เชื่อว่าเกมเมอร์หลายคนที่อายุเกิน 25 ปีขึ้นไปน่าจะเคยได้สัมผัสกับเครื่องเกม PlayStation หรือ PS1 กันมาบ้างนะครับ ซึ่งในยุคนั้นนอกจากจะมีเกมเจ๋งๆ ให้เล่นมากมายแล้ว ก็ยังเป็นยุคมืดที่เกมเมอร์ในไทยเล่นแต่เกมเถื่อนกันทั่วบ้านทั่วเมืองด้วย (เป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจเลยแม้แต่น้อย) แต่ในบทความนี้ทีมงาน OS จะไม่พูดถึงประเด็นละเมิดลิขสิทธิ์ครับ หากแต่จะนำพาเพื่อนๆ ไปรำลึก 7 เกมเด่นของค่าย Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) กันว่ามีเกมอะไรบ้างที่น่านำกลับมาทำอีกครั้งในสายตาของทีมงาน ว่าแล้วมาชมกันเลยดีกว่า
Parasite Eve
Parasite Eve เป็นซีรีส์ที่ทาง Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) เริ่มวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 1998 โดยซีรีส์ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและเสียงวิจารณ์จากแฟนๆ จนทำให้มีภาคต่อออกมาอีก 2 ภาค นั่นก็คือ Parasite Eve II ที่ลงให้กับเครื่อง PS1 และ The 3rd Birthday ที่ลงบนเครื่อง PSP
ระบบพื้นฐานของเกม Parasite Eve จะคล้ายกับเกมแนว Action-RPG โดยการต่อสู้จะเป็นแบบ Realtime ที่มีเกจ Active Time Bar (ATB) แสดงอยู่ใกล้กับเลขพลังชีวิต เมื่อเกจนี้วิ่งจนเต็มหลอด ก็จะสามารถใส่คำสั่งได้ว่าจะให้อายะโจมตี, ใช้ท่า PE (สกิลพิเศษของอายะที่มีทั้งสกิลโจมตี สกิลซัพพอร์ต และสกิลฟื้นพลัง) หรือแม้แต่ใช้ไอเทมจากคำสั่งเมนู และระหว่างที่สู้นั้นเรายังสามารถบังคับอายะให้วิ่งไปมาในฉากเพื่อคอยหลบระยะการโจมตีของศัตรูได้ด้วย เมื่อเอาชนะการต่อสู้ในแต่ละครั้ง ก็จะได้รับ EXP มา และหากเลเวลยิ่งสูง ก็จะมีสกิลใหม่ๆ ให้ใช้มากขึ้น รวมถึงมีระบบอัพเกรดอาวุธและชุดป้องกัน ที่ผู้เล่นสามารถใช้ไอเทมบางอย่างเพื่อดึงเอาค่าพลังของอาวุธหรือชุดป้องกันที่ไม่ได้ใช้มาเพิ่มให้กับอาวุธชุดป้องกันที่กำลังสวมใส่อยู่ก็ได้ ตลอดจนสามารถใช้ไอเทมกับ NPC บางคนเพื่อเพิ่มสล็อตใส่สกิลของอาวุธชุดป้องกันได้เช่นกัน
พล็อตเรื่องของเกม Parasite Eve นี้ เป็นการดัดแปลงนวนิยายชื่อเดียวกันที่ประพันธ์โดย ดร.ฮิเดอากิ เซนะ มาเป็นเวอร์ชั่นเกมครับ ซึ่งเหตุการณ์ในเกม Parasite Eve จะเกิดขึ้นต่อจากเวอร์ชั่นนิยายเลย (ไทม์ไลน์ของเกม Parasite Eve ภาคแรกจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม – 29 ธันวาคม 1997) เกมจะเล่าถึง อายะ ตำรวจสาวหน้าใหม่ของกรมตำรวจนิวยอร์คที่ไปชมการแสดงในโรงละครโอเปร่าที่คาร์เนกีฮอลล์กับชายหนุ่มที่เธอคบหาอยู่ ทว่าภายในการแสดงนั้น เมื่อถึงคิวที่นักแสดงนำหญิงนามว่า เมลิซซ่า เพียร์ซ ได้ร้องโอเปร่า ทันใดนั้นร่างกายของนักแสดงคนอื่นๆ รวมถึงผู้ชมในโรงละครต่างเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เหยื่อทุกคนเสียชีวิตทั้งหมด เหลือเพียงแต่อายะกับเมลิซซ่าที่ไม่เป็นอะไรเลย ขณะเดียวกัน เมลิซซ่าในฐานะผู้ต้องสงสัยก็ได้หนีหายไปยังหลังเวที อายะจึงตามไปและพบว่าเมลิซซ่าได้กลายร่างเป็นอสุรกายพร้อมเรียกแทนตัวเองว่า “อีฟ” และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ 6 วันอันตรายที่อายะจะต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงเป้าหมายที่แท้จริงของอีฟให้ได้
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Parasite Eve
Thread of Fate
Threads of Fate เป็นเกมแนว Action RPG ซึ่งเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่า Dewprism โดยเนื้อหาของ Threads of Fate จะแบ่งออกเป็น 2 ตัวละคร ได้แก่ รูอี้ (Rue) ชายหนุ่มผู้สูญเสียความทรงจำที่ออกเดินทางตามหา Dewprism เพื่อต้องการจะชุบชีวิตให้กับ แคลร์ เพื่อนสาวที่เสียชีวิตหลังการปะทะกันระหว่างรูอี้กับวายร้ายที่มีชื่อว่า Arm of Death ในขณะที่อีกคนคือ มินต์ (Mint) เจ้าหญิงแห่งอาณาจักร East Haven ที่โดนปลดจากตำแหน่งรัชทายาทด้วยความเกรียนสุดขั้วของเธอเอง ซึ่งมินต์ต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อทวงบัลลังก์ของเธอกลับมาจาก มายะ ผู้เป็นพี่สาวแท้ๆ ที่ช่วงชิงตำแหน่งไป
ด้วยความที่เนื้อเรื่องถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้รูปแบบของเกมเพลย์ของทั้ง 2 ตัวละครมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ รูอี้จะมีอาวุธประจำตัวคือขวาน และมีความสามารถพิเศษคือการแปลงกายเป็นมอนสเตอร์ที่ตนเองเคยปราบมาได้ และสกิลของมอนสเตอร์บางชนิดจะสามารถนำไปใช้ผ่านบางจุดของเกมที่ลำพังตัวของรูอี้ในร่างมนุษย์ไม่อาจผ่านได้ด้วย ขณะเดียวกัน มินต์ก็จะมีอาวุธเป็นวงแหวนที่ดูคล้ายกงจักร และยังมีเวทมนตร์หลากหลายชนิดให้เลือกใช้ ซึ่งเวทมนตร์ของมินต์ก็จะมีมากขึ้นตามชนิดศัตรูที่ปราบไป โดยบางเวทมนตร์ก็จะใช้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้วิธีปกติในการเข้าถึงได้เช่นกัน
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Thread of Fate
Racing Lagoon
นอกจาก Chocobo Racing แล้ว ค่าย Square ยังมีทำเกมแนวรถแข่งอยู่อีกเกมที่ชื่อว่า Racing Lagoon ด้วยครับ ซึ่งเกมนี้จะมีเอกลักษณ์ตรงความที่เอาองค์ปรกอบของเกมแนว RPG มาสอดแทรกอยู่ในเกมแนวรถแข่งด้วย โดยนอกจากจะมีการซื้อขายอะไหล่เพื่อปรับแต่งรถของเราแล้ว ยังสามารถท้าประลองความเร็วกับรถคันอื่นบนท้องถนนได้ด้วยการเปิดไฟกระพริบใส่ และถ้าเราสามารถเอาชนะได้ ก็จะได้ชิ้นส่วนของรถคู่แข่งมาด้วย รวมถึงมีมิชชั่นและเควสต์ยิบย่อยให้เราทำอีกเช่นกัน
เรื่องราวของเกมนี้จะเกิดขึ้นในเมืองโยโกฮาม่า ปี 1999 โดยเราจะได้บังคับตัวละครที่ชื่อ โช อาคาซากิ สมาชิกหน้าใหม่ของทีม Bay Lagoon Racing ซึ่งสูญเสียความทรงจำ และเจ้าตัวต้องการจะสืบเรื่องลี้ลับของรถระดับตำนานที่วิ่งเร็วที่สุด พร้อมกับแกะรอยเรื่องอดีตของเขาด้วย
น่าเสียดายที่เกมนี้มีวางจำหน่ายเฉพาะเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นครับ ยุคนั้นเราจะพบเห็นคนเล่นเกมนี้ตามร้านเช่าเล่นกันมากมาย แม้ว่าตอนที่เกมวางจำหน่ายจะได้คะแนนรีวิวต่ำมากจากหลายๆ สำนัก แต่เมื่อทางนิตยสารฟามิตซือของญี่ปุ่นลองทำโพลล์สำรวจถึงเกมที่ผู้อ่านอยากให้มีการทำภาคต่อมากที่สุด ปรากฏว่า Racing Lagoon ติดโผอยู่ในอันดับ 45 ซะด้วย
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Racing Lagoon
Bushido Blade
เมื่อครั้งที่ PS1 กำลังเรืองอำนาจ เกมแนวดวลดาบญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นคงหนีไม่พ้นซีรีส์ Samurai Showdown ของค่าย SNK ครับ ทว่าการมาของเกม Bushido Blade นั้นได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับแนวนี้เป็นอย่างมาก โดยปกติไฟท์ติ้งทั่วไปมักจะมีเกจพลังชีวิต เกจท่าไม้ตาย แต่เกมนี้จะอิงความสมจริงของวิถีซามูไรเลย เกจพลังไม่ต้องมี ท่าไม้ตายไม่ต้องใช้ อาศัยแค่ท่าโจมตีเหมือนซามูไร ทุกอย่างชี้ชะตาได้ในดาบเดียว ทำให้เกมนี้กลายเป็นกระแสที่นิยมในหมู่เกมเมอร์ รวมถึงเกมเมอร์ชาวไทยก็ขวนขวายหามาเล่นกันอยู่ระยะนึง
สำหรับตัวละครที่มีให้เราเลือกใช้ก็จะถนัดอาวุธแตกต่างกันไป อาทิ ดาบคาตานะ, ดาบยาว, ดาบเซเบอร์, ดาบเรเปียร์ หรือแม้กระทั่งค้อนยักษ์ก็ยังมี โดยถ้าหากเราเลือกอาวุธที่ตัวละครนั้นถนัดก็จะมีท่าโจมตีที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การตั้งท่าโจมตีก็จะมีสามระดับ บน กลาง ล่าง ที่มีจุดเด่นจุดด้อยในแผนรุกหรือตั้งรับไม่เหมือนกัน
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Bushido Blade
Chrono Cross
ในขณะที่หลายคนเรียกร้องอยากให้ Square Enix หยิบเกม Chrono Trigger กลับมารีเมคอีกครั้ง แต่บางคนอาจจะลืมไปว่าซีรีส์นี้เคยมีอีกภาคที่ลงให้กับ PS1 ด้วย ซึ่งก็คือ Chrono Cross นั่นเอง โดยเนื้อเรื่องของภาค Cross จะกล่าวถึงเด็กหนุ่มนามว่า เซิร์จ ที่เกิดนิมิตว่าเห็นตัวเองตายในโลกคู่ขนาน ด้วยเหตุนี้เซิร์จจึงพยายามออกค้นหาความจริงเกี่ยวกับความแตกต่างของโลกทั้งสอง ต่อมาเซิร์จก็ได้พบกับ คิด โจรสาวและสหายอีกมากมายที่ร่วมผจญภัยไปกับเขา ซึ่งการเดินทางภายในเกมนี้จะเน้นไปที่การเดินเท้าและเรือเป็นหลัก
ทางด้านระบบการต่อสู้ของเกมนี้จะมีชื่อว่า Element System ที่ธาตุต่างๆ จะเป็นสิ่งสำคัญในการใช้เวทมนตร์ ไอเทมฟื้นพลัง รวมถึงอบิลิตี้ของตัวละคร โดยที่ผู้เล่นจะต้องทำการติดตั้งก่อนจึงจะใช้ได้ ตรงนี้จะมีความคล้ายกับระบบ Materia ของเกม Final Fantasy VII อยู่บ้าง ซึ่งเกมนี้ถือว่าประสบความสำเร็จด้านคำวิจารณ์และยอดขายอย่างมาก ถึงกระนั้นซีรีส์ Chrono ไม่ว่าจะภาค Trigger หรือ Cross ต่างก็เป็นเกมที่ยังอยู่ในความทรงจำของเกมเมอร์ยุคนั้นไม่เสื่อมคลาย เหลือแต่รอให้มีใครใน Square Enix หยิบมาทำต่อ ไม่ว่าจะเป็นการรีเมคหรือทำภาคต่อ เชื่อว่าแฟนๆ ก็คงใจชื้นแล้ว
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Chrono Cross
Vagrant Story
นี่เป็นอีกหนึ่งเกมระดับมาสเตอร์พีซของ Square Enix ในยุคนั้นครับ โดย Vagrant Story เป็นเกมแนว Action RPG ที่พัฒนาโดยทีมเดียวกับที่เคยทำเกม Final Fantasy Tactics มาก่อน ซึ่งพล็อตเรื่องจะกล่าวถึง แอชลีย์ ไรออต เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เรียกว่า Riskbreaker ที่ได้เดินทางไปยังเมืองร้างแห่งหนึ่งเพื่อหาเบาะแสที่เชื่อมโยงระหว่างผู้นำลัทธิกับสมาชิกสภาอาวุโสนามว่า ดุค บาร์ดอร์บา แต่แล้วแอชลีย์กลับถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ลงมือสังหารดุคซะงั้น และตัวเกมก็จะดำเนินเรื่องราวในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมนี้ครับ
ระบบการผจญภัยและต่อสู้ของเกมนี้จะเป็นลักษณะแอ็กชั่นลุยด่านผสมผสานกับ RPG กล่าวคือภายในฉากนอกจากจะมีศัตรูที่ต้องเผชิญแล้ว ยังมีบรรดากับดักหรือแท่นเหยียบลอยไปมาเหมือนกับเกมแนว Rockman หรือ Contra ขณะเดียวกัน ระหว่างการต่อสู้ ตัวละครของเราจะมีเกจพลังชีวิตและเกจที่เรียกว่า Risk Bar โดยทุกครั้งที่แอชลีย์ทำการโจมตี ค่า Risk ก็จะเพิ่มขึ้น และจะเพิ่มขึ้นเร็วมากหากเราบังคับให้แอชลีย์โจมตีต่อเนื่องนานเกินไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีค่า Risk มาก ความแม่นยำและพลังป้องกันของเราก็จะลดลง แต่ในทางกลับกัน ค่า Risk ที่สูงก็จะทำให้ไอเทมฟื้นพลังสามารถฟื้นฟูพลังเราได้มากขึ้น ตลอดจนมีโอกาสโจมตีติดคริติคัลมากขึ้นเช่นกัน
เรื่องน่ารู้อีกอย่างก็คือ เกมนี้เป็นเกมเดียวบนเครื่อง PS1 ที่ได้คะแนนรีวิวจากนิตยสารฟามิตซือของญี่ปุ่นเต็ม 40 / 40 ครับ ส่วนความนิยมในหมู่เกมเมอร์นั้นค่อนข้างจะแตกนิดหน่อย ซึ่งคนที่เล่นแล้วชอบจะเพลินติดลมเลย แต่หากคนไหนที่ลองระบบเกมแล้วไม่โอเคก็จะยี้เหมือนกัน
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Vagrant Story
Brave Fencer Musashi
ปิดท้ายด้วย Brave Fencer Musashi อีกเกมระดับขึ้นหิ้งที่เกมเมอร์ชาวไทยยุคนั้นต่างชมกันปากต่อปาก ถึงการเป็นเกม Action RPG เต็มรูปแบบที่มีดีไซน์ตัวละครน่ารักและน่าจดจำ และเป็นหนึ่งในเกมของ Square Enix บน PS1 ที่แฟนๆ อยากให้ปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งเช่นกัน
เรื่องราวของเกม Brave Fencer Musashi จะกล่าวถึง มุซาชิ นักดาบหนุ่มที่ถูกอัญเชิญมายังอาณาจักรอัลลูคาเน็ตที่อยู่ในโลกคู่ขนาน ซึ่งอัลลูคาเน็ตกำลังโดนรุกรานจากอาณาจักรที่เป็นคู่อริ มุซาชิจึงต้องตามหาม้วนตำรา 5 ชิ้นที่จะช่วยเพิ่มพลังให้กับดาบของตนในการต่อกรกับอาณาจักรศัตรู ซึ่งระบบหลักๆ ของตัวเกมจะเน้นไปที่การทำเควสต์ ไขปริศนา โดยที่มีสอดแทรกระบบกลางวัน-กลางคืน ซึ่งมีผลต่อการทำเควสต์ด้วย และเมื่อเราสามารถหาม้วนตำราได้แต่ละชิ้น ดาบของมุซาชิก็จะมีสกิลเพิ่ม ทำให้สามารถเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่สามารถไปด้วยวิธีปกติได้
(ล่าง) คลิปตัวอย่างเกม Brave Fencer Musashi
