นับตั้งแต่เครื่องเกมคอนโซลอย่าง PS3 ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2006 ทาง Sony ก็จัดการเพิ่มระบบโทรฟี่เข้ามาเพื่อเพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่น โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถพิชิตเงื่อนไขต่างๆ ที่เกมกำหนดไว้ได้ ก็จะได้โทรฟี่มาเป็นรางวัลที่แสดงถึงความพยายามของเรา และแต่ละโทรฟี่ก็จะมีความยากลดหลั่นกันไป ถ้วยทอง (Gold) ก็จะยากหน่อย หรือถ้วยทองแดง (Bronze) ก็จะทำได้ง่ายกว่า เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเราพิชิตเงื่อนไขในเกมใดได้ครบทุกอย่างแล้ว ก็จะได้แพลตินั่มโทรฟี่ที่เปรียบเสมือนประกาศนียบัตรว่าผู้เล่นคนนั้นบรรลุทุกอย่างในเกมครบ 100% เรียบร้อยนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การมีอยู่ของระบบโทรฟี่ก็เพียงแค่เอาไว้อวดเพื่อนๆ ในเฟรนด์ลิสต์ครับว่าใครเล่นเกมไหนไปถึงไหนบ้าง ไม่มีอะไรอื่นอีก
กระทั่งล่าสุด ทาง PlayStation สาขาอเมริกาก็ได้ผุดเว็บไซต์ Sonyrewards ขึ้นมา (เข้าได้เฉพาะผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) โดยเว็บนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นฝั่ง PlayStation ทุกคนสามารถนำโทรฟี่ที่ตัวเองมี ตั้งแต่ถ้วยเงินไปจนถึงถ้วยแพลตินั่มมาแปลงสภาพเป็นแต้ม แล้วนำแต้มที่ได้ไปเปลี่ยนเป็นเงิน (Wallet) สำหรับใช้ใน PlayStation Store อีกที ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนดังนี้ครับ
- ถ้วยเงิน 1 ถ้วย มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
- ถ้วยทอง 1 ถ้วย มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
- ถ้วยแพลตินั่ม 1 ถ้วย มีค่าเท่ากับ 100 แต้ม
- ทุกๆ 1,000 แต้มจะสามารถแปลงเป็นเงินได้ 10 เหรียญสหรัฐฯ
หากเพื่อนๆ คนไหนยังนึกภาพไม่ออก ทีมงานขอยกตัวอย่างนาย Hakoom เกมเมอร์ขอบตาแพนด้าจากข่าว (คลิกที่นี่) ผู้ที่เพิ่งได้โทรฟี่รวมทุกชนิดครบ 60,000 ถ้วยไปหมาดๆ โดยแบ่งเป็นถ้วยเงิน 15,542 ถ้วย, ถ้วยทอง 6,895 ถ้วย และถ้วยแพลตินั่ม 1,349 ถ้วย (ที่เหลือเป็นถ้วยทองแดง ซึ่งนำไปแลกเป็นแต้มไม่ได้) ถ้านาย Hakoom นำโทรฟี่ที่ได้มาทั้งหมดจนถึงปัจจุบันไปแลกเป็นแต้ม ก็จะได้ทั้งหมด 219,392 แต้ม และเมื่อนำไปแลกเป็นเงินเข้า Wallet ก็จะได้ประมาณ 2,193 เหรียญ หรือประมาณ 72,720 บาทเลยทีเดียว
คลิปนาย Hakoom ฉลองโทรฟี่ครบ 60,000 ถ้วย ดูได้ที่ด้านล่างครับ
เป็นยังไงบ้างครับ จุดประสงค์ของระบบแปรสภาพโทรฟี่เป็นเงินนี้ น่าจะจูงใจให้เพื่อนๆ ชาว PlayStation ขยันเก็บโทรฟี่กันมากขึ้นไม่มากก็น้อยบ้างแหละ ซึ่งตอนนี้ระบบดังกล่าวเพิ่งจะเปิดใช้เฉพาะในโซนอเมริกาเท่านั้น ส่วนในโซนอื่นๆ รวมถึงเอเชียแถวบ้านเราต้องรอไปก่อนเด้อ
เครดิต: Kotaku