รีวิว Dragon Ball FighterZ ว่าที่เกมต่อสู้ที่ดีที่สุดของจักรวาลดราก้อนบอล ณ ตอนนี้!

แชร์เรื่องนี้:
รีวิว Dragon Ball FighterZ ว่าที่เกมต่อสู้ที่ดีที่สุดของจักรวาลดราก้อนบอล ณ ตอนนี้!

    เรียกว่าเป็นกระแสกันอย่างมากในหมู่คอเกมไฟท์ติ้งหรือแฟนๆ ดราก้อนบอลหลังจากที่ Bandai Namco เปิดตัวเกมใหม่อย่าง Dragon Ball FighterZ เมื่อปีที่ผ่านมา โดยในภาคนี้ตัวเกมได้กลับมาสู่การเป็น 2D Fighting Game อีกครั้งหนึ่ง และผู้คุมบังเหียนการพัฒนาก็คือ Arc System Works ที่มีผลงานด้านเกมต่อสู้ชื่อดังมาอย่างยาวนานอย่างซีรี่ย์ Guilty Gear และ Blazblue นั่นเองครับ แน่นอนว่าหลังจากที่มีการเปิด Demo ให้ทดสอบกัน ข้อมูลต่างๆ ที่ปล่อยออกมา ก็มีหลายคนชื่นชอบและขึ้นรถไฟไฮป์มากันเป็นทิวแถวแล้ว วันนี้ OS มีโอกาสได้สัมผัสตัวเกมเวอร์ชั่นเต็มแล้วก็เลยขอรีวิว Dragon Ball FighterZ ซักหน่อยครับผม

เกมต่อสู้ที่มีความดราก้อนบอลสูง

    หลายคนอาจจะงงว่ามันคืออะไรยังไง ? ก่อนอื่นต้องบอกว่า Dragon Ball FighterZ จะใช้เอนจิ้นของตัวเกมเดียวกับเกมอย่าง GUILTY GEAR Xrd -REVELATOR- REV2 ครับ แม้ว่าการต่อสู้จะเป็น 2D แต่จริงๆ แล้วเหมือนตัวเกมสร้างออกมาเป็น 3D ไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นฉากหรือตัวละคร ซึ่งพอนำมาเปลี่ยนสกินเป็นดราก้อนบอลแล้วก็จะรู้สึกได้ทันทีว่า ภาพมันช่างดูการ์ตูนๆ พอดี มีลูกเล่นต่างๆ ที่ทำให้เข้าถึงความเป็นดราก้อนบอลได้มากขึ้นกว่าหลายๆ เกมที่ผ่านมาครับ 

    ส่วนตัวละครที่เข้าร่วมต่อสู้ตอนนี้ก็มีทั้งหมด 24 ตัวละคร ได้แก่ (เรียงตามแถวหน้าเลือกตัวละครนะ)

- เท็นชินฮัง หยำฉา โกฮัง(ตอนโต) คุริริน โกคู(ซุปเปอร์ไซย่า) ฟรีซเซอร์ หมายเลข18 จอมมารบู(ร่างเด็ก) กัปตันกินิว นัปปะ
- โกคู(ssgss) ทรั๊งคซ์ เบจิต้า(ซุปเปอร์ไซย่า) บิลส์(บิรุส) เซล(ร่างเพอเฟคต์) หมายเลข 16 เบจิต้า(ssgss)
- โกเทนคูส พิคโกโร่ โกฮัง(ตอนเด็ก) หมายเลข21(ร่างต่อสู้) จอมมารบู(ร่างอ้วน) ฮิทโตะ โกคูแบล็ค

เกมต่อสู้ที่เข้าถึงได้ทุกคน

    เอาจริงๆ ถ้าพูดถึงเกมต่อสู้ของค่าย Arc System Works หลายคนก็จะติดภาพว่าเป็นเกมต่อสู้ที่ค่อนข้างจริงจังในระดับหนึ่งจนบางคนสู้ไม่ไหว แต่กลับกันใน Dragon Ball FighterZ นั้น ได้ใส่ความเป็นมิตรกับผู้เล่นที่เล่นเกมแนวต่อสู้ไม่เป็นเข้ามาด้วย โดยจะเป็นเหมือนระบบ Assist ช่วยเหลือผู้เล่นใหม่ที่จะช่วยในการทำคอมโบสวยๆ ด้วยการกดปุ่มเพียงแค่ปุ่มเดียวนั่นเองครับ โดยเกมนี้จะมีปุ่มหลักเรียงง่ายๆ ดังนี้ โจมตีเบา โจมตีกลาง โจมตีแรง โจมตีพิเศษ เปลี่ยนตัว1 เปลี่ยนตัว2 ซึ่งถ้าหากเรากดปุ่มโจมตีเบาต่อเนื่องกันเรื่อยๆ ก็จะเป็นการอัดคอมโบจากพื้นให้ลอยขึ้นกลางอากาศและไปต่ออีกชุดหนึ่งให้อัตโนมัติ หรือโจมตีกลางต่อเนื่อง ก็จะเป็นคอมโบบนพื้นที่จะไปจบด้วยท่าไม้ตาย 1 เกจนั่นเองครับ บางคนอาจจะคิดว่า อ้าวแบบนี้ก็เล่นง่ายเกินไป ไม่เหมาะกับสายฮาร์ดคอร์ สำหรับสายจริงจังก็จะมีคอมโบการกดแบบอื่นๆ ให้ผสมผสานกันเอง ซึ่งก็จะสวยงามและมีความรุนแรงมากกว่าเหมือนกันครับ

    ส่วนระบบการต่อสู้อื่นๆ หลักๆ ก็จะเป็น 3v3 มีการปล่อยพลังเวอร์วังอลังการงานสร้าง คำสั่งการปล่อยพลังก็กดง่ายแสนง่าย (ทุกตัวจะมีแค่ ลงหน้า และลงหลัง ตามด้วยปุ่มซักปุ่ม สองปุ่มเท่านั้นเลย) มีการบินตามไปต่อคอมโบ มีการวาร์ปไปด้านหลังคู่ต่อสู้ มีการต้านพลังกันเล็กน้อย โดยรวมแล้วทำให้เหมาะกับแฟนๆ ดราก้อนบอลหรือคอเกมไฟท์ติ้งได้ทุกคน คนเล่นเกมแนวนี้ไม่เป็นก็เล่นได้ สายฮาร์ดคอร์ก็เล่นดี

ชวนคิดถึงฉากในการ์ตูนด้วย Dramatic Scene

    เป็นอีก 1 ไฮไลท์ของ Dragon Ball FighterZ เลยก็ว่าได้ครับกับระบบที่เรียกว่า Dramatic Scene ซึ่งเป็นระบบที่จะมีฉากคัทอินที่อ้างอิงจากฉากในการ์ตูนมาเป๊ะๆ โดยจะมีทั้งฉากก่อนเริ่มการต่อสู้ และฉากที่ต่อสู้จบแล้ว ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่น โกฮังร่างเด็ก และเซลละกันครับ ถ้าหากเราเลือก 2 ตัวนี้มาเจอกันที่ด่าน Cell Game Arena ฉากเปิดตัวก็จะเป็นฉากที่เซลกระทืบหัวหมายเลข 16 ทิ้ง และโกฮังได้กลายเป็นซุปเปอร์ไซย่าร่าง 2 ขึ้นมานั่นเอง และถ้าหากตอนจบมีการพังฉาก (ใช้ท่าไม้ตายบางที่าสังหาร 1 ตัวตอนจบจะมีการระเบิดฉากทิ้ง) ไปแล้ว 1 รอบ แล้วโกฮังเด็กชนะเซล ก็จะเป็นการตัดคัทอินเข้าฉากที่เซลปล่อยพลังคลื่นเต่า แล้วโกฮังปล่อยสวนพร้อมกับวิญญาณของโกคูเหมือนศึกเซลเกมตอนจบให้เราได้คิดถึงกันด้วยครับ 

เนื้อเรื่องหลักที่มาพร้อมกับตัวละครเฉพาะภาคนี้

    มาดูเกี่ยวกับโหมดเนื้อเรื่องของภาคนี้กันบ้าง  สำหรับเนื้อเรื่องในภาคนี้ที่เราได้เห็นผ่าน Trailer ไปนั้นก็จะเห็นกองทัพร่างโคลนของพวก โกคู เบจิต้า และอีกหลายๆ คนออกมาบุกเมืองกันอยู่ ซึ่งมาพร้อมกับตัวละครใหม่เฉพาะภาคนี้อย่างหมายเลข 21 หรือ Android 21 นั่นเองครับ ซึ่งเรื่องราวเป็นอย่างไรขอไม่สปอยล์ละกัน อยากให้เพื่อนๆ ไปลองเล่นกันเองดู ค่อนข้างมีประโยคฮาๆ พอสมควร (เนื้อเรื่องน่าจะอยู่หลังภาค Battle of God ล่ะมั้ง) แต่จะบอกว่าโหมดเนื้อเรื่องจะแบ่งให้เล่น 3 ส่วนก็คือ ฝ่ายดี(ก็คือพวกโกคู) ฝ่ายร้าย(พวกฟรีซเซอร์) และฝ่ายมนุษย์ดัดแปลง(หมายเลข 18) โดยถ้าหากเราเล่นเคลียร์ทั้งหมดก็จะสามารถปลดล็อคหมายเลข21 มาให้ไเล่นกันด้วยครับ ก็จะเป็นด่านต่างๆ ให้เราสู้กับพวกโคลน หรือมีอีเว้นท์พิเศษที่มีเนื้อเรื่องเพิ่มเติมให้เราอ่านด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วถ้าดูเนื้อเรื่อง และเก็บให้ครบ 100% ก็ใช้เวลาอยู่นิดหน่อยครับ ไม่สั้น แต่ก็ไม่นานมากเกินไป

Lobby และโหมดอื่นๆ 

    การเข้าเกมของ Dragon Ball FighterZ จะถูกส่งมาที่ล๊อบบี้เสมอ (จะออฟไลน์ออนไลน์ก็ล๊อบบี้เหมือนกัน) ซึ่งก็จะเป็นเสมือหน้าเลือกเมนูนั่นแหละครับ นอกจากโหมดเนื้อเรื่องกับ Local Battle ที่เอาไว้ต่อสู้เล่นกันเอง ก็จะมีโหมด Practice เอาไว้ฝึกคอมโบและระบบเกมต่างๆ ก็จะมีโหมด Arcade ที่จะเป็นเหมือนการสู้ไต่ระดับเล็กๆ น้อยๆ (เป็นที่เอาไว้ปลดล็อคโกคูและเบจิต้า ssgss สำหรับคนไม่ได้พรีออเดอร์ด้วยนะ) แล้วก็มีโหมดออนไลน์ที่เอาไว้เล่นกับคนอื่น อ้อ เกมนี้มีกาชาด้วยนะครับ ฮ่าๆ จะเป็นการใช้เงินในเกมเปิดกาชาเพื่อสุ่มไอเทมต่างๆ อย่างเช่น สีชุดตัวละคร ตัวละครที่ล๊อบบี้ แสตมป์ที่ใช้ในแชทล๊อบบี้ เป็นต้น ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับความเก่งของตัวละครอะไรครับ

    คร่าวๆ ของเกม Dragon Ball FighterZ ก็จะมีประมาณนี้ ถ้าถามผมแล้ว ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชื่นชอบเกมต่อสู้สไตล์นี้ บวกกับรอคอยให้ดราก้อนบอลออกเกมต่อสู้แบบนี้มานานแล้ว เพราะพักหลังจะออกมาเป็นสไตล์ 3D เสียส่วนใหญ่ ผมจึงยกให้ Dragon Ball FighterZ เป็นว่าที่เกมต่อสู้ที่ดีที่สุดของซีรี่ย์ดราก้อนบอล ณ ตอนนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพ เรื่องความรู้สึกต่างๆ หลังจากได้เล่น มันมีความดราก้อนบอลมากๆ รวมไปถึงความเข้าใจตัวเกมพื้นฐานได้ง่าย เพื่อนๆ ผมที่ไม่ใช่สายเกมต่อสู้ก็มาเล่นสนุกและมีท่าสวยๆ ได้ใช้กัน ส่วนผมก็มีคอมโบให้หาให้ปรับลองใช้ใหม่ๆ กันด้วย เรียกว่าแฟนดราก้อนบอลไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Dragon Ball FighterZ เอาคะแนนไป 9/10 (หักคะแนนนึงค่ารียูสเสียงอเนาเซอร์มาใช้จาก GG 555)

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ