นับว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่หายไปทั่วโลกจริงๆ นะคะสำหรับอาการ “ติดเกม” นี้ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเพียงที่เดียวซะแล้ว โดยล่าสุดนี้ ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO (World Health Organization) ก็ได้เตรียมจัดให้สภาวะติดเกม หรือที่มีชื่อสวยหรูว่า Gaming Disorder กลายเป็นอาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่งแล้ว! โดยได้เตรียมบรรจุชื่อโรคติดเกมนี้ลงในคู่มือสำหรับการวินิจฉัยโรคและกลุ่มอาการผิดปกติต่างๆ หรือ ICD ฉบับที่ 11 ซึ่งจะตีพิมพ์ในปี 2018 นี้ แต่ถึงแม้จะมีการพิจารณาเพิ่มโรคนี้เข้าไปเรียบร้อยแล้ว แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่มีการระบุชื่อโรคและเกณฑ์การวินิจฉัยที่แน่นอนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางองค์การอนามัยโลกได้ให้คำอธิบายเอาไว้ว่า กลุ่มคนที่อาจจัดได้ว่าเป็นโรคดังกล่าวนั้นอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- ไม่สามารถควบคุมตัวเองในขณะเล่นเกมได้ (ทั้งในเรื่องของระยะเวลาในการเล่นหรือความถี่ในการเล่น)
- ให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากเกินไปจนละเว้นกิจวัตรสำคัญต่างๆ
- ไม่สามารถหยุดเล่นเกมได้แม้จะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองก็ตาม
นอกจากนี้ กลุ่มอาการดังกล่าวยังต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปีจึงจะจัดว่ามีอาการป่วย เว้นแต่ในกรณีที่อาการหนักจริงๆ เท่านั้น (เช่นเล่นเกมติดต่อกันเป็นวันๆ โดยไม่ทำอะไรเลย)
แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ออกมาให้ความเห็นตรงกันว่า แม้อาการติดเกมนี้จะเป็นเรื่องที่ควรจริงจังกับมันจริงๆ เสียที แต่ต่างคนต่างก็ย้ำว่าการป่วยเป็น “โรคติดเกม” นี้กับการชื่นชอบการเล่นเกมนั้นไม่เหมือนกันเลยค่ะ ยกตัวอย่างก็คงเหมือนกับคนที่ดื่มเหล้า บางคนอาจจะดื่มบ่อยหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะกลายเป็นคนติดเหล้าไปซะทุกคน แต่ถึงอย่างไรก็ควรควบคุมให้พอดีเข้าไว้ เพราะการทำอะไรเกินพอดีย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดีด้วยกันทั้งนั้น
ดังนั้นแล้ว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมอย่างเราๆ ก็อย่าลืมควบคุมเวลาในการเล่นให้เหมาะสมกันด้วยนะคะ อย่าให้การเล่นเกมของเราไปกระทบกิจกรรมอื่นๆ อย่างการเรียนหรือการทำงานเข้าโดยเด็ดขาด ไม่งั้นล่ะก็... อาจกลายเป็นผู้ป่วยทางจิตโดยไม่รู้ตัวนะเออ