เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ทางทีมงาน OS ได้รับเชิญจากทางบริษัท Sony Interactive Entertainment สาขาประเทศสิงคโปร์ เพื่อเข้าร่วมงาน Detroit: Become Human - Media Preview Event ที่จัดขึ้น ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อร่วมรับฟังรายละเอียดของตัวเกมในรอบสื่อมวลชน รวมถึงมีโอกาสได้ทดลองเล่นเกมก่อนวางจำหน่ายด้วย ซึ่งตัวเกม Detroit: Become Human นั้นมีกำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 25 พฤษภาคม 2018 ที่จะถึงนี้ เรามาชมข้อมูลต่างๆ ของภายในงานกันเลยละกันครับ
เริ่มแรกก็เป็นช่วงแนะนำเกม Detroit: Become Human โดยคุณ Guillaume de Fondaumiere ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ Producer ของเกม โดยคุณ Guillaume ได้กล่าวว่าเกมนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองดีทรอยต์ (Detroit) ที่อยู่ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา และจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2038 และในยุคอนาคตที่ว่านี้ เทคโนโลยีต่างๆ ก็ได้พัฒนาขึ้นจนหุ่นแอนดรอยด์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์กลายเป็นสิ่งที่สามารถพบได้ทั่วไปเสียแล้ว โดยโลกในเกมจะมีแอนดรอยด์พวกนี้อยู่มากมายนับล้านๆ ตัว ทั้งภายในเมืองดีทรอยต์และตามที่ต่างๆ ในโลก และแอนดรอยด์ส่วนใหญ่ได้ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัทที่ชื่อว่า “ไซเบอร์ไลฟ์” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยต์นี้พอดี นั่นจึงเป็น 1 ในเหตุผลว่าทำไมเรื่องราวทั้งหมดจึงเกิดขึ้นในเมืองๆ นี้ครับ
ทั้งนี้ เหล่าแอนดรอยด์ที่ปรากฏอยู่ในเกมจะเคลื่อนไหว พูดจา และปฏิบัติตัวเหมือนกับมนุษย์ปกติทุกประการ แต่พวกเขาก็จะเป็นเพียงเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบริการมนุษย์ ดังนั้น พวกเขาจะได้ทำงานแทนมนุษย์แทบทุกอย่าง เพื่อที่มนุษย์จะได้ไม่ต้องทำงานที่มีความซ้ำซากด้วยตัวเองอีกต่อไป และสิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อสังคมมนุษย์ เนื่องจากมีมนุษย์จำนวนหนึ่งต้องตกงานด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ภายในสังคมนั้นมีอัตราการว่างงานที่สูงมาก ซึ่งย่อมก่อให้เกิดความตึงเครียดกันระหว่างมนุษย์และเหล่าแอนดรอยด์ หรือแม้แต่ระหว่างมนุษย์ที่มุ่งจะแสวงหาผลประโยชน์จากการวิวัฒนาการและการให้บริการของแอนดรอยด์เหล่านี้ กับมนุษย์อีกกลุ่มที่ต้องสูญเสียอะไรไปมากมายจากการมีอยู่ของแอนดรอยด์พวกนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับในเกม Detroit: Become Human ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นหุ่นแอนดรอยด์ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน คุณจะได้ติดตามเรื่องราวต่างๆ ผ่านมุมมองที่แตกต่างกันถึง 3 แบบ เนื่องจากแอนดรอยด์ทั้ง 3 ล้วนแต่เป็นแอนดรอยด์คนละประเภทกัน และนอกจากแอนดรอยด์ที่คุณจะได้เล่นทั้งสามตัวแล้ว เรายังจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับแอนดรอยด์ตัวอื่นๆ รวมถึงมนุษย์ด้วย ดังนั้น ในขณะที่เราจะได้มองเรื่องราวหลักๆ ผ่านมุมมองของแอนดรอยด์ และเราก็จะได้เห็นผลกระทบที่เกิดจากการปฏิวัติของมนุษย์ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับตัวละครตัวแรกที่ผู้เล่นจะได้เล่นนั้นมีชื่อว่าคาร่า (Kara) ซึ่งคาร่าจะเป็นแอนดรอยด์สาวที่มีหน้าที่ดูแลเด็กและดูแลบ้านให้กับชายที่ชื่อว่า ท็อดด์ (Todd) ตัวคาร่านั้นถือเป็นแอนดรอยด์ที่เป็นที่นิยมมากๆ และประชาชนก็สามารถหาซื้อเธอได้ทั่วไป หลายๆ คนมีคาร่าอยู่ในบ้าน ซึ่งคาร่าก็จะคอยดูแลงานบ้านและช่วยเลี้ยงดูเด็กๆ ให้ ดังนั้นถ้าบ้านไหนมีเด็กอยู่ด้วย พวกเขาจะต้องชอบเธอมากแน่ๆ
ตัวละครที่ 2 มีชื่อว่ามาร์คัส (Marcus) ตัวมาร์คัสนั้นจะเป็นแอนดรอยด์รุ่นที่มีความรู้สึกนึกคิดมากกว่า เขาถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของจิตรกรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังนามว่า Carl ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถวีลแชร์นั่นเอง
ส่วนตัวละครสุดท้ายคือคอนเนอร์ (Connor) คอนเนอร์นั้นเป็นแอนดรอยด์รุ่นต้นแบบที่ถูกออกแบบโดยบริษัทไซเบอร์ไลฟ์ พร้อมด้วยจุดประสงค์ที่ให้เจ้าตัวคอยสืบเรื่องราวเกี่ยวกับแอนดรอยด์ที่มีท่าทางผิดปกติไป ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีอยู่แน่ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยแอนดรอยด์และเครื่องจักรต่างๆ แม้กระทั่งเครื่องจักรเองก็ยังมีความฉลาดมากๆ อย่างไรก็ตาม พวกแอนดรอยด์และเครื่องจักรเหล่านี้ไม่ควรจะมี "อารมณ์ความรู้สึก" แต่ก็เริ่มมีแอนดรอยด์จำนวนหนึ่งที่เริ่มผิดแปลกไปจากที่เป็นอยู่ และก็มีแอนดรอยด์บางตัวที่จู่ๆ เกิดหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่มีใครรู้ว่าพวกนั้นไปอยู่ที่ไหนกัน นอกจากนี้ยังมีแอนดรอยด์อีกกลุ่มหนึ่งที่เริ่มจะต่อต้านเจ้าของของตน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น พวกเขาควรจะรับใช้มนุษย์มากกว่าที่จะทำตัวเป็นปรปักษ์ ด้วยเหตุนี้ ผู้คนมากมายจึงเริ่มที่จะกังวลว่าพวกเขาจะยังสามารถเชื่อแอนดรอยด์ของตัวเองได้อยู่หรือไม่ ดังนั้น บริษัทไซเบอร์ไลฟ์ที่ถือเป็นผู้ผลิตแอนดรอยด์รายใหญ่จึงตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยกรมตำรวจในการสืบสวน และคอนเนอร์ก็คือแอนดรอยด์ที่จะต้องมารับหน้าที่ช่วยสืบเรื่องราวเกี่ยวกับแอนดรอยด์ที่มีพฤติกรรมผิดปกติเหล่านี้ เพราะฉะนั้น หากที่ใดมีคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับแอนดรอยด์ หรือมีเหตุการณ์ประหลาดๆ เกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่แอนดรอยด์เกิดการต่อต้านและทำร้ายเจ้าของของตน ตัวคอนเนอร์จึงต้องเป็นผู้ที่รับหน้าที่ในคดีนั้นๆ และในฐานะที่เราต้องสวมบทบาทเป็นเขา เราก็จะได้สืบสวนหาสาเหตุว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้
เกม Detroit: Become Human ถือเป็นเกมที่ทาง Quanticdream ตั้งใจจะให้เป็นเกมที่ดีที่สุดในบรรดาเกมทั้งหมดของค่าย และอาจพูดได้ว่าเป็นเกมที่แหวกแนวที่สุดเท่าที่ Quanticdream เคยสร้างมา ภายในเกม เราจะได้เผชิญหน้ากับตัวเลือกมากมาย และตัวเลือกแทบทุกๆ ข้อก็จะส่งผลต่อเรื่องราวภายในเกม เราจะได้พบกับคำถามที่คุณจะต้องตอบ และทุกๆ ตัวเลือก ทุกๆ การกระทำก็จะนำไปสู่เรื่องราวที่แตกต่างกันตามการตัดสินใจของผู้เล่น ในการจะเล่นเกมตั้งแต่ต้นจนจบนั้น เราจะต้องใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10-12 ชั่วโมง บางคนก็อาจจะใช้เวลามากหรือน้อยกว่านั้น และถ้าเราต้องการจะเล่นเกมให้จบแบบสมบูรณ์ หรือต้องการจะเห็นความเป็นไปได้ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในเกม เราก็จะต้องใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 25- 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ายาวกว่าเกมอื่นๆ ที่ Quanticdream เคยสร้างมาแน่ๆ
นอกจากนี้ ภายในเกมยังจะมีออฟชั่นที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถย้อนกลับไปยังตัวเลือกที่สำคัญๆ ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย เพื่อที่ผู้เล่นทุกเพศทุกวัยจะได้ย้อนกลับไปเล่นฉากต่างๆ ได้ตามใจชอบตั้งแต่ต้นจนจบ และภายในฉากต่างๆ ก็จะมีปุ่มลัดไว้ให้อีกเช่นกัน เพื่อที่จะให้ผู้เล่นได้ทดลองดูความเป็นไปได้ในแบบต่างๆ และไม่ว่าคุณจะเลือกทำสิ่งนี้ก่อนหรือหลังสิ่งนั้น การกระทำเหล่านี้ก็จะมีผลกับเนื้อเรื่องโดยตลอด ทำให้ Detroit: Become Human เป็นเกมที่มีความหลากหลายในตัวเองสูงมากๆ และก็ถือเป็นเกมทีค่อนข้างกระตุ้นอารมณ์ได้ดีเช่นกัน ที่สำคัญอย่าลืมนะครับว่าทุกๆ ตัวเลือกจะมีผลกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะตัวละครทุกตัวสามารถตายได้ ดังนั้นเราอาจจะจบเกมได้โดยที่ตัวละครอยู่ครบทั้งสามตัว หรืออาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวละครหลักเท่านั้น แต่รวมไปถึงตัวละครเสริมอื่นๆ ที่คุณจะได้เจอระหว่างการเล่นด้วย บางตัวเราก็อาจจะได้เจอทีเดียวตอนจบเกม และบางตัว คุณก็จะได้ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาตลอดทั้งเกม ตัวละครเสริมบางตัวก็อาจจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับคุณ และบางตัวก็อาจจะกลายเป็นพันธมิตรกับคุณได้เช่นเดียวกัน
จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงรายละเอียดเรื่องการวางจำหน่ายของเกม Detroit: Become Human กันบ้าง โดยตัวเกมจะมีทั้งจำหน่ายทั้งแบบแผ่นบลูเรย์กับแบบดิจิตอลดาวน์โหลด และตัวเกมในทุกเวอร์ชั่นจะวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 25 พฤษภาคม 2018 ซึ่งจำแนกตามประเภทและราคาดังนี้
แบบแผ่นบลูเรย์
- Standard Version ราคา 1,890 บาท
- Collector’s Edition ราคา 2,190 บาท
แบบดิจิตอลดาวน์โหลด
- Standard Version ราคา 1,790 บาท
- Deluxe Version ราคา 2,090 บาท