11 ร่องรอยที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือนโลก

แชร์เรื่องนี้:
11 ร่องรอยที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือนโลก

     มนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริงหรือไม่คงไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ มีเพียงสิ่งปลูกสร้างหรือร่องรอยแปลกประหลาดต่างๆ มากมายที่ถูกทิ้งไว้บนโลกเมื่อหลายพันปีก่อน ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้เทคโนโลยีในยุคนั้นสร้างขึ้นมา และในปัจจุบันนั้นสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้ 100% ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่ามีร่องรอยอะไรกันบ้างที่ทำให้เชื่อได้ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นเคยมาเยือนโลกของเรา

1. Chichen Itza 

     หากเพื่อนๆ ที่เคยได้ชมภาพยนตร์เรื่อง เอเลี่ยน ปะทะ พรีเดเตอร์ ในภาคเเรกนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่ามีอยู่ฉากหนึ่งที่มีพีระมิดทรงหัวตัดอยู่และมันใช้สำหรับจอดยานของเจ้าพรีเดเตอร์ ซึ่งเจ้าพีระมิดนี้มันมีจริงๆ ครับ

     มันเป็นแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยชาวมายาในเขตวัฒนธรรมเมโสอเมริกัน ตั้งอยู่ในคาบสมุทรยูกาตัง รัฐยูกาตัง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก ชีเชนอิตซาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองจำนวนมากมายซึ่งพวกมายาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้าผู้ทรงกระหายพระโลหิต

     ทั้งนี้ก็ทำให้ตัวผู้เขียนเองอดคิดไม่ได้ว่าพีระมิดของชาวมายานี้มันถูกสร้างเพื่อนเป็นฐานไว้ลงจอดยานของผู้มาเยือนจากนอกโลกรึป่าว


2. Crop Circles

     ครอ ปเซอร์เคิล เป็นเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ ซึ่งได้เกิดการล้มของพืชทางการเกษตรเป็นรูปทรงต่างๆ เมื่อมองจากมุมสูงจะพบเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อน สวยงาม

     นอกจากนี้มีปรากฏการณ์แปลกๆ ก่อนที่จะเปิดการล้มของพืชที่ชาวบ้านปลูกมากมาย เช่น มีลูกบอลเรืองแสง ในบางครั้งมีลำแสงพุ่งลงมายังท้องทุ่ง และต้นพืชที่ล้มลงนั้นจะไม่หัก แต่จะงอไปทางขวาอย่างเป็นระเบียบ

     โดยถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1678 ที่เฮิร์ทฟอร์ดเชียร์ อังกฤษ และในทศวรรษที่ 1980  ได้มีการค้นพบครอปเซอร์เคิลมากขึ้นไปทั่วโลก และยังไม่มีทฤษฎีที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร หรือมันจะเป็นร่องรอยของการลงจอดของยานมนุษย์ต่างดาวกันแน่นะ


3. Stonehenge

     สโตน  เฮนจ์นั้นเป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ โดยตั้งอยู่กลางทุ่งราบในบริเวณเมืองซัลลิสเบอรี่ มณฑลวิลไซร์ ประเทศอังกฤษ มันประกอบไปด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ถึง 112 ก้อน

     ซึ่งตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง หินบางแท่งตั้งขึ้น บางแท่งอยู่ในแนวนอน  และบางแท่งก็ถูกวางซ้อนต่อกันขึ้นไปข้างบน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างแน่ชัด โดยมันมีอายุมากถึงเมื่อ 5,000 ปีที่เลยทีเดียว

     หากเรามองย้อนกลับไป 5,000 ปีที่แล้ว หินหนัก 30 ตันพวกนี้มันถูกขนย้ายขึ้นมาบนเกาะได้อย่างไรกันและที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ ในบริเวณที่ราบดังกล่าวไม่มีหินขนาดใหญ่นี้อยู่มาก่อน หรือมันอาจจะเป็นการสร้างของมนุษย์ต่างดาวก็เป็นได้


4. Pyramids of Giza

     พีระมิด สิ่งก่อสร้างใหญ่โตมโหฬาร พีระมิดที่เรารู้จักมากที่สุดคงหนีไม่พ้นที่อียิปต์ แต่จริงๆ แล้วพีระมิดถูกสร้างขึ้นจำนวนมากมายกระจายไปทั่วโลก เช่นในเม็กซิโก กรีซ จีน และไม่น่าเชื่อว่าคนโบราณบนโลกจะมีความคิดที่เหมือนกัน เพราะในสมัยโบราณยังไม่มีการเดินทางไปมาหาสู่กันสะดวกสบายเหมือนตอนนี้ การถ่ายทอดวัฒนธรรมจึงเป็นเรื่องยาก

     แต่พีระมิดก็เกิดขึ้นแทบจะทั่วโลก  สิ่งที่น่าทึ่งคือเทคโนโลยีการตัดหิน การเคลื่อนย้ายก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งมันหนักถึงก้อนละ 2 ตันครึ่ง และในบางก้อนหนักถึง 16 ตันเลยทีเดียว ทั้งนี้หินถูกนำเอามาซ้อนกันขึ้นไปเป็นทรงกรวย ซึ่งมีข้อพิสูจน์ที่ว่าพีระมิดแห่งกีซาทั้งสามหันไปทางเข็มขัดโอไรออนซึ่ง

 

     เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของมนุษย์ต่างดาวที่เคยมาเยือนโลกในสมัยโบราณ แต่มันเป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้น โดยมีตำนานเล่าว่า นานมาแล้วนักบินอวกาศจากดาวอื่นได้มาถึงโลกของเรา และปักหลักอยู่อาศัย ได้พบปะมนุษย์โลก และถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆให้ซึ่งเกิดการตีความกันไปในหลายทางว่า พีระมิดนั้นเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ ในขณะที่บางคนก็บอกว่าเป็นจุดสังเกตสำหรับยานอวกาศเวลาขึ้นลงนั้นเอง


5. Area 51

     แอเรีย 51 นั้นตั้งอยู่ในกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาด้า และอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1958 เป็นพื้นที่ลึกลับที่สุดเพราะเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้คนนอกเข้าเด็ดขาด อีกทั้งยังมีการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด ซึ่งทางการสหรัฐออกมาบอกว่าพื้นที่นี้เป็นเพียงสถานที่ทดสอบอาวุธหรือเครื่องบินรบรุ่นใหม่ของสหรัฐเท่านั้น

     แต่มีหลายคนบอกว่าอาจเป็นฐานทัพของมนุษย์ต่างดาวหรือเป็นสถานที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว เพราะมีชาวบ้านหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นวัตถุบินลึกลับหรือ UFO บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้ง จนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ แอเรีย 51 นั้นต้องมีอะไรมากกว่าสถานที่ทดสอบอาวุธหรือเครื่องบินรบแน่นอน

การขนย้ายวัตถุอะไรบ้างอย่างเข้าไปใน แอเรีย 51


6. Ancient Cave

     เป็นที่น่าแปลกใจมากเมื่อสถานที่ตามถ้ำโบราณหลายแห่งทั่วโลกนั้น มีการวาดรูปศิลปะที่มีลักษณะแปลกประหลาดซึ่งภาพวาดเหล่านั้น ต่างสื่อถึงสิ่งเดียวกันคือมนุษย์ที่ตาหน้าประหลาดโดยมีขนาดตัวเล็กมีศีรษะใหญ่และสวมชุดที่มีหมวกครอบศีรษะหรือแม้กระทั่งมีภาพวาดวัตถุคล้ายจานบิน

     ซึ่งอายุราวหลายพันปี สิ่งเหล่านี้ชวนให้เชื่อว่ามนุษย์สมัยก่อนเคยติดต่อกับเทพเจ้า หรือผู้ที่มาจากฟากฟ้า และสิ่งที่น่าแปลกคือภาพเขียนเหล่านี้มีปรากฏอยู่ทั่วโลก


7. The Bermuda Triangle

     เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานสำหรับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา อาณาเขตลึกลับที่ปัจจุบันยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเหตุใดทุกสิ่งที่ผ่านไปบริเวณนั้นจึงได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร้องรอย นักวิทยาศาสตร์ นักสมุทรวิทยา และผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ต่างก็พยายามพิสูจน์และหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น โดยหนึ่งในทฤษฎีที่ใช้อธิบายได้ก็คือ

     เป็นไปได้ว่าอาจมีมนุษย์ต่างดาวหรือมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรบริเวณนั้น ต้องการยเรือหรือเครื่องบิน และสิ่งมีชีวิตลงไปใต้มหาสมุทรเพื่อศึกษาหรือทดลองอะไรบางอย่าง ทั้งนี้ข้อสันนิษฐานนี้ก็สอดคล้องกับรายงานที่ว่ามีผู้พบเห็นจานบินลึกลับร่อนไปร่อนมาเหนือสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีทฤษฎีที่ออกมาหักล้างของนักวิทยาศาสตร์ต่างๆ มากมายทั้งนี้ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป


8. Easter Island

     เกาะอีสเตอร์นั้นอยู่ในเขตมหาสมุทรแปซิฟิคประเทศชิลี เกาะอีสเตอร์นั้นเป็นเกาะปริศนาที่โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทร ซึ่งมีความแปลกประหลาดมาก เพราะมันมีรูปสลักหินลึกลับขนาดมหึมากว่า 800 รูป เรียงรายอยู่เต็มเกาะโดยที่ไม่มีคนอยู่อาศัยเลย

     มีผู้อธิบายว่าเป็ฝีมือของชาวพื้นเมือง โพลีนีเซียน ที่เข้ามาตั้งรกรากในปี ค.ศ. 400 แต่ด้วยวิวัฒนาการในอดีตนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะลากหินหนัก 75 ตัน ขี้นมาบนชายฝั่งได้ และสิ่งที่น่าสังเกตคือมันถูกสร้างมาเพื่ออะไร หรืออาจเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มนุษย์ต่างดาวสร้างไว้ก็เป็นได้


     แซคไซวามาน คือ กำแพงหินประหลาดที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ในแต่ละก้อนมีความมากสูงกว่า 6 เมตรและมีความยาวสูงสุด 400 เมตร โดยมีการคาดการณ์ว่าสร้างในช่วงปี ค.ศ. 900-1200 ความน่าทึ่งของมันก็คือ

     หินในแต่ละก้อนนั้นถูกตัดอย่างปราณีตราวกับตัดด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ส่วนมากเชื่อว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการจากผู้รุกราน แต่คำถามก็คือ วิธีการสร้าง และการขนย้ายหินปูนหนักราว 200 ตัน มายังหุบเขานั้น ผู้คนในสมัยนั้นเค้าทำกันได้อย่างไรกันหรือพวกเขาได้รับการช่วยจากมนุษย์ต่างดาวกันนะ


      ลายเส้นลึกลับกลางทะเลทรายนาซคาในประเทศเปรูนั้น ลักษณะของมันคือมีการวาดเน้นอย่างจงใจและประณีต โดยขนาดใหญ่โตถึง 200 เมตรและรูปทั้งหมดครอบคลุมเพื้นที่กว่า 500 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งมีตั้งแต่ภาพวาดแบบเรียบง่ายอย่างรูปทรงเรขาคณิตทั่วไป จนถึงภาพสัตว์ประเภทต่างๆ ทั้งนก ปลาวาฬ ลิง แมงมุม นกฮัมมิ่งเบิร์ด 

     ซึ่งคาดการณ์ว่ามีอายุประมาณ 100 ปีก่อนคริสตกาล ถึงแม้จะเป็นลายเส้นง่ายๆ แต่ต้องใช้เวลา และการวางแผนอย่างมาก เพราะจะต้องมองในมุมสูงเพื่อให้วาดออกมาได้ถูกต่ำแหน่ง ซึ่งในยุคนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองจากมุมสูงขนาดนั้นได้ และในบางเส้นลากยาวไปไกลพาดข้ามภูเขา ปัจจุบันยังคงเป็นปริศนาว่า เหตุใดชาวนาซคาจึงต้องทุ่มเทวาดภาพสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาทั้งๆ ที่ตัวเองไม่อาจมองเห็นได้ หรือมันอาจเป็นการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก


สิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นหลอดไฟในสมัยโบราณ

     ภายในวิหารเดนเดราของชาวไอยคุปต์ประเทศอียิปต์ ได้ปรากฏภาพสลักของสิ่งที่ไม่น่าจะมีได้มันคือ หลอดไฟฟ้า นั้นเองโดยทั้งๆ ที่กว่ามนุษย์จะมีหลอดไฟใช้ได้นั้น ก็เมื่อโธมัส อัลวา เอดิสัน เขาค้นพบเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้เอง

จะสังเกตุได้ว่าไม่มีรอยคราบเขม่าเลยแม้แต่น้อย

     ซึ่งในภาพสลักยังมีรูปของที่มีความคล้ายคลึงกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอีกด้วย สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ยังไปสอดคล้องกับเรื่องที่ภายในพีระมิดนั้นไม่มีคราบเขม่าควันไฟใดๆ เลย ทั้งที่ภายในมืดสนิทและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแกะสลักในความมืดหรือพงกเขาจะมีไฟฟ้าจริงๆนะ


เรียบเรียงจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Chichen_Itza
https://en.wikipedia.org/wiki/Crop_circle
https://en.wikipedia.org/wiki/Stonehenge
https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Pyramid_of_Giza
https://en.wikipedia.org/wiki/Area_51
http://www.messagetoeagle.com/10-mysterious-ancient-caves-that-could-re-write-history/
https://en.wikipedia.org/wiki/Bermuda_Triangle
https://en.wikipedia.org/wiki/Easter_Island
https://en.wikipedia.org/wiki/Saksaywaman
https://en.wikipedia.org/wiki/Nazca_Lines
https://en.wikipedia.org/wiki/Dendera_Temple_complex

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ