ภาพยนตร์จากเกม ฝันร้ายของวงการฮอลลีวู้ดที่ปัจจุบันยังไม่เห็นแสงแห่งความสำเร็จที่ชัดเจนเสียที ภาพยนตร์จากเกมหลายๆ เรื่องอาจจะไม่ขาดทุน แต่บางเรื่องก็เจ็บหนักจนหมอไม่รับเย็บเลยก็มี
และบทความนี้จะพาเพื่อนๆ รู้จักกับภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมซึ่งทำรายได้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาจำนวน 10 เรื่อง เรามาดูกันครับว่าแต่ละเรื่องจะทำรายได้เยอะขนาดไหนกันแน่
--------------------------------------------------------------
10. Resident Evil: Extinction
ทุนสร้าง: 45 ล้านเหรียญ
US Box Office: 50 ล้านเหรียญ
Extinction เป็นภาคที่เคยบอกว่าจะเป็นภาคปิดฉากของภาพยนตร์ Resident Evil เวอร์ชั่นคนแสดง ด้วยการใส่เรื่องราวของโลกหลังถูกเชื้อไวรัสถล่มจนล่มสลาย การใส่ประเด็นของพลังจิตเข้าไปอย่างเต็มตัว ทำให้แนวทางของภาพยนตร์เปลี่ยนสุดขั้วไปจาก 2 ภาคก่อน รวมถึงชื่อเสียงที่สะสมมาของซีรีส์ Resident Evil จึงทำให้รายรับในประเทศของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในระดับพอคืนทุนได้ แต่สำหรับตลาดต่างประเทศแล้ว Resident Evil: Extinction กวาดรายได้รวมทั่วโลกไปสูงถึง 148 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
--------------------------------------------------------------
9. Resident Evil: Apocalypse
ทุนสร้าง: 45 ล้านเหรียญ
US Box Office: 51 ล้านเหรียญ
ภาคที่ 2 ของภาพยนตร์ซีรีส์ Resident Evil ซึ่งถูกยกให้เป็นภาคที่เอาใจแฟนๆ จากเกมมากที่สุด ทั้งการให้เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นที่ Raccoon City รวมถึงการใส่วายร้ายที่น่าจดจำของเกมอย่าง Nemesis เข้ามา ทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์เพียงภาคเดียวที่ไม่หลุดคอนเซ็ปต์ของเกมไปไกลเกินนัก (แม้ว่าตอนท้ายจะออกทะเลไปสุดกู่ก็เถอะ) ขณะเดียวกัน รายรับรวมทั่วโลกของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่ 129 ล้านเหรียญ ถือน้อยกว่าภาค 3 อยู่นิดหน่อย
--------------------------------------------------------------
8. Assassin's Creed
ทุนสร้าง: 125 ล้านเหรียญ
US Box Office: 54 ล้านเหรียญ
ภาพยนตร์จากเกมเรือธงของ Ubisoft ที่มีดาราดังระดับ Michael Fassbender มาแสดง แถมยังได้รับการโปรโมทจากทีมสร้างว่ามันจะเป็นภาพยนตร์จากเกมที่ปฏิวัติวงการทั้งหมด แต่แล้วก็กลิ้งตกเหวกันไปยกขบวน เพราะภาพยนตร์ล้มเหลวทั้งรายรับและคำวิจารณ์ จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ยังยืนยันข้อพิสูจน์เดิมอยู่ว่าหากมีการสร้างภาพยนตร์จากเกมก็ยังยากที่จะประสบความสำเร็จ แม้ว่ารายได้ทั่วโลกจะพุ่งแตะถึง 240 ล้านเหรียญ พอทำให้ทีมงานเจ็บตัวน้อยลงหน่อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาพยนตร์มีภาคต่อได้อีก
--------------------------------------------------------------
7. Resident Evil: Afterlife
ทุนสร้าง: 60 ล้านเหรียญ
US Box Office: 60 ล้านเหรียญ
ภาพยนตร์ภาคที่ 4 ของซีรีส์ Resident Evil ที่ชูจุดเด่นใหญ่คือการนำระบบ 3D เข้ามาใช้ในภาพยนตร์ซีรีส์นี้เป็นครั้งแรก โดยโฆษณาว่าเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่อง Avatar ซึ่งเนื่องจากภาพยนตร์ได้ฉายในช่วงที่กระแส 3D กำลังร้อนแรงมาก จึงทำให้มันทำรายได้ในอเมริกาสูงถึง 60 ล้านเหรียญ กลายเป็นภาคที่ทำเงินมากที่สุดในซีรีส์ นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังทำเงินถล่มทลายในตลาดต่างประเทศ โดยกวาดรายได้ไปมากถึง 300 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
--------------------------------------------------------------
6. Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life
ทุนสร้าง: 95 ล้านเหรียญ
US Box Office: 65 ล้านเหรียญ
ภาพยนตร์ภาคต่อของซีรีส์ Tomb Raider จากฝีมือการแสดงโดย Angelina Jolie ที่หลังจากภาพยนตร์ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงทำให้โปรเจ็กต์ภาคต่อเกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่ภาคนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด เพราะทำรายได้ไปเพียงแค่ 65 ล้านเหรียญเท่านั้น ส่วนยอดทั่วโลกก็ทำไปเพียง 156 ล้านเหรียญ สุดท้าย Tomb Raider เวอร์ชั่น Angelina Jolie จึงต้องปิดฉากไปอย่างน่าเสียดาย
--------------------------------------------------------------
5. Mortal Kombat
ทุนสร้าง: 18 ล้านเหรียญ
US Box Office: 70 ล้านเหรียญ
ภาพยนตร์จากเกมต่อสู้ชื่อดังสุดโหดอย่าง Mortal Kombat ที่ตัวภาพยนตร์กลับลดความดิบเถื่อนลงไปจนแฟนเกมหลายคนแอบเซ็ง นี่ถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมแล้วประสบความสำเร็จอย่างจริงจังเรื่องแรก โดยกวาดรายได้ไปมากถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยอดรวมทั้งโลกอยู่ที่ 122 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กระทั่งทำให้มีภาคต่อขึ้นมาแต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า จนโปรเจ็กต์ภาพยนตร์จากเกมซีรีส์นี้ถูกฝังกลบและยังไม่คืนชีพอีกเลย
--------------------------------------------------------------
4. Pokemon: The First Movie
ทุนสร้าง: 30 ล้านเหรียญ
US Box Office: 85 ล้านเหรียญ
ภาพยนตร์จากประเทศญี่ปุ่นเพียงเรื่องเดียวที่ติดอันดับรอบนี้ กับแอนิเมชั่นจากเกม Pokemon ซึ่งภาพยนตร์มาในช่วงที่กระแส Pokemon ฮิตระเบิดเถิดเทิงไปทั่วอเมริกาทั้งเกมและอนิเมะ จนทำเงินภายในอเมริกาไปมากถึง 85 ล้านเหรียญ และรายได้ทั่วโลกถึง 163 ล้านเหรียญ แต่น่าเสียดายที่หลังจากภาคนี้เป็นต้นมา Pokemon The Movie ก็ไม่เคยทำรายได้ถล่มทลายขนาดนี้อีกเลย
--------------------------------------------------------------
3. Prince of Persia: The Sands of Time
ทุนสร้าง: 200 ล้านเหรียญ
US Box Office: 90 ล้านเหรียญ
โปรเจ็กต์ยักษ์จากเกมของค่าย Ubisoft ที่นำแฟรนไชส์เกมระดับตำนานมาทำภาพยนตร์ โดยร่วมมือกับทาง Disney ในการปั้นโปรเจ็กต์ให้ยิ่งใหญ่อลังการพร้อมได้ดาราอย่าง Jake Gyllenhaal มารับบทนำ แถมคำวิจารณ์ของภาพยนตร์ก็อยู่ในระดับใช้ได้อีกด้วย แต่ว่าภาพยนตร์กลับไม่ทำเงินอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง เรียกว่าเจ็บปวดแบบชนิดเอาผ้าพันแผลมาปิดยังไม่ไหว ยังดีที่รายได้ทั่วโลก 336 ล้านเหรียญ ยังพอให้ภาพยนตร์หลุดพ้นคำว่าขาดทุนได้ แต่ก็คงไม่เพียงพอให้มันมีภาคต่อ
--------------------------------------------------------------
2. The Angry Birds Movie
ทุนสร้าง: 73 ล้านเหรียญ
US Box Office: 107 ล้านเหรียญ
นี่คือภาพยนตร์ที่ทำมาเพื่อสนับสนุนความดังของซีรีส์ Angry Birds แบบเน้นๆ แต่ว่าใช้เวลาพัฒนานานไปหน่อยจนกระแสของเกมไม่สามารถยืนระยะรอจนภาพยนตร์ถ่ายทำเสร็จสิ้นได้ แม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมีเสียงวิจารณ์ในระดับโอเค (แม้หลายคนจะรับไม่ได้กับดีไซน์ที่นกมีขา) และยอดรายรับก็พอเห็นกำไร แต่ว่าหลายๆ ฝ่ายรู้สึกผิดหวังที่หนังไม่ได้ฮิตเปรี้ยงอย่างที่หวังเอาไว้ โครงการภาคต่อจึงยังเป็นฝุ่นอยู่จนถึงปัจจุบัน
--------------------------------------------------------------
1. Lara Croft: Tomb Raider
ทุนสร้าง: 115 ล้านเหรียญ
US Box Office: 131 ล้านเหรียญ
ปิดท้ายด้วยภาพยนตร์จากเกมที่พอจะพูดว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงได้อีกเรื่องหนึ่ง กับเกมสาวทรงโตผจญภัยทำลายโบราณสถานที่รับบทโดย Angelina Jolie และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้เธอกลายเป็นแอ็กชั่นสตาร์อีกคนของวงการฮอลลีวู้ดอีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ปังจนต้องสร้างภาคต่อและเจ๊งไปในเวลาต่อมา แต่ถึงกระนั้นมันก็ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยบอกว่า ภาพยนตร์ที่ทำจากเกมไม่จำเป็นว่าต้องเจ๊งเสมอไป รวมถึงยังเป็นภาพยนตร์ที่คุณจะได้เห็น Angelina Jolie ในยุคที่เธอบู๊สุดมันส์ปนเซ็กซี่อีกต่างหาก
--------------------------------------------------------------
สำหรับเรื่องอื่นที่น่าสนใจก็เช่น Warcraft ที่ทำเงินไป 47 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 160 ล้านเหรียญ, Silent Hill ที่ทำเงินไป 46 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 50 ล้านเหรียญ, Need for Speed ทำเงินไป 43 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 66 ล้านเหรียญ, Street Fighter ทำเงินไป 33 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญ, Final Fantasy: The Spirits Within ทำเงินไป 32 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 137 ล้านเหรียญ (ทำให้ค่าย Square เกือบเจ๊งด้วย) ตัวเลขเหล่านี้ล้วนบอกว่า ภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมแล้วประสบความสำเร็จนั้นยังมีอยู่น้อยนัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะมีเพชรเม็ดงานที่ช่วยให้ภาพยนตร์จากเกมกลายมาเป็นแสงสว่างที่ชัดเจนมากกว่านี้
ข้อมูลจาก Box Office Mojo / IMDB