หากยังจำกันได้ดี เกม GTA V หรือ Grand Theft Auto V นั้น ตั้งแต่ออกมาในปี 2013 ก็ทำขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาโดยตลอด จนแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ยังคงมียอดขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และยังคงมีผู้เล่นมากมายที่เข้าไปเล่นในโหมด Online รวมถึงทางทีมพัฒนาอย่าง Rockstar เองก็ยังคอยป้อนอัพเดตใหม่ๆ ให้อยู่ตลอดเช่นกัน แม้ว่าในบางครั้งตัวเกมจะได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในด้านเสียซะเยอะ ทั้งในเรื่องของความรุนแรง ฉากล่อแหลม และแง่มุมต่างๆ อีกมากมาย แต่โดยรวมแล้ว ก็ยังไม่มีสิ่งใดมาฉุดความแรงของเกมนี้ได้อยู่ดี
จนกระทั่งล่าสุด เกม GTA V นี้ก็ได้กลายเป็นสื่อที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินสูงที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งแต่ตัวเกมออกวางจำหน่ายในปี 2013 จนถึงปัจจุบัน ตัวเกมทั้งหมดมียอดวางจำหน่ายสูงถึง 90 ล้านชุด ตีเป็นเม็ดเงินมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.87 แสนล้านบาทกันเลยทีเดียว!! ซึ่งถ้าหากนำสถิตินี้ไปเทียบกับรายได้ของเกมต่างๆ รวมถึงในวงการภาพยนตร์ด้วย จะพบว่า GTAV สามารถทำเงินได้สูงกว่าภาพยนตร์ชื่อก้องโลกอย่าง Star Wars หรือ Gone With The Wind เสียอีก! (ทั้งสองเรื่องทำรายได้รวมกันได้ที่ประมาณ 6พันล้านดอลลาร์เท่านั้น) ถึงขนาดที่ว่าแม้จะนำรายได้จากการขาย DVD และการชมผ่านระบบออนไลน์มารวมแล้วก็ยังไม่เฉียดเลยแม้แต่น้อย อ้างอิงจากคำพูดของ Doug Creutz นักวิจารณ์ประจำ Cowen ที่ออกมากล่าวด้วยตนเองเลยว่า ถึงจะรวมรายได้จากทั้งสองทางที่ว่าเข้าไปก็สามารถเพิ่มยอดขายได้อีก 1 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
“ผมว่ามันเป็นสถิติที่น่าทึ่งมากๆ” Creutz กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ “ผมว่านอกจากเกมในซีรีส์ Mario Brothers ของ Nintendo ที่ถือเป็นข้อยกเว้นแล้ว ก็ยังไม่เคยมีเกมคอนโซลเกมไหนขายได้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย”
อย่างไรก็ตาม ถ้าลองมาดูสถิติกันจริงๆ แล้ว จะเห็นได้ว่าแม้เกมในซีรีส์ Mario จะมียอดขายรวมทุกๆ ภาคสูงกว่าก็ตาม แต่กลับไม่มีภาคไหนที่ทำยอดขายได้ใกล้เคียงกับหน่วยเงินจำนวน 6 พันล้านนี้เลย ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เกม GTAV ทำยอดขายมาได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะช่วงอายุที่ยาวกว่าเกมอื่นๆ ด้วยนั่นเอง ถึงขนาดที่ว่าภายในปี 2017 นี้ เกม GTA V ก็ยังคงติดชาร์ตเป็นเกมที่ขายดีเป็นอันดับที่ 6 ในสหรัฐฯ อยู่... ทั้งๆ ที่เกมก็ออกมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว แหม่ ของเขาดีจริงๆ
เอาจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเกมนี้มีเคล็ดลับหรือข้อดีอะไรแฝงอยู่หรือเปล่าถึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าขนาดนี้ แต่แค่นี้ก็ต้องขอชมทาง Take-Two Interactive แล้วล่ะค่ะว่าวางแผนการตลาดมาได้สุดยอดจริงๆ ไม่บ่อยเลยที่เราจะเห็นเกมที่ดังต่อเนื่องจนถึงขนาดข้ามเจนมาได้แบบนี้
...ตอนนี้ก็เหลือแค่รอลุ้นแล้วล่ะค่ะว่าเกมต่อไปของ Rockstar อย่าง Red Dead Redemption 2 จะสร้างรายได้ได้ไม่น้อยหน้าเกมรุ่นพี่รึเปล่า และหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ทางค่ายหินดาวกดดันจนเกินไปนะ... ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปดีกว่าค่ะ
เครดิต: Marketwatch
