ภายในงาน Detroit: Become Human - Media Preview Event ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของงานก็ได้แก่ช่วงสัมภาษณ์พิเศษกับคุณ Guillaume de Fondaumiere ผู้ดำรงตำแหน่ง Executive Producer ของเกม ถึงรายละเอียดต่างๆ ของตัวเกม รวมถึงแนวคิดของการพัฒนาเกมนี้ ว่าแล้วก็มาชมบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่า
OS: นับจากผลงานในอดีตที่เกม Heavy Rain มาในแนวสืบสวนสอบสวน และเกม Beyond: Two Souls ที่เป็นแนวเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ อยากทราบว่าทำไมเกมนี้ถึงได้นำประเด็นของหุ่นแอนดรอยด์มาใช้เป็นธีมหลักครับ?
คุณ Guillaume: เราพยายามหาแนวพล็อตเรื่องใหม่ๆ มานำเสนอผู้เล่นอยู่ตลอด โดยจะต้องเป็นแนวเนื้อเรื่องที่เอื้อให้ผู้เล่นมีทางเลือกเป็นของตนเอง อย่างเกม Beyond: Two Souls นั้น เราอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครตัวหนึ่งให้ผู้เล่นทราบ และก็ยิงคำตอบกลับไปยังผู้เล่นด้วยว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นเป็นอย่างไร และเราจะมีจุดเปลี่ยนชีวิตอย่างไรบ้างเมื่อครั้งที่เรายังเป็นเด็กหรือวัยรุ่น เพราะมันจะเป็นตัวตัดสินว่าคุณจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบไหน ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และสำหรับเกม Detroit นี้ พวกเราก็ได้ลองถามตัวเองดูว่าการเป็น "คน" นั้นมันหมายความว่าอย่างไร เราต่างคิดว่าเรากำลังอยู่ในยุคแห่งการวิวัฒนาการและการปฏิวัติ เป็นช่วงเวลาที่เทคโนโลยีต่างๆ ได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาตลอดเป็นร้อยๆ ปี จนกระทั่งกลายมาเป็นกลุ่มมนุษยชาติรุ่น 2.0 หรือมนุษย์ในรูปแบบใหม่ และพวกเราก็คิดเช่นกันว่าในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า มนุษย์ทุกคนจะต้องได้พบกับคำถามและปัญหาที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือเรื่องของจริยธรรม ศีลธรรม และเรื่องความถูกต้องตามกฎหมาย ที่จะเกิดขึ้นมาพร้อมกับการปฏิวัติของเหล่าหุ่นแอนดรอยด์ที่เหมือนมนุษย์พวกนี้ ผู้เล่นจะได้ถามตัวเองว่าเราจะทำยังไงเมื่อซื้อหุ่นพวกนี้มา...จะใช้มันหรือจะทำร้ายมัน และจะได้ถามตัวเองอีกว่าเราจำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีพวกนี้มากแค่ไหน ดังนั้น เราจึงคิดว่าธีมเรื่องแบบนี้เหมาะกับการนำมาสร้างตัวเลือกในแบบต่างๆ มาก อีกทั้งผู้เล่นก็จะได้พบกับคำถามต่างๆ มากมายภายในเกม บางครั้งก็เป็นคำถามที่ยากจะตอบ โดยที่พวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะสื่อความอะไรให้ผู้เล่น เราเพียงแค่สร้างเกมขึ้นมาเพื่อตั้งคำถามและให้โอกาสแก่ผู้เล่นในการสร้างคำตอบของตนเอง หรือก็คือการสร้างเรื่องราวของตนเองเท่านั้นครับ
OS: คุณเคยบอกว่าเกมนี้เป็นเกมที่ยากและต้องใช้ความพยายามในการสร้างสูงมาก อยากทราบว่าอะไรที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกมก่อนหน้าที่เคยทำมา?
คุณ Guillaume: สิ่งหนึ่งที่ทำให้การสร้างเกมใหม่กลายเป็นเรื่องท้าทายนั่นก็คือวิวัฒนาการของเกม หรือการรับสิ่งต่างๆ ที่ตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่น อย่างเรื่องการสร้างเอนจิ้นหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการขยายกรอบและขีดจำกัดของตนเอง หรือแม้กระทั่งด้านเนื้อหาอย่างการสร้างตัวละครให้ดูสมจริงหรือการสร้างเรื่องราวตามทางแยกต่างๆ ให้ครบ เราพยายามทำให้การตัดสินใจและการกระทำของผู้เล่นมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันทุกๆ ครั้ง และทุกๆ ผลลัพธ์จะต้องมีเหตุผลและมีความหมายในตัวมันเอง และอย่าลืมว่าภาคนี้มีตัวละครหลักถึง 3 ตัวด้วยกัน ไม่แน่ว่าเรื่องราวของทั้งสามอาจจะมาข้องเกี่ยวกันในจุดไหนสักจุดก็ได้ ซึ่งการจะทำให้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่สอดคล้องกันและดูมีเหตุผลก็เป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ และสำหรับเกมนี้ เรายังมีปัจจัยรองอีกปัจจัยหนึ่งที่ถือว่าท้าทายไม่แพ้กัน นั่นก็คือการสร้างเรื่องราวที่เกี่ยวกับการตอบรับของสังคม ซึ่งความท้าทายจะอยู่ตรงที่เราต้องสร้างมันอย่างรอบคอบที่สุด ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าปฏิกิริยาของผู้คนจะเป็นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกับประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหว ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่เราจะต้องนำคำถามพวกนี้ไปถามกับผู้เล่น ใครหลายคนอาจเคยเจอคำถามพวกนี้มาแล้วในภาพยนตร์หรือหนังสือต่างๆ ผมก็เลยคิดว่าทำไมเราไม่ลองเอามาถามในวิดีโอเกมดูบ้างล่ะ ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ท้าทายอีกนั่นแหละ เพราะคุณจะต้องจัดสรรมันอย่างลงตัว ไม่ให้มันดูโจ่งแจ้งหรือดูจืดจางจนเกินไป ซึ่งผมว่าเรื่องทั้งหมดนี้แหละที่ทำให้ตัวเกมดูน่าสนใจขึ้นมาได้
OS: ด้วยความที่เกมนี้มีตัวละครหลักถึง 3 คนด้วยกัน อยากทราบว่าเรื่องราวของทั้งสามจะมีจุดเชื่อมโยงกันหรือไม่?
คุณ Guillaume: เชื่อมโยงกันครับ ทั้งคอนเนอร์ มาร์คัส และ คาร่า นั้นอาศัยอยู่ในโลกและเมืองเดียวกัน และทุกๆ อย่างจะขึ้นอยู่กับตัวคุณ พวกเขาจะได้เจอกันไหม จะได้เป็นเพื่อนกันหรือไม่ แน่นอนว่าคุณจะมีโอกาสได้เจอกับปัญหาในรูปแบบต่างๆ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ ขึ้นอยู่กับตัวคุณล้วนๆ แต่ผมบอกได้แค่ว่ามีโอกาสที่โชคชะตาของทั้งสามจะมาเกี่ยวพันกันเท่านั้น
OS: ในช่วงของการนำเสนอนั้น คุณเคยบอกไว้ว่าตัวละครหลักทั้ง 3 มีโอกาสที่จะตายได้ พอจะบอกได้มั้ยครับว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปทั้งอย่างนั้นหรือไม่ หรือว่าเราจะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น?
คุณ Guillaume: ไม่ต้องเริ่มใหม่ครับ เนื้อเรื่องก็จะดำเนินต่อไปทั้งอย่างนั้นเลย
OS: จะเห็นได้ว่าตัวเกมมีทางเลือกให้ผู้เล่นมากมาย อยากทราบว่าบทของเกมนี้เขียนยากขนาดไหน มีอุปสรรคอะไรในระหว่างการเขียนบทหรือการพัฒนาบ้างหรือเปล่า?
คุณ Guillaume: อันนี้ต้องดูที่วิธีการทำงานของคุณ David Cage ผู้กำกับของเกมนี้ครับ ในตอนแรกเนี่ย เขาจะเอารายละเอียดเบื้องต้นของแต่ละตัวละครมาเสนอให้ดูก่อน พวกจุดเริ่มต้น แก่นหลักของเนื้อเรื่อง และจุดจบที่เส้นทางต่างๆ จะนำพาไป ตลอดจนความเป็นไปได้ต่างๆ อะไรแบบนี้ จากนั้นเขาจึงค่อยเริ่มทำงานไปทีละฉาก อย่างฉากที่เขาเริ่มเป็นฉากแรกเลยก็คือฉากช่วยตัวประกัน (ฉากของคอนเนอร์) และความท้าทายของมันก็คือยิ่งคุณเขียนบทไปมากเท่าไหร่ ทางเลือกต่างๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และเราก็จะต้องสร้างจุดจบให้กับทางแยกทุกทาง รวมถึงต้องทำให้ฉากจบที่กล่าวมามีความต่อเนื่องกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้นด้วย สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าคุณเลยต้องเขียนบทเยอะกว่าที่คุณคิดไว้มาก ดังนั้นการจะคาดเดาว่าเกมพวกนี้จะใช้เวลาในการสร้างนานเท่าไหร่จึงเป็นอะไรที่ยากพอดูเลย ในบางครั้ง คุณอาจจะคิดจุดเริ่มต้นออกมาได้น่าสนใจมากๆ เพราะชะตากรรมของตัวละครและความเป็นไปได้ต่างๆ ต่างก็ขึ้นอยู่กับผู้เขียนบททั้งสิ้น แต่ในบางครั้งพอคุณลองเขียนไปเรื่อยๆ คุณก็อาจจะคิดว่า ไอ้นี่มันเริ่มจะไม่น่าสนใจแล้วแฮะ ในขณะอีกประเด็นนึงกลับน่าสนใจกว่า และการที่เอาเรื่องราวที่แตกต่างกันพวกนี้มาผสมผสานกันให้ลงตัวก็เป็นงานที่สาหัสมากๆ แถมเรายังต้องทำให้ทุกเรื่องราว ทุกการเชื่อมโยงดูมีเหตุผลในตัวมันเองอีก ดังนั้นคุณ David เลยมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งคอยช่วยงานอยู่ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้จะคอยดูให้เรื่องราวทั้งหมดเชื่อมโยงกันได้อย่างสมบูรณ์ แล้วพอเกมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เราก็ได้ทำการทดสอบหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องราว ทางเลือกต่างๆ มีความลื่นไหลและผสานกันได้อย่างลงตัว เพราะหลายๆ ทางเลือกก็มีความสำคัญมากๆ ถึงขนาดเป็นจุดเปลี่ยนได้เลย
OS: อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการทำเกมที่มีธีมเป็นเรื่องของหุ่นแอนดรอยด์แบบนี้ครับ?
คุณ Guillaume: มีอยู่ 2 ประเด็นครับที่เราต้องตีความหนักๆ เลย นั่นก็คือเรื่องของความสามารถในการนึกคิดและเรียนรู้ของพวกแอนดรอยด์ แล้วก็เรื่องการแสดงของเหล่านักแสดงที่ต้องมีการถกกันว่าจะแสดงเป็นหุ่น หรือแสดงให้ดูเป็นผู้เป็นคน และยังมีเรื่องของการพัฒนาของเนื้อเรื่องในแต่ละทางด้วย ดังนั้นตัวละครแต่ละตัวจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอนในตอนท้ายของเกม นอกจากนี้ เรายังต้องจินตนาการต่อไปด้วยว่า ในอีก 10 หรือ 20 ปีที่มีแอนดรอยด์อยู่ร่วมกับมนุษย์เนี่ย พวกเขาจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร จะมีความแตกต่างจากมนุษย์อย่างไร พูดง่ายๆ ก็เหมือนกับการสร้างโลกใหม่ขึ้นมาเลย แถมถ้าพูดในด้านเทคนิคแล้ว เราก็ต้องมานั่งคิดเช่นกันว่าถ้าใช้โมเดลแบบต่างๆ พวกเขาจะออกมามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็มีโมเดลหลายแบบมากๆ ตัวแอนดรอยด์ทุกตัวก็จะต้องมีความแตกต่างกัน แต่ก็ต้องไม่ต่างกันจนเกินไป เช่นแอนดรอยด์ที่คอยทำงานตามถนน แอนดรอยด์ที่คอยเก็บขยะ ดูแลบ้านให้คุณ เป็นต้น เราเลยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากพอสมควร ดังนั้น การสร้างสิ่งพวกนี้เลยเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ในอีกนัยหนึ่งก็น่าสนใจมากๆ เพราะเราต้องสร้างโลกใหม่ทั้งใบขึ้นมาเลย ซึ่งก็มีทั้งเรื่องเทคโนโลยีในอนาคตอย่างข้าวของต่างๆ รถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้อะไรแบบนี้ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของตัวละครนี่แหละครับ
OS: ทำไมถึงเลือกเมืองดีทรอยต์ (Detroit) เป็นโลเคชั่นของเกมนี้ล่ะครับ?
คุณ Guillaume: ในการเขียนบททุกครั้ง คุณ David จะเริ่มจากการคิดเสมอว่าจะตั้งเซ็ตติ้งของเรื่องให้อยู่ที่ไหน และด้วยเหตุผลบางประการ เขาก็ดันนึกถึงเมืองดีทรอยต์ขึ้นมา เราก็เลยทำอย่างที่เราทำประจำ นั่นก็คือการเดินทางไปที่นั่นพร้อมกับทีมออกแบบ ไปพูดคุยกับผู้คน ดูสถานที่ต่างๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศของมัน แล้วพอพวกเขากลับมา พวกเขาก็คิดว่าที่นั่นล่ะใช่เลย เพราะด้วยประวัติของเมืองกับสภาพความเป็นอยู่ทุกวันนี้ ดีทรอยต์เป็นเมืองที่มีความเจริญก้าวหน้ามากๆ แต่ก็มีความตกต่ำแฝงอยู่ในนั้นด้วย เนื่องจากมีอุตสาหกรรมเก่าๆ ที่ล้มละลายไปมากมาย แต่ผู้คนภายในเมืองก็ยังพยายามสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเราเห็นว่ามันเป็นเส้นขนานกับเนื้อเรื่องของเราเลย ผมเองก็ไม่อยากสปอยล์เนื้อเรื่องหรอกนะครับ บอกได้แค่ว่าเนื้อเรื่องของเราจะเกี่ยวกับการคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ๆ แอนดรอยด์พวกนี้ก็จะมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ในอนาคตพร้อมๆ กับมนุษยชาติ และอีกจุดที่น่าสนใจมากๆ ก็คือการที่ดีทรอยต์เป็นเมืองอุตสาหกรรม เราเลยสามารถนึกภาพดีทรอยต์ในฐานะเมืองที่ให้กำเนิดธุรกิจและอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ได้ เช่นพวกโรงงานขนาดมหึมาที่สร้างแอนดรอยด์พวกนี้ขึ้น แถมเมืองนี้ยังมีที่รกร้างอยู่มากมาย มันเลยเป็นเมืองที่เหมาะจะนำโลกที่เป็นโลกแบบใหม่ผสมกับแบบเก่าไปตั้งไว้นั่นเอง ทั้งหมดนี้แหละครับเลยทำให้ดีทรอยต์เป็นเมืองที่เหมาะจะนำเรื่องราวของเราไปใส่ไว้มากที่สุด
OS: ตั้งแต่เกม Fahrenheit ไล่มาจนถึงเกม Heavy Rain และ Beyond: Two Souls ทุกๆ เกมของทางคุณเป็นเกมที่เน้นไปที่การเล่าเรื่องที่เข้มข้นหมด ทำไมทางค่ายเกมถึงได้ยึดแนวทางการสร้างเกมสไตล์นี้มาโดยตลอดครับ?
คุณ Guillaume: ในวงการเกมเองก็มีคนที่มีความสามารถในการสร้างเกมแนวอื่นๆ อยู่แล้วมากมาย และจุดประสงค์หลักๆ ของค่ายเราก็คือการสร้างเกมที่มอบประสบการณ์ที่มีความหมายแก่ผู้เล่น เราเชื่อว่าวิดีโอเกมจะกลายเป็นสื่อที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่มีประโยชน์ให้กับผู้เสพสื่อได้เหมือนกัน เราก็เลยยังยึดถือแนวทางเดิมในการทำเกมต่อไป นั่นก็คือการสร้างเกมเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และเพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นเกิดอารมณ์ร่วมไปกับเกมด้วย ซึ่งเรื่องพวกนี้เองก็ถือเป็นแรงกระตุ้นของพวกเราด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังมีคนเพลิดเพลินไปกับเกมของเราอยู่ เราก็จะยังทำเกมแบบนี้ต่อไปครับ