นับตั้งแต่อดีต ภาพลักษณ์ของ Secret of Mana นั้นเคยถูกเหล่าเกมเมอร์บางกลุ่มยกให้เป็น Final Fantasy เวอร์ชั่น Action-RPG และได้รับความนิยมพอสมควร จนกระทั่งเงียบหายไปอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ทาง Square Enix จะหยิบเอาภาค 2 ซึ่งก็คือภาคนี้มาพอร์ตลงสมาร์ทโฟน แต่ก็ยังกระตุ้นกระแสได้ไม่มากนัก ตรงจุดนี้เข้าใจว่าส่วนหนึ่งตัวเกมได้เจออุปสรรคเรื่องช่องว่างระหว่างยุคที่เว้นช่วงนานเกินไป ทำให้ผู้เล่นที่เคยเล่นในเวอร์ชั่นดั้งเดิมบนเครื่อง Super Famicom ได้ล้มหายตายจาก มีลูกมีเต้ากันไปหมดแล้วนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ แนวคิดเรื่องการรีเมคเลยน่าจะเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์ยุคปัจจุบัน พร้อมความหวังที่ว่าจะดึงผู้เล่นหน้าใหม่ให้มาสนใจมากขึ้น รวมถึงเวอร์ชั่นที่ลงให้กับ PS4 นี้ ทาง Sony ก็ได้มีการใส่ซับไตเติ้ลภาษาไทยเพื่อเอาใจเกมเมอร์บ้านเราอีกต่างหาก
เนื้อหาของ Secret of Mana จะกล่าวถึง "มานา" ที่เป็นพลังงานหลักที่หล่อเลี้ยงโลกในเกม โดยมนุษย์ในยุคโบราณได้นำพลังมานามาใช้สร้างป้อมปราการเพื่อจุดประสงค์ในด้านยุทธศาสตร์ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ได้ทำให้พระผู้เป็นเจ้ากริ้วหนัก ถึงกับส่งอสุรกายขนาดยักษ์ลงมาทำสงครามกับมวลมนุษย์ กระทั่งปรากฏวีรบุรุษรายหนึ่งที่ได้นำพลังของดาบมานามาใช้ทำลายป้อมปราการลงได้สำเร็จ และโลกก็สงบสุขอีกครั้ง
ผู้เล่นจะได้บังคับ 3 ตัวละครหลัก ได้แก่ แรนดี้ เด็กหนุ่มผู้ที่มีชาติกำเนิดไม่แน่ชัด หลังจากที่แม่ของเขาได้หายสาบสูญไป กับ ปริม เด็กสาวสุดแก่นที่ออกตามหาคนรักที่ถูกส่งตัวไปรบที่ปราสาทอีกแห่งหนึ่ง สุดท้ายคือ โปโปอี้ ภูตจิ่วที่ความจำเสื่อม และต้องหาทางฟื้นความทรงจำของตัวเองเพื่อที่จะได้กลับบ้าน ทั้งสามคนที่มีที่มาที่ไปต่างกัน กลับต้องมาร่วมชะตากรรมเดียวกันกับภารกิจกู้โลกในที่สุด
ระบบของเกมนี้จะยังคงใช้ระบบเดียวกันกับเมื่อ 25 ปีที่แล้ว คือในฉากผจญภัยจะใช้เพียง 3 ปุ่มหลักๆ ได้แก่ กดโจมตี กดวิ่ง และกดเรียกเมนูเท่านั้น โดยระหว่างที่เรากดเรียกเมนู เกมจะหยุดชั่วคราว ทำให้เราใช้จังหวะนี้ในการใช้ไอเทมฟื้นพลังหรือชุบชีวิตเพื่อนที่ตายได้ นอกจากนี้ การโจมตีจะมีเกจ Stamina บอกเป็น % เมื่อผู้เล่นโจมตีศัตรูไปทีนึง ก็ต้องรอให้เกจกลับมาเต็ม 100% เหมือนเดิมก่อนแล้วค่อยโจมตีใหม่จึงจะได้ความแรงตามปกติ การกดปุ่มโจมตีรัวๆ จึงทำให้พลังโจมตีออกมาต่ำมาก จะบอกว่าระบบนี้เป็นตัวฉุดให้สปีดเกมตกลงไปเยอะก็ไม่ผิดนัก ต่างจากเกมแนวอย่าง Dark Souls ที่มีระบบเกจ Stamina เหมือนกัน ทว่าใน Dark Souls นั้นเราจะยังคงโจมตีได้แรงเท่าเดิม และพอเกจหมดจะส่งผลแค่ทำให้เราสปรินท์หรือกลิ้งหลบไม่ได้ชั่วขณะครับ
ในแง่ของระบบทั่วไป สิ่งที่ดูมีประโยชน์ที่สุดคือการเซ็ตคีย์ลัดสำหรับการใช้เวทมนตร์ ทำให้เราไม่ต้องคอยกดเรียกเมนูที่เหมือนวงล้อบ่อยๆ เพียงแค่กดปุ่ม L1 หรือ R1 ที่เซ็ตไว้ก็สามารถใช้เวทมนตร์ของเพื่อนในปาร์ตี้ได้ทันที ส่วนเรื่องอินเตอร์เฟซเมนูที่เป็นวงล้อ จะแสดงหัวข้อต่างๆ ด้วยไอคอน ช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจได้ง่าย อีกทั้งระบบการอัพเกรดอาวุธก็ค่อนข้างพื้นๆ ไม่ซับซ้อน แถมอัพได้ไวด้วยแม้ว่าจะเอาแต่ตะบี้ตะบันลุยไปข้างหน้า ไม่วนแมพเพื่อฟาร์มค่าประสบการณ์สำหรับอาวุธก็ยังขึ้นได้ง่ายอยู่
ประเด็นที่ไม่ค่อยอยากให้อภัยก็คือเรื่องบั๊กของเกมครับ ขณะที่เล่นเราจะได้เจอกับบั๊กแปลกๆ เช่น ตัวละครในปาร์ตี้บางคนหายไปจากหน้าจอดื้อๆ แล้วพอเวลาจะเปลี่ยนไปตัวละครที่หายไปก็ดันเกิดอาการจอมืดอีก ปัญหาดังกล่าวจะแก้ได้ก็ต่อเมื่อไปเซฟแล้วออกเกมเข้าใหม่เท่านั้น มิหนำซ้ำ AI ของเพื่อนในปาร์ตี้เราก็ชอบวิ่งชนกำแพงหรือวัตถุประกอบฉากให้เห็นบ่อยมาก ต้องเสียเวลากลับไปยืนใกล้ๆ AI ถึงจะวิ่งตามเรามาถูก ตลอดจนปัญหาเรื่องการโหลดของเกมที่สวนทางกับคุณภาพของกราฟิกที่ตัวเกมมี เนื่องจากสไตล์ของภาพ รวมถึงสเกลของเกมเองก็ไม่น่าจะดึงพลังอะไรของเครื่อง PS4 มากมาย แต่พอจะเปลี่ยนแมพดันมีขึ้น Now Loading ให้เห็นตลอด ทำเอาเสียอารมณ์ได้เหมือนกัน
ร่ายข้อเสียมายืดยาว ใช่ว่าเกมจะหาข้อดีไม่ได้นะครับ ซึ่งข้อดีที่พยุงเกมนี้แบบเต็มๆ ก็คือการที่ตัวเกมมีซับไตเติ้ลภาษาไทยนี่แหละ คุณภาพการแปลจัดว่าดีงามมาก หลายๆ บทสนทนาระหว่างตัวละครหลักได้มีการเกลามาอย่างละเอียด ทำให้สำนวนต่างๆ ดูไม่ตกยุคไปตามระบบเกม ประโยคส่วนใหญ่ให้อารมณ์เหมือนวัยรุ่นไทยยุคนี้พูดคุยกันเลย ซึ่งเกมถัดไปจากนี้ของ Sony เหล่าเกมเมอร์ในไทยน่าจะพอวางใจได้แล้วครับว่ามีทีมงานแปลน้ำดีรองรับอยู่ หลังจากโชว์สกิลให้เห็นในเกมนี้ และ Shadow of the Colossus กับ Gran Turismo Sport มาแล้ว
จุดเด่น
- ภาษาไทยในเกมแปลได้ออกมาได้ดี สำนวนที่ตัวละครพูดคุยกันก็มีการเกลาให้เข้ากับการพูดจาของคนไทยในปัจจุบัน
- งานภาพน่ารักสดใส ดูมีชีวิตชีวากว่าสมัย Super Famicom ขึ้นเป็นกอง
- ระบบทั่วไปของเกมดูเก่าก็จริง แต่โครงสร้างของระบบอัพความสามารถตัวละครค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่น นอกจากจะเข้าใจง่ายแล้วยังอัพง่าย ไม่เปลืองเวลาไปฟาร์มต่างหากเท่าไหร่ด้วย เพราะไล่ตีไปตามเนื้อเรื่องก็อัพได้เยอะมากแล้ว
จุดด้อย
- ตัวเกมยังมีบั๊กอยู่บ้าง ซึ่งบรรดาบั๊กที่พบเจอไม่สมควรจะปล่อยให้เกิดขึ้นได้เลย
- AI ของตัวละครอื่นในปาร์ตี้ค่อนข้างเงอะงะ ยิ่งถ้าเป็นทางเดินในดันเจี้ยนที่วกวนจะหัวเสียกับการเห็น AI ฝั่งเราวิ่งชนกำแพงจนมาช่วยเราไม่ได้อยู่บ่อยๆ
- แม้จะเป็นการรีเมค แต่ระบบหลักๆ ของเกมมีการปรับปรุงน้อยมาก หลายอย่างเลยดูตกยุคไปถนัดตาเมื่อเทียบกับเกม Action-RPG สมัยนี้
- คุณภาพของกราฟิกไม่น่าจะดึงพลังของเครื่องเท่าไหร่ แต่พอเปลี่ยนแมพดันขึ้น Now Loading ให้เห็น
- การคำนวณดาเมจที่ศัตรูเสียพลังดันมีดีเลย์ ตัวเลขมักออกมาแค่ชุดแรกก่อนที่จะกระเด็น พอตามไปโจมตีซ้ำ กว่าตัวเลขจะออกมาอีกรอบก็คือตอนศัตรูตายแล้ว
สรุป
เกมนี้ถ้าจะพูดได้เต็มปาก ก็คือมันเหมาะกับผู้เล่น 2 กลุ่มครับ หนึ่งคือผู้ที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนในเวอร์ชั่นดั้งเดิม และอยากรื้อฟื้นอีกครั้งผ่านกราฟิกโฉมใหม่และได้ซึมซับเนื้อเรื่องแบบภาษาไทย ส่วนอีกกลุ่มคือผู้ที่ชอบเกมแนว Action-RPG ที่มีระบบไม่ซับซ้อน สไตล์อนุรักษ์นิยมจ๋า เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรง แทบไม่มีเควสต์ย่อยให้ทำ ภาษาไทยคือสิ่งดีงามที่สุดที่หาได้จากเกมนี้ และถ้าได้ลองหยิบมาเล่นแล้วจะซึ้งครับว่าการมีภาษาไทยได้อ่านไปด้วยขณะเล่นมันวิเศษขนาดไหน ทำไมเราถึงควรสนับสนุนเกมแท้กันกว่าจะมีวันนี้ได้
คะแนน 6 / 10