ดูเหมือนว่าตัว Royal Edition จะไม่ใช่ตัวสุดท้ายอย่างที่ทางค่ายเล่าลือมาเสียแล้ว เมื่อล่าสุด ภายในงาน PAX East 2018 นี้ ทางผู้พัฒนาอย่าง Square Enix ก็ได้ออกมาแถลงข่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเกม Final Fantasy XV นั้นจะยังมี DLC ใหม่เพิ่มเข้ามาอีกถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดมีแผนจะออกมาให้เล่นกันภายในปีหน้านี้ และจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “อนาคตที่ทุกคนรอคอย” และจะมีแก่นหลักของเนื้อเรื่องเป็น “ปัจฉิมบทอันยิ่งใหญ่อีกรูปแบบหนึ่ง” ซึ่งในครั้งนี้ “ตัวละครทุกตัวจะต้องท้าสู้กับโชคชะตาของตนเพื่อให้ได้มาซึ่งอนาคตในอุดมคติอย่างที่ทุกคนเฝ้าฝันถึง”
โดยละเอียดของ DLC แต่ละตัวนั้นมีดังต่อไปนี้
- Episode I: Ardyn “The Conflict of the Sage” (ชื่อตอนชั่วคราว และจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูหนาวปี 2019) เป็นเรื่องราวของ Ardyn ตัวร้ายหลักประจำเกมภาคนี้ โดยผู้เล่นจะได้รู้กันเสียทีว่าเหตุใดชายคนนี้จึงแค้นเคืองราชวงศ์ Lucis มานานกว่า 2000 ปี และจะยังได้ทราบเรื่องราวความบาดหมางระหว่างเขากับเหล่าเทพ Astrals ด้วย
- Episode Side Story: Aranea — “The Beginning of the End” (ชื่อตอนชั่วคราว และจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019) เป็นเนื้อเรื่องเสริมที่จะเน้นไปที่แม่สาว Aranea สุดสวยของเรานั่นเอง โดยเนื้อเรื่องภายใน DLC นี้จะเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่จักรวรรดิ Niflheim ล่มสลายลง
- Episode II: Lunafreya “The Choice of Freedom” (ชื่อตอนชั่วคราว และจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโชคชะตาของเจ้าหญิง Luna ซึ่งแม้จะตายไปแล้วก็ยังคงไม่สามารถหลุดพ้นได้ และการต่อสู้ของเธอพวกช่วยเหลือคนที่ตนรักจะทำให้ชะตากรรมของกษัตริย์แห่งลูซิสต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
- Episode III: Noctis “The Final Strike” (ชื่อตอนชั่วคราว และจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019) เป็นเรื่องราวของ Noctis ที่แยกทางมาจากเหล่าเทพแล้ว เราจะได้พบกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาเพื่ออนาคตในอุดมคติของทุกๆ คน
นอกจาก DLC ทั้ง 4 ตัวนี้ ทาง Square Enix ยังมีแผนจะปล่อยตัวเกมในโหมด Multiplayer ออกมาขายในเวอร์ชั่น Standalone ในช่วงฤดูร้อนของปี 2018 นี้อีกด้วย หรือสำหรับโหมด Multiplayer เดิมก็จะมีการอัพเดตใหม่ในช่วงนั้นด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งน่าจะเป็นการเพิ่มบอสตัวใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้ลองประลองฝีมือกัน
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ตัวเกม Final Fantasy XV ยังได้ประกาศความร่วมมือกับเกม Shadow of the Tomb Raider อีกด้วย แต่ในตอนนี้ยังคงไม่มีรายละเอียดแน่ชัดแต่อย่างใด
....ดูเหมือนใครที่คิดว่าตัว Royal Edition จะเป็นตัวสุดท้ายของซีรีส์นี้คงจะต้องลองคิดใหม่เสียแล้ว เพราะท่าทางเกมนี้จะยังไม่จบลงง่ายๆ จริงๆ ยังไงก็ลองติดตามข้อมูลกันไปก่อนนะคะ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เล่น DLC ทั้ง 4 ตัวนี้ฟรีๆ ก็ได้...มั้ง