มันจะมีเกมประเภทหนึ่งที่แม้จะทำเกมออกมาดีและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากหลายๆ ฝ่าย แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขาย (ว่าง่ายๆ คือขาดทุน) สำหรับค่ายเกมแล้ว ปัญหาดังกล่าวมักจะส่งผลให้ต้องตัดสินใจที่จะปิดเกมนั้นๆ ไม่ให้มีภาคต่อ หรือต่อให้มีก็อาจกินเวลานานสัก 4-5 ปีก็เป็นได้ ยกตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดสุดก็เกม Dead Space นี่แหละ ที่เห็นภาพได้ชัด ดังนั้นในวันนี้ทาง OS เราขอนำเสนอ 5 เกมที่อาจไม่มีภาคต่อเนื่องด้วยยอดขายเกมนั้นขาดทุน ซึ่งจะมีเกมอะไรกันบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่า
5. Mad Max (ยอดขาย 1.8 ล้านชุด)
Mad Max เกมจากภาพยนตร์ที่ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย ทั้งระบบการเล่น การต่อสู้ด้วยรถยนต์ การออกแบบพื้นหลังและตัวละครที่ทำมาลงตัวสุดๆ แต่กลับมาตกม้าตายที่ดันไปปล่อยให้เล่นในวันเดียวกันกับ Metal Gear Solid V: The Phantom Pain จึงไม่แปลกที่จะขาดทุนย่อยยับขนาดนี้
4. Prey (ยอดขาย 1.07 ล้านชุด)
Prey เกมปี 2001 ที่เอามารีบูตใหม่ ซึ่งตัวเกมนั้นสนุกเอามากๆ เนื้อเรื่องทำได้ดีมาก ศัตรูท้าทายดี ระบบการเล่นที่หลากหลายที่เราจะเล่นบู้แหลก, ลอบเร้น หรือแบบเกรียนๆ ก็ได้ แต่ปัญหาที่ตัวเกมขาดทุนนั้นมาจากการที่ตัวเกมถูกเอาไปเปรียบเทียบกับ Dishonored 2 ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านั้นประมาณครึ่งปี ทำให้หลายคนมองว่าองค์ประกอบต่างๆ ใน Prey ดูด้อยกว่า Dishonored 2
3. Sunset Overdrive (ยอดขาย 1.16 ล้านชุด)
Sunset Overdrive เกม Exclusive ของ Xbox One ที่พัฒนาโดยทีม Insomniac Games โดยตัวเกมนั้นเล่นได้เพลินๆ แต่ที่ตัวเกมขาดทุนนั้นมาจาก Microsoft ที่ตัวเครื่อง Xbox One มียอดขายเครื่องไม่ประสบความสำเร็จ เลยทำให้ตัวเกมไม่ประสบความสำเร็จตามไปด้วย เรียกได้ว่า Microsoft กรีดคอฆ่าตัวตายเองชัดๆ
2. The Evil Within 2 (ยอดขาย 1 ล้านชุด)
The Evil Within 2 เกมซีรี่ส์ภาคต่อที่หลายคนรอคอย ซึ่งตัวเกมได้ออกแบบตัวเกมให้ออกมาดีกว่าภาคแรก และได้รับเสียงตอบรับที่ดี กระนั้นยอดขายกลับสวนทางคุณภาพของตัวเกมอย่างมาก ซึ่งสาเหตุคงมาจากปัญหา Bug มากมายและการกินทรัพยากรเครื่องหนักเกินไป ก็หวังว่าการมาของ DLC 3 ตอนเสริมที่กำลังพัฒนาอยู่นั้น จะช่วยให้ยอดขายดีขึ้นมาบ้าง
1. Gravity Rush 2 (ยอดขาย 310,000 ชุด)
Gravity Rush 2 เกมสาวน้อยพลังแรงโน้มถ่วงที่เรียกว่าอัพเกรดจากภาคแรกอยู่พอสมควร ด้วยเนื้อเรื่องที่ลึก ระบบการเล่นที่สนุก ศัตรูท้าทายดี แต่สิ่งที่ทำให้ตัวเกมขาดทุน (ไม่คิดว่าจะขาดทุนหนักขนาดนี้) มาจากการที่ Sony ไม่ได้วางจำหน่ายลง PS Vita เนื่องจากภาคก่อนยอดขายส่วนใหญ่มาจากทางฝั่ง PS Vita และอาจเป็นเพราะเกมมันเฉพาะกลุ่มไปด้วยกระมัง
อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างกับ “เศร้าเลย! 5 เกมที่อาจไม่มีภาคต่อเนื่องด้วยยอดขายเกมนั้นขาดทุน” หวังว่าบทความเหล่านี้คงถูกใจเพื่อนๆ ทุกท่านไม่มากก็น้อย หากใครที่คิดว่ามีเกมที่ทำออกมาดีมากๆ แต่ยอดขายกลับขาดทุนนอกเหนือจากนี้ เพื่อนๆ สามารถมาแบ่งปันและแชร์ความคิดเห็นกันได้นะครับ
ที่มา: http://twinfinite.net