เป็นเวลาประมาณ 21 ปีเลยทีเดียว ที่กว่าเกม Resident Evil ภาค 2 เวอร์ชั่นรีเมคจะวางหน่าย นับตั้งแต่เวอร์ชั่นดั้งเดิมเคยออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 1998 บนเครื่อง PS1 ซึ่งก็แน่นอนว่าในเวอร์ชั่นรีเมคที่เตรียมกำหนดวางขายในต้นปี 2019 ก็น่าจะมีคอนเท้นท์หรือความลับในเกมถูกใส่มาเพิ่มแน่ๆ แต่ก่อนที่เราจะไปลุ้นรอการมาของภาค 2 เวอร์ชั่นรีเมค เรามารู้จักกันก่อนดีกว่าครับว่าในเวอร์ชั่นดั้งเดิมของเกม Resident Evil 2 นั้นเคยมีความลับหรือ Easter Egg อะไรที่น่าสนใจบ้างกันแน่
- ในช่วงเริ่มต้นของฝั่งเนื้อเรื่อง A ไม่ว่าเราจะเล่นเป็นลีออนหรือแคลร์ เราจะเห็นร้านค้าข้างทางแห่งหนึ่งมีป้ายอยู่ด้านบนว่า ARUKAS โดยคำนี้เป็น Easter Egg ที่ทางทีมพัฒนาใส่มาเพื่อให้โยงกับเกม Street Fighter Alpha 2 ของ Capcom ที่วางจำหน่ายในเวลาไล่เลี่ยกัน และหากเรานำคำว่า ARUKAS มาเรียงตัวอักษรจากหลังมาหน้า ก็จะได้เป็นคำว่า SAKURA ซึ่งก็คือตัวละครสาวหน้าใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวครั้งแรกในเกม Street Fighter Alpha 2 นี่แหละครับ
- นอกจากข้อข้างบนแล้วยังมี Easter Egg อีกอย่างนึงที่ทาง Capcom ใส่มาใน Resident Evil ภาคนี้ด้วยครับ นั่นก็คือภายในสถานีตำรวจแร็คคูนจะมีอยู่ห้องนึงที่เป็นทางเดินยาวๆ และจะมีอยู่มุมนึงของห้องที่เราจะเห็นแผ่นไม้ที่ปิดหน้าต่างอยู่ พร้อมกับรอยขีดเขียนบนแผ่นไม้ว่า REDRUM โดยคำนี้ได้นำมาฉากนึงในภาพยนตร์แนวเขย่าขวัญเรื่อง The Shining ที่ออกฉายมาตั้งแต่ปี 1980 ซึ่งถ้านำคำนี้มาเรียงตัวอักษรจากหลังมาหน้า ก็จะได้เป็นคำว่า MURDER ที่หมายถึง ฆาตกรรม นั่นเอง
- เพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้จนจบน่าจะจำห้องทำงานของหน่วย S.T.A.R.S. ในสถานีตำรวจเมืองแร็คคูนได้นะครับ โดยในห้องที่ว่านี้ก็จะมีความลับอยู่อย่างนึงก็คือ ถ้าเราเดินไปสำรวจโต๊ะทำงานของเวสเกอร์เป็นจำนวน 50 ครั้ง เราจะได้ไอเทมที่ชื่อว่า Film D ที่เป็นม้วนฟิล์มสำหรับเอาไปล้างที่ห้องเซฟชั้นล่าง และเมื่อนำมันไปล้างแล้วก็จะพบว่ามันเป็นรูปของรีเบคก้า เจ้าหน้าที่สาวของหน่วย S.T.A.R.S. ผู้เป็นนางเอกของ Resident Evil 0 ครับ
- สำหรับผู้ที่เล่นเนื้อเรื่องฝั่ง A ในตอนที่เข้ามายังสถานีตำรวจแร็คคูนใหม่ๆ เราจะเห็นตำรวจผิวสีคนนึงบาดเจ็บอยู่ ตรงนี้ถ้าเราสังเกตล็อกเกอร์ที่ตำรวจคนนี้นั่งพิงก็จะเห็นป้ายชื่อที่ระบุคำว่า JoJo ครับ โดยชื่อนี้ก็เป็น Easter Eggs ของเกมที่ทาง Capcom แอบใส่มาเพื่อเนียนโปรโมทเกม JoJo’s Bizarre Adventure ที่เป็นเกมแนวไฟท์ติ้งซึ่งทำลงตู้เกมอาเขตในปีเดียวกับที่ Resident Evil 2 วางจำหน่าย ก่อนที่เกมโจโจ้จะพอร์ตลงเครื่อง PS1 ในปีถัดไปครับ
- แม้ว่าเราจะทราบกันดีว่าเมืองแร็คคูนซิตี้นั้นเป็นเมืองสมมติที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กระทั่งจนถึงปัจจุบัน ตัวเกมก็ยังไม่เคยมีบอกครับว่าเมืองแร็คคูนซิตี้อยู่ที่รัฐอะไรของอเมริกา ทว่าหากใครได้อ่านนวนิยายเรื่อง Resident Evil ที่ประพันธ์โดยคุณ Stephani Perry (อ่านว่า สเตฟานี่ เพอร์รี่) ซึ่งมีการอิงเนื้อเรื่องจากเกมเป็นหลัก จะมีระบุเอาไว้ในนิยายครับว่าเมืองแร็คคูนตั้งอยู่ที่รัฐเพนซิลเวเนียนั่นเอง
- ช่วงต้นเกมของ Resident Evil 2 เวอร์ชั่นดั้งเดิม จะมีซอมบี้ลับตัวนึงให้สู้ในเนื้อเรื่อง A ของทั้งลีออนและแคลร์ครับ โดยวิธีจะเจอมันได้ก็คือผู้เล่นจะต้องห้ามเก็บไอเทมหรืออาวุธใดๆ ตั้งแต่เริ่มเกมจนถึงตอนเดินเข้าประตูสถานีตำรวจครับ และเมื่อเราเข้ามาในโซนลานหน้าสถานีตำรวจ ให้เดินลงบันไดที่อยู่ใกล้กัน จะเห็นซอมบี้ใส่ชุดหน่วย S.T.A.R.S. สีเหลืองเดินอยู่แถวนั้น ซึ่งซอมบี้ตัวนี้คือสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. ที่มีชื่อว่า แบรด ครับ หากเราปราบมันได้ สำรวจศพของมันก็จะได้กุญแจมา 1 ดอก โดยกุญแจนี้สามารถนำไปใช้ไขล็อคเกอร์ที่อยู่ในห้องเซฟที่เป็นห้องล้างฟิล์ม ถ้าใครเล่นเป็นลีออน ในล็อคเกอร์จะมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน 2 ชุด แต่ถ้าเป็นแคลร์ จะมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนเพียงชุดเดียว พร้อมกับมีปืนลูกโม่ที่ใช้กระสุนชนิดเดียวกับปืนพกธรรมดาให้ 1 กระบอกครับ
- เมื่อครั้งที่เกม Resident Evil 2 ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา ทาง Capcom เคยกำหนดให้คู่พระนางของเกมนี้เป็นลีออนคู่กับตัวละครหญิงอีกคนที่ชื่อ เอลซ่า วอล์คเกอร์ ซึ่งเป็นนักศึกษาผู้มีความชื่นชอบในการขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ได้เดินทางกลับมาหาครอบครัวในเมืองแร็คคูนหลังจากหยุดปิดเทอม แต่สุดท้ายตัวละครเอลซ่าก็ถูกเปลี่ยนเป็นแคลร์ เรดฟิลด์ ด้วยเหตุผลที่ทาง Capcom ต้องการจะให้เนื้อเรื่องภาคนี้มีความเชื่อมโยงกับภาคแรก จึงวางบทให้แคลร์เป็นน้องสาวของคริส พระเอกจากภาคแรกนั่นเอง ส่วนทางด้านลีออนนั้น ตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ได้มีทรงผมแสกกลางเหมือนอย่างที่เห็นนะครับ โดยเวอร์ชั่นดั้งเดิม ผมของลีออนจะสั้นกว่าและไม่ดูสำอางแบบเวอร์ชั่นปัจจุบัน แถมถูกวางบทให้เป็น 1 ในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลือรอดในสถานีตำรวจแร็คคูนและกำลังถูกฝูงซอมบี้บุกขึ้นมาบนตึกทีละชั้น ก่อนจะฝ่าลงมาข้างล่างได้จนพบกับเอลซ่าแล้วหาทางหนีรอดไปด้วยกัน
