จับจุดอ่อน 6 ทีมพัฒนาเกมยักษ์ใหญ่ที่ควรมีการแก้ไขอย่างแรง!

แชร์เรื่องนี้:
จับจุดอ่อน 6 ทีมพัฒนาเกมยักษ์ใหญ่ที่ควรมีการแก้ไขอย่างแรง!

    ไม่ว่าจะวงการไหนๆ ยักษ์ใหญ่ชั้นนำล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อนประจำตัวด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาเกมช้า เลื่อนวันวางจำหน่ายเกมออกไปจนแฟนๆ ระอา หรือการดาวน์เกรดเกม เอาเป็นว่าวันนี้เรามาลองดูกันว่าแต่ล่ะค่ายแต่ล่ะฝั่งมีจุดอ่อนประจำตัวอะไรกันบ้าง

 

อันดับ 6 Ubisoft จอมดาวน์เกรด
 
    ถือเป็นอีกค่ายพัฒนาเกมที่สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าเกมเมอร์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ดีหรือร้าย สำหรับจุดอ่อนของทีมพัฒนาสายเลือดฝรั่งเศสนี้คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการดาวน์เกรดที่เกือบทุกครั้งเมื่อพวกเขาโชว์เทรลเลอร์เกมดังๆ ออกมาซึ่งดูอลังการงานสร้างมากๆ ภาพสวยงาม แต่เมื่อถึงเวลาเกมเวอร์ชั่นเต็มวางจำหน่ายก็ได้แต่สายหัว่าทำไมไม่เหมือนในเทรลเลอร์ที่เราเห็นเลยหว่า 555+ แต่ในปัจจุบันทาง Ubisoft ก็ปรับปรุงแก้ไขไปในทางที่ดีขึ้นแล้วครับ ขอปรบมือให้หน่อย


 

อันดับ 5 Bioware เอาใจแฟนจนเกมเสีย


    สมัยก่อนค่าย Bioware ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดค่ายผู้สร้างสรรค์เกมสวมบทบาทหรือ RPG ที่มีเนื้อเรื่องลุ่มลึก ซับซ้อน น่าติดตาม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป Bioware เดินทางมาถึงยุคใหม่ด้วยสุดยอดเกม RPG Sci-fi อย่าง Mass Effect หรือ Classic RPG อย่าง Dragon Age ฐานแฟนเกมของค่ายที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับความเอาใจใส่ในการรับฟังข้อเรียกร้องของแฟนๆ มากจนเกินพอดี จนสุดท้ายเกมยุคหลังของ Bioware เริ่มศูนย์เสีย “ตัวตน” ของตัวละครไป


 

อันดับ 4 Bethesda บั๊กตรึม


    เรียกได้ว่าเป็นลายเซ็นประจำตัวไปแล้วกับผลงานจากค่าย Bethesda ที่ไม่ว่าจะออกเกมใหม่มาตอนไหนเมื่อไหร่ก็เป็นอันรู้กันดีในหมู่นักเล่นเกมว่าเตรียมตัวเตรียมใจพบกับมหกรรมแมลงฝูงใหญ่ได้เลย อาจเป็นด้วยขนาดของเกมแนว Open World ที่มีขนาดใหญ่ทำให้เกมของ Bethesa มักเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดทั้งเล็กๆ ไปจนถึงระดับทำเอาเกมเล่นไม่ได้ แล้วแต่บุญ กรรมที่เคยทำมาของผู้เล่นแต่ล่ะคนว่าจะเจอมากน้อยขนาดไหน ขนาดแม้แต่การ Patch เกมในแต่ละครั้งผู้เล่นยังต้องมานั่งลุ้นว่าจะมี Bug ใหม่แถมมากับ Patch ด้วยรึเปล่า


 

อันดับ 3 Activision เผาเกมแบบรายปี


     Call of Duty ของค่าย Activision นั้นกระหน่ำออกเกมมาทรมานกระเป๋าเหล่าผู้เล่นแบบต่อเนื่อง ผลร้ายที่ตามมาคือ เกมที่วนเวียนอยู่แต่รูปแบบเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซีรีส์อย่าง Call of Duty ที่ขายดิบขายดีติดอันดับโลก ออกสู่ตลาดแบบปีต่อปี เริ่มมีมาตรฐานที่ลดน้อยถอยลงและเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าไม่ได้นำเสนออะไรใหม่ๆ การป้อนเกมสู่ตลาดเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งการหยุดพักมองหาไอเดียเจ๋งๆ หรือใช้เวลาที่นานขึ้นแต่ได้เกมที่ยอดเยี่ยมสุดๆ มาแทน น่าจะเป็นอะไรที่กว่านะ


 

อันดับ 2 Valve เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

    มีศัพท์ที่คนในวงการเกมพีซีรู้จักกันดีที่เกี่ยวข้องกับสุดยอดค่ายเจ้าของตำนาน Half-Life นั่นก็คือ คำว่า “Valve time” ความหมายของมันถูกใช้ในเชิงล้อเลียน ประมาณว่าหาก Valve บอกจะปล่อยอะไรออกมาวันไหนให้บวกเพิ่มเข้าไปได้เลยอีกหลายเท่า Half-Life ทั้งสองภาคถูกเลื่อนออกไปแบบข้ามปี ส่วน Team Fortress 2 นั้น Valve ออกมาบอกครั้งแรกว่า “อีกไม่นาน” ตั้งแต่ปี 1998 ก่อนจะเลื่อนมาเป็นก่อนปี 2005 ขณะที่ตัวเกมออกสู่ตลาดจริงๆ ในปี 2007 Half-Life 3 นี่คงไม่ต้องพูดถึง


 

อันดับ 1 Blizzard นานจนมีหลาน เกมก็ยังไม่ออก

    จาก Starcraft ภาคแรกออกเมื่อ 1998 จนถึง Starcraft Remastered ที่ใช้เวลาเดินทางยาวนานถึง 19 ปี และ  Diablo 1 ไปยัง Diablo III: Reaper of Souls ก็ไปอีก 18 ปี ถ้าเป็นเด็กก็ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่ม ถ้าจากหนุ่มก็ป่านนี้ลูก 3 เมีย 2 แต่ก็ให้อภัยได้ เพราะพวกเขาต่างพัฒนาเกมออกมาได้สุดยอดทุกเกมอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานหน่อยก็ตามนะ 555+

ที่มา: นิตยสาร Future Gamer

แชร์เรื่องนี้:
Jack Vai
About the Author

Jack Vai

กองบรรณาธิการ Online Station ที่ชื่นชอบเกมแนว Action RPG

เรื่องที่คุณอาจสนใจ