เผย 7 เกมโปรดในดวงใจ ของผู้กำกับเกมสุดอินดี้ Nier Automata !

หลังจากที่ได้ทำการสร้างปรากฏการครั้งใหญ่ให้กับวงการเกมด้วยการเปิดตัวผลงานเกมแอ็คชั่นสุดแนวอย่าง Nier : Automata , Drakengard และล่าสุดกับผลงานการกำกับเกมมือถือ SINoALICE   ก็มีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักผู้กำกับสุดอินดี้อย่าง Yoko Taro บุรุษผู้สร้างตำนานให้กับวงการผู้กำกับเกมในญี่ปุ่น มาในวันนี้เขาก็ได้มาเผยชื่อเกมที่เขาชื่นชอบพร้อมกับความเห็นต่อตัวเกมแต่ละเกม “จริงๆตอนแรกผมโดนบอกให้เขียนคอมเมนต์สั้นๆ แค่1-2บรรทัดนะ แต่ก็ช่างมันเถอะ” Yoko Taro กล่าวก่อนเริ่มเขียนบทความ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีเกมอะไรบ้างนะที่ทำให้ผู้กำกับสุดอินดี้คนนี้ปลื้มปริ่มได้!

1.Resogun

Resogun


2.Final Fantasy XV

“ตอนที่โปรเจ็กท์ NIER Gestalt/Replicant กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสร้าง เกมนี้ก็ถูกเรียกในชื่อของ Versus XIII บอกเลยว่าตอนนั้นผมโคตรกังวล ‘Versus XIII เป็นเกม Action RPG สินะ… แบบนี้ไม่ดีแน่ถ้า NIER วางจำหน่ายเวลาใกล้ๆ กันกับ Versus XIII’ แต่ในเวลาอีกไม่นาน NIER ก็ถูกวางจำหน่ายอย่างไม่ต้องกังวลอะไรกับ Versus XIII แต่ในตอนที่ผมกำลังสร้าง Drakengard 3 ความกังวลนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ‘แย่แน่ ถ้าเกิด Drakengard 3 วางจำหน่ายใกล้ๆ กับ Versus XIII’ แต่โคตรเดจาวูเลยครับ Drakengard 3 ก็วางจำหน่ายแบบไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น และแล้วในระหว่างที่ผมผกำลังทำ NieR : Automata ความกังวลนี่ก็กลับมาอีกครั้ง”

“พอมาลองคิดดูดีๆ แล้ว เหมือนกับผมติดอยู่ในคำสาป Versus XIII มาตลอด 10 ปีเลยครับ… แต่ก็นั่นล่ะทั้งตัวเกม ทั้งเนื้อเรื่องเกมที่ใช้เวลาเป็น 10 ปี ในการพัฒนาและดำเนินการสร้าง มีเอกลักษณ์และความไม่เหมือนใครที่ไหนทำให้ผมรู้สึกสนุกไปกับมันมากเลยล่ะ อีกสิ่งที่ทำให้ผมคาดไม่ถึงเลยคือความหลงใหลในอาหาร เครื่องดื่มในตัวเกมล่ะ Final Fantasy นี่เจ๋งชะมัด”


3.Horizon Zero Dawn

“สิ่งแรกที่ผมคิดหลังได้เริ่มเกมนี้คือ “เป็นโลกที่มีทัศนียภาพงดงามจริงๆ” ผมคิดมาตลอดนะว่าเกมของฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสมจริงมากกว่าศิลปะและความงาม แต่เกมนี้กลับทำให้ผมต้องตกตะลึงไปกับโลกที่เต็มไปด้วยจินตการที่เกมนี้ได้สร้างขึ้น บอกเลยครับว่าคาดไม่ถึงมากๆ ผมรีบสั่งพรีออเดอร์เกมนี้ทันทีที่มันวางจำหน่ายเลยล่ะ! ผมเคยคิดนะว่า ทีมงาน Guerilla Games ทำผมหลงใหลไปกับงานอาร์ตและกราฟิกเขาตั้งแต่เกม Killzone แล้วมันสุดยอดมากเลยว่าไหมครับ? จะว่าไปวันวางจำหน่ายเกมนี้เองก็ห่างจาก NieR : Automata แค่สัปดาห์เดียวเองนี่นะ ผมเคยคิดนะว่าผมจะต้องตายแหงๆ แล้วผมก็ตายจริงๆ (ทำไมผมถึงเอาแต่พูดถึงวันจำหน่ายเกมกันนะ…) “


4.Gravity Rush / Gravity Rush 2

“เกมนี้วางจำหน่ายบน Vita แต่ต้องบอกเลยว่าผมรู้สึกแปลกๆ กับสภาพแวดล้อมและสถานที่ในตัวเกมนิดๆ ทั้งๆที่เกมนี้สร้างขึ้นในญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนั้นทั้งระบบการควบคุมแบบไม่เหมือนใคร และกราฟิกสไตล์การ์ตูนแต่ไม่ได้เน้นไปที่ความ ‘โมเอะ’ ผมรู้สึกว่าในระยะหลังเกมแนวตะวันตก ถูกแบ่งออกเป็นสองขั้วใหญ่ ถ้าไม่อยู่ในระดับ AAA ไปเลยก็คงจะเป็นอินดี้ไปเลย ซึ่ง Gravity Rush กลับอยู่ในสมดุลของสองขั้วนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยล่ะ” “จะว่าไปผมเคยออกไปดื่มกับ Keiichiro Toyama  ผู้กำกับเกมนี้ด้วยนะแต่ภาพตอนที่เขาเมานี่มันอดทำให้คิดไม่ได้จริงๆ นะว่า ‘ทำไมเกมนี้ถึงสร้างมาจากคนแบบนี้ได้เนี่ย…’”


5.Danganronpa series

“เกมที่หาความปกติไม่ได้ เกมที่คุณจะต้องฆ่าคนผ่านศาลในชั้นเรียน Danganronpa ในขณะที่ตัวเกมเป็นแนว 2D ระบบเกมถูกเน้นไปที่บทสนทนาและการคลี่คลายปริศนาที่ถูกซ่อนไว้ในบทสนทนา แต่นั่นก็สามารถทำให้คุณหลงใหลไปกับตัวเกมได้ไม่ยาก สิ่งแวดล้อมต่างๆ ของตัวเกมสรรสร้างบรรยากาศและความตื่นเต้นจนผู้เล่นสามารถคล้อยตามไปกับอารมณ์ของตัวเกมได้ จะว่าไปผมเองก็เคยไปดื่มกับคุณ Kazutaka Kodaka ผู้เขียนบทของเกมนี้เหมือนกันนะ ตอนที่ผมสบตาเขา ผมรู้สึกได้ถึงความระแวงในตัวเขาที่มีต่อทุกๆ คนรอบตัวเขา และนั่นทำให้ผมคิดว่า ‘อา สมแล้วล่ะที่เขาจะเป็นคนสร้างโลกอันบ้าคลั่งอย่าง Danganronpa ขึ้นมาน่ะ’


6.Life is Strange

“ก่อนหน้านี้เคยมีเกมที่ใช้ชื่อว่า Remember Me วางจำหน่ายบน PS3 มาก่อน ซึ่งผมต้องยอมรับว่ามันเป็นเกมที่มีความเป็นศิลปะที่งดงามที่สุดในความคิดผม นั่นทำให้ผมสนใจในทีมงานที่สร้างเกมนั้นซึ่งก็คือ DONTNOD Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทจากฝรั่งเศส และหลังจากนั้นไม่นานบริษัทนี้ก็วางจำหน่ายเกมใหม่ออกมา ทำให้ผมอดสนใจไม่ได้ แต่สิ่งแรกที่ผมคิดหลังเห็นตัวเกมคือ ‘อะ อะไรเนี่ย!? กราฟิกนี่มันโคตรต่างกับเกมที่แล้วเลยนะ!?’ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมพบกับ Life is Strange เกมที่อย่างกับเหรียญคนละด้านกับ Remember Me ซึ่งตัวเกมนั้นเกี่ยวกับชีวิตในโรงเรียนของเมืองอันเงียบสงบ ตัวเกมนั้นทำออกมาได้ดีมากเลยนะ เรื่องราวต่างๆ มากมายที่กระจายอยู่ไปทั่ว ความทรงจำเล็กๆ ของพวกวัยรุ่นที่เติมแต่งตัวเกมให้สมบูรณ์ ทุกสิ่งถูกกำหนดให้อยู่ในขอบเขตการแสดงออกของผู้เล่น เหตุการณ์ต่างๆ จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้เล่นได้แสดงออกด้วยนั่นเอง เอ้อ จะว่าไปเมื่อไหร่ Remember Me จะมีแปลญี่ปุ่นสักทีอ่ะ?


7.The Last Guardian

“ก่อนอื่นผมขอบอกเลยนะว่า ผมรอเกมนี้มาเจ็ดปี เจ็ดปี! ผมโคตรหลงรักงานของคุณ Fumito Ueda เลยล่ะ ผมรอจนคิดว่าจะไม่ได้เล่นแล้วหลังจากที่รอมาจนถึงเจ็ดปีนับแต่วันที่เกมถูกประกาศตัว! แต่นั่นทำให้ผมยิ่งหลงรักเกมนี้เข้าไปอีก ฉากจบที่งดงามนั่น ทุกๆ สิ่งมันงดงามลงตัวไปหมดเนื้อเรื่องของเกมเองก็ไม่แพ้กัน มันงดงามอย่างกับอัญมณีเลยนะ! และนี่คือเกมที่ผมกล้าพูดเลยว่ามีความสุขที่สุดที่ได้เล่นหลังจากมีชีวิตมา!”


ก็หมดไปแล้วนะคะ กับเจ็ดเกมโปรดของคุณ Yoko Taro มีเกมไหนที่เพื่อนๆ คุ้นเคยบ้างไหมเอ่ย บางเกมนี่รีวิวจนน่าลองไปหามาเล่นมั่งเลยนะเนี่ย! เพื่อนๆ คิดเห็นกันยังไงกับเกมที่ว่ามานี้บ้างคะ แสดงความคิดเห็นกันมาเลย!

ที่มาบทความ : blog.us.playstation

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้