อันที่จริงหากใครที่มางาน TGSBIG 2017 เมื่อ 3-5 พฤศจิกายนที่ผ่านมาก็อาจจะได้ลองเล่นกันไปบ้างนะครับสำหรับ Far Cry 5 ที่ทาง PlayStation และ Ubisoft ขนมาให้ลองเล่นกันถึงประเทศไทย ซึ่งตัวผมเองก็วุ่นวายในงานไม่ได้ไปลอง ทว่าก็มีโอกาสเดินผ่านไปมาจึงพบว่าน่าจะเป็นเดโมตัวเดียวกับที่เคยไปลองเล่นอยู่ที่งาน Ubiday 2017 ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งผมจะมาเล่าให้ฟังกันสักหน่อย สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลองของจริงครับ
แถลงไขกันอีกครั้งสักหน่อยว่าเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของ OS ไปร่วมงาน Ubiday 2017 ที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว ได้สัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่ และทดลองเล่นเกมที่ยังไม่วางจำหน่ายก่อนใคร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Far Cry 5 นี่เอง โดยเกม Far Cry 5 จะมีธีมและบรรยากาศอยู่ในประเทศอเมริกา แถบๆ ที่ไกลปืนเที่ยงสักหน่อย ทว่า ณ ที่แห่งนี้ ใครบางคนกำลังขยายอิทธิพลมืดอย่างเงียบงัน
ในตัวเดโมนี้มี 1 ภารกิจให้เราเล่นครับ เป็นการสู้เพื่อปลดปล่อยเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งจากกองกำลังของตัวร้ายในภาคนี้ที่มีมากพอควร แต่การสู้นั้นคุณต้องนิยามคำว่า "สู้" ของตัวเองว่าจะ "สู้" แบบใด เช่นเดียวกับ Far Cry ในทุกๆ ภาค ความอิสระยังเป็นแก่นการเล่นสำคัญ เริ่มฉากมาคุณมีไม้เบสบอสติดตะปู จะเดินดุ่มๆ เข้าไปหวดเลยก็ได้ หรือจะเดินไปปีนแท็งก์นํ้าใกล้ๆ เพื่อเอาปืนสไนเปอร์ไปใช้ก็ย่อมได้เช่นกัน
หนทางในการทำลายล้างศัตรูยังขึ้นอยู่กับคุณเป็นหลักเช่นเคย เมื่อเรากำจัดศัตรูได้หมดเราก็จะยึดพื้นที่ได้พร้อมปลดล็อคเควสต์ใหม่ๆ ให้ได้ทำครับ ซึ่งเอาจริงๆ โดยรวมนั้นแก่นการเล่นหลักๆ ก็เป็นอะไรที่เราเคยเจอมาแล้วใน Far Cry ภาคหลังๆ เสียส่วนใหญ่ ไม่ได้มีอะไรต่างกันมาก แต่สิ่งที่ทำให้ Far Cry 5 ยังคงน่าสนใจคือธีมและบรรยากาศที่ไม่เหมือนกันสักภาคนั่นเอง
Far Cry 5 จะพาเราไปพบและรบกับสาธุคุณ Joseph Seed บาทหลวงผู้เผยแพร่คำสอนของลัทธิตนด้วยลูกปืน แค่ฟังก็ดูดราม่าแล้วครับ ในเดโมไม่ได้เอาเนื้อเรื่องมาโชว์นัก แต่ก็น่าลุ้นเหลือเกินว่าตัวเกมจะเล่นประเด็นเสียดสีทั้งในแง่ศาสนาและอเมริกาได้จัดจ้านขนาดไหน ในส่วนของบรรยากาศจะเป็นขนบทของอเมริกา ค่อนข้างไกลปืนเที่ยงหน่อยครับ ดังนั้นหากใครชอบงานภาพแนวคันทรี่ๆ หน่อยๆ ก็อาจจะตกหลุมรักได้ไม่ยากเลยทีเดียว
อ้อ! 1 ในระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ Guns for Hire ซึ่งจะเป็น NPC ที่มาช่วยเราสู้ครับ ซึ่งพวกนี้ก็จะมีเนื้อเรื่องของตัวเอง รวมถึงความถนัดทางอาวุธที่ต่างออกไป ซึ่งในเดโมผมก็เลือกเอ่อ... น้องหมา มาช่วยสู้ครับ และด้วยความสัตย์จริงหมอนี่แทบจะจัดการศัตรูได้คล่องยิ่งกว่าตัวผมเองอีกนะเนี่ย!
การเล่นเดโมจบลงในเวลาอันสั้น ผมอาจรู้สึกไม่ถนัดนิดๆ เนื่องด้วยปกติเล่น Far Cry บน PC พอมาเล่นเวอร์ PS4 ในงานทำให้ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่เต็มอารมณ์เท่าที่ควร อย่างไรก็ดีผมไม่ปฏิเสธว่าหลังลองแล้วความอยากเล่นตัวเต็มก็เพิ่มเป็นทวีคูณครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสัมภาษณ์ทีมพัฒนาไปก็ยิ่งรู้สึกว่าภาคนี้น่าจะมีดีกว่าที่คิดครับ
ใครที่สนใจก็รอติดตามบทความสัมภาษณ์ผู้พัฒนาจาก Ubisoft ได้เร็วๆ นี้ครับ ขอตัวไปแกะบทสัมภาษณ์แปบเด้อ~!