้ครับ อย่างเช่นเกมเกมหนึ่งที่เราเพิ่งประกาศเปิดตัวไปอย่างเกม Tetris Effect หรือเกม Rez Infinite บน PS VR เองก็มีเกมเพลย์ที่น่าสนใจมากเช่นกัน และยังมีเกมที่ชื่อ Beat Saber ที่เพิ่งลงให้กับ PC และกำลังจะมาลงให้กับ PS VR ซึ่งเกมนี้ก็เป็นอีกเกมที่แฟนๆ ให้ความสนใจกันเยอะมากๆ นอกจากนี้ก็มีเกมจากประเทศจีนที่ชื่อว่า Kill X บน VR อีกเช่นกัน ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจเอามากๆ เลยครับ
Q: แปลว่าเกมอินดี้ส่วนมากจะลงให้กับ PS VR แทนที่จะเป็นตัวคอนโซลปกติเหรอครับ?
คุณโยชิดะ: เปล่าเลยครับ ถ้าคุณลองดูใน PlayStation Store คุณจะเห็นว่าเรามีเกมอินดี้ใหม่ๆ แทบจะทุกสัปดาห์เลย และเราก็คอยให้การสนับสนุนและโฆษณาเกมเหล่านี้บนโซเชียลมีเดียต่างๆ อยู่เสมอ แต่เครื่อง VR นั้นถือว่าเป็นสิ่งใหม่ที่เราเพิ่งจะออกมา เราก็เลยต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษน่ะครับ ดังนั้นในช่วงนี้เกมอินดี้ใหม่ๆ จึงจะลงให้กับ PS VR เป็นหลักก่อน
Q: ในเมื่อทาง Sony ไม่ได้ประกาศเกม Exclusive ใหม่ๆ บนเวที E3 2018 เลย อยากทราบว่าจะมีการประกาศเกม Exclusive ใหม่ๆ ภายในปีนี้อีกหรือเปล่าครับ หรือว่าในช่วงนี้จะมีเท่านี้ไปก่อน?
คุณโยชิดะ: เรายังไม่ได้คิดเลยครับว่าจะทำอะไรบ้างหลังจากผ่านงาน E3 ไปแล้ว แน่นอนว่าอาจจะมีให้ลุ้นกันบ้างในงานเกมโชว์อื่นๆ ภายในปีนี้ แต่ตอนนี้คงยังพูดอะไรไม่ได้มากครับ
Q: ก่อนหน้านี้เห็นทางคุณโยชิดะพูดเกี่ยวกับตลาดเกมมือถือในประเทศญี่ปุ่น อยากทราบว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับตลาดเกมมือถือบ้างครับ คิดว่ามันเป็นตลาดที่น่าลงทุน น่าสำรวจหรือเปล่า?
คุณโยชิดะ: ก็น่าสนใจนะครับ เพราะแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนเองก็เป็นอะไรที่สะดวกมากๆ เราทุกคนต่างก็มีสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว และเราก็สามารถเล่นเกมบนมือถือได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเล่นแค่ 3-5 นาทีก็ตาม และระบบทัชเองก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ดังนั้น ในฐานะเกมเมอร์คนหนึ่ง ผมคิดว่ามันคงจะดีมากๆ หากเรามีเกมให้เล่นบนมือถือเวลาต้องออกจากบ้านไปไหนมาไหน นอกจากนี้ ผมคิดว่าแพลตฟอร์มแต่ละแบบต่างก็มีจุดเด่นจุดด้อยเป็นของมันเอง และเกมมือถือเองก็เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ถือว่าใหญ่ใช่เล่น ดังนั้น ทางเราเลยกำลังมุ่งที่จะนำเกมบางส่วนมาลงให้กับมือถือเพื่อให้เข้าถึงฐานผู้เล่นได้มากขึ้น โดยเริ่มจากที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งในปีก่อน เราก็เพิ่งนำเกม Everybody’s Golf มาลงให้กับสมาร์ทโฟนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่น่าพอใจทีเดียว ณ ตอนนี้ เราเลยกำลังวางแผนว่าจะลองนำเกมนี้มาลงให้กับตลาดเกมโซนเอเชียภายในปีนี้ดูครับ
Q: แล้วคุณมีความคิดเห็นยังไงกับการที่เกมหลายๆ เกมหันมาลงให้กับมือถือแทนครับ โดยเฉพาะเกมที่เป็นเกมจากเครื่อง PlayStation เพราะช่วงนี้ทีมพัฒนาหลายๆ ทีมก็เริ่มที่จะหันมาพัฒนาเกมให้กับสมาร์ทโฟนแทนแล้ว และเรื่องนี้มีผลกระทบอย่างไรกับทาง Sony บ้าง เพราะคงต้องขอพูดตามตรงนะครับว่าเกมเมอร์บางคนก็ไม่ได้ชอบมือถือเลย?
คุณโยชิดะ: ถ้าคุณลองดูเกมของพวกเราหลายๆ เกม คุณจะเห็นเลยว่าเรายังคงมุ่งพัฒนาและสนับสนุนเกมเหล่านี้อยู่อย่างเต็มที่ เช่นเกม Horizon Zero Dawn ที่เราเพิ่งออก DLC ให้แฟนๆ ได้เล่นกัน และทางเราก็จะยังเน้นพัฒนาเกมในลักษณะนี้เป็นหลักต่อไปเรื่อยๆ แต่สำหรับเกมมือถือนั้น ผมมองว่ามันเป็นช่องทางที่ทำให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ดี เพราะเราสามารถรับฟังเสียงตอบรับจากแฟนๆ ได้อย่างรวดเร็ว สามารถศึกษาได้ว่าลูกค้าของเราเล่นเกมกันอย่างไร ชอบเล่นเกมแบบไหน และนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาระบบหรือเกมของพวกเราต่อไป หรือถ้าเกมนั้นๆ มีข้อผิดพลาดอะไรหรือมีจุดไหนที่ผู้เล่นไม่ชอบ เราก็จะสามารถกลับไปแก้ไขได้ ซึ่งพวกนี้ล่ะครับที่ผมมองว่าเป็นผลประโยชน์ที่ได้รับจากตลาดเกมสมาร์ทโฟน
Q: นับตั้งแต่ยุค PS1 จนถึง PS4 เป็นต้นมา คุณโยชิดะมองว่าการพัฒนาเกมในแต่ละยุคได้สะท้อนหรือให้แนวคิดอะไรกับคุณบ้างครับ?
คุณโยชิดะ: ผมมองว่าโลกของเกมในแต่ละยุคต่างก็เติบโตขึ้นและดีขึ้นตลอดเลยครับลองดูเกม God of War เป็นตัวอย่างก็ได้ อย่างคุณ Cory Barlog ที่อยู่ในวงการพัฒนาเกมมาตั้งแต่สมัย God of War II ซึ่งในตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว และตอนนี้เขาก็มีครอบครัว มีลูก มีภรรยาเป็นของตัวเอง ซึ่งประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงพวกนี้ก็จะสะท้อนเข้าไปอยู่ในเกมที่พวกเขาสร้างขึ้นมาด้วย และเมื่อบวกเข้ากับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอยู่ตลอด มันก็เลยออกดอกออกผลออกมาเป็นเกมที่ดีกว่าเดิม สวยงามกว่าเดิม สมจริงกว่าเดิม และรายละเอียดต่างๆ อย่างประเด็นที่เกมสื่อออกมาเองก็จะเติบโตไปพร้อมกับผู้เล่นด้วยเช่นกัน ผมก็เลยมองว่าโลกของเกมมันก็โตขึ้น สวยงามขึ้น และมีความหมายขึ้นทุกปีๆ เหมือนตัวผู้เล่นและผู้พัฒนานั่นแหละครับ
Q: ในเมื่อเกม 1st Party ของทาง PlayStation ส่วนใหญ่เหมือนจะเน้นไปที่โหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งก็คือโหมด Singleplayer อย่างเกม Horizon Zero Dawn หรืออย่าง God of War ก็เป็นเกม Singleplayer หมดเลย อยากทราบว่าทำไมทาง PlayStation ถึงไม่พัฒนาเกมแนว Multiplayer บ้างล่ะครับ?
คุณโยชิดะ: เราก็ทำอยู่นะครับ อย่างเกม Uncharted เองก็มีโหมด Multiplayer เป็นของตัวเอง เพียงแต่มันไม่ใช่เป้าหมายหลักๆ ของพวกเราเท่านั้นเอง แต่นอกเหนือไปจากเกมเหล่านี้ เราก็มีเกมที่เป็นแนว Multiplayer โดยเฉพาะออกมาเหมือนกันนะครับ เพียงแต่สตูดิโอส่วนใหญ่ของเรามักจะเน้นทำเกมในแบบที่พวกเขาถนัดเสียมากกว่า เพราะตลาดเกมนั้นเป็นอะไรที่กว้างมากๆ และเราก็ไม่อยากจะเอาแต่ตามกระแสของตลาดอย่างเดียว เพราะเกมแต่ละแนวต่างก็มีผู้พัฒนาที่ประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นเราเลยอยากสร้างเกมในแบบที่พวกเราชอบและถนัดมากกว่า ซึ่งเกมแนว Singleplayer ก็คือความถนัดของสตูดิโอของเรา และแฟนๆ ของเราเองก็ดูเหมือนจะชอบมันเหมือนกัน แถมเราก็ยังมีไอเดียใหม่ๆ อีกมากมายที่อยากจะถ่ายทอดให้แฟนๆ ของเราได้เห็นครับ
Q: ได้ยินว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของเกม Bloodborne เลย อยากทราบว่าคุณตื่นเต้นแค่ไหนกับเกม Sekiro ครับ?
คุณโยชิดะ: ตื่นเต้นมากๆ เลยล่ะครับ (หัวเราะ) ผมคิดว่ามันเหมือนกับการเอาซามูไรมาผสมกับ Bloodborne เลย และผมว่ามันก็เป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ ที่เราจะมีเกมในธีมซามูไรมาให้เล่นถึง 3 เกมด้วยกัน ทั้ง Sekiro, Ghost of Tsushima และ Nioh 2 โดยแต่ละเกมก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งก็ทำให้ผมตื่นเต้นเอามากๆ เลย
Q: เกม Spider-Man ที่กำลังจะออกนี้มีต้นกำเนิดมาจากการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่หรือหนังภาคไหนรึเปล่าครับ?
คุณโยชิดะ: สำหรับเกม Spider-Man ที่ทางเรากำลังจะปล่อยออกมานั้นจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่างชัดเจนครับ ซึ่งเราไม่ได้พัฒนาขึ้นมาจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์ภาคไหนเลย และถ้าพูดกันตามตรง ในอดีตนั้นมีเกมหลายเกมที่พัฒนาโดยอิงมาจากคอมิคหรือภาพยนตร์เรื่องต่างๆ แถมยังออกวางจำหน่ายในเวลาเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ อีก ซึ่งเกมส่วนมากดันกลายเป็นเหมือนกับสื่อที่ช่วยโฆษณาให้กับหนังเรื่องนั้นแทนซะอย่างนั้น และผู้เล่นเองก็ใช่ว่าจะชอบคุณภาพของเกมพวกนั้นด้วย ดังนั้น ทาง Marvel จึงตัดสินใจว่าถ้าจะมีการนำตัวละครของพวกเขามาทำเป็นเกม เกมเหล่านั้นจะต้องได้รับการเอาใจใส่และการโฆษณาในระดับเดียวกับภาพยนตร์ เพราะฉะนั้นเกม Spider-Man ที่ทาง Insomniac กับทาง Marvel ได้ร่วมทำมาด้วยกันนี้จึงเป็นเหมือนกับผลงานชิ้นใหม่ที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเองไปเลย อารมณ์เหมือนกับภาพยนตร์ Spider-Man ภาคใหม่ของทาง Marvel นั่นแหละครับ นอกจากนี้ ทางเราเองก็ได้ลงทุนลงแรงไปกับเกมนี้เยอะมาก และก็ตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นเกมนี้ได้วางจำหน่าย เพราะเกมนี้เป็นเกมแนวแอ็กชั่นกึ่งโอเพ่นเวิลด์แบบที่ทาง Insomniac ถนัด แถมยังมีคนจากทาง Marvel มาช่วยพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราเลยตื่นเต้นกับเกมนี้มากๆ เลยล่ะครับ