[รีวิว] Nintendo Switch คอนโซลพลิกโฉมตัวใหม่จากปู่นิน

แชร์เรื่องนี้:
[รีวิว] Nintendo Switch คอนโซลพลิกโฉมตัวใหม่จากปู่นิน

    ในที่สุดก็ถึงวันที่หลายคนรอคอยกันเสียทีกับการวางจำหน่ายเครื่องคอนโซลตัวใหม่ล่าสุดจากปู่นินกับเครื่อง Nintendo Switch ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คงได้เป็นเจ้าของกันแล้ว แน่นอนว่าทีมงาน Online Station เองก็ไม่พลาดเช่นกันครับ ส่วนใครที่กำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะถอยดีหรือไม่ดีนั้นอาจจะใช้รีวิวตัวนี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้บ้างไม่มากก็น้อย ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้าเครื่อง Nintendo Switch ที่หลายคนฮือฮาจะเป็นอย่างไร

    สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากไปถอยมาจากร้านแล้วก็คือการแกะกล่องนั่นเองครับ เรามาดูกันว่าในกล่อง Nintendo Switch ตอนนี้ จะมีอะไรมาให้เรากันบ้างครับ

- ตัวคอนโซล Nintendo Switch
- Joycon 2 อัน
- Joycon Grip
- ตัว Dock เชื่อมต่อ
- สาย HDMI 1 เส้น
- สายชาร์จหม้อแปลง 1 ชุด
- ตัวครอบจอยพร้อมสายคล้องมือ

    มาดูตัวเครื่องกันก่อนครับ ตัวเครื่อง Nintendo Switch มาพร้อมกับจอบนเครื่องขนาด 6.2 นิ้ว ที่ความละเอียด 1280x720 น้ำหนักตัวเครื่องผมถือว่ากลางๆ ไม่เบาแต่ก็ไม่หนักจนเกินไปครับ ด้านบนจะมีที่เสียบรูหูฟัง 3.5 ที่ใส่การ์ดเกม ปุ่มปิด/เปิดเครื่องกับปุ่มปรับเสียงครับ ส่วนด้านล่างของเครื่องจะมีรูป USB Type C ครับ ซึ่งเอาไว้เสียบกับตัว Dock ครับ ดังนั้นการชาร์จเครื่องพื้นฐานตอนนี้จะต้องเสียบ Dock เท่านั้น (แต่นางมีสแตนด์แยกมาขายนะฮะท่านผู้ชม) และสิ่งที่ผมว่าห่วยมากสำหรับตัวเครื่องและแย่ที่สุดเลยก็คือขาตั้งครับ นอกจากจะมีแค่ขาเดียวแล้วเนี่ยะ (ทำสองขาไม่ได้หรอ) ยังดูก๋องแก๋งมากจนผมรู้สึกว่าถ้าเอาออกมากางใช้ไม่กี่ครั้งก็คงจะเจ๊งหรือหักได้เลยทีเดียว แลดูเป็นจุดอ่อนที่คงต้องลองใช้ไปซักพักครับว่ามันจะทนกว่าที่เห็นหรือไม่

    ทางด้านของ Joycon ทั้ง 2 ฝั่งบางจุดมีการทำงานที่แยกกันอย่างชัดเจนอย่างเช่นปุ่ม + - หรือปุ่มขึ้น ลง ซ้าย ขวา A B X Y เป็นต้น แต่ที่เป็นประเด็นกันเลยก็คือตัวจอยเองเล็กจนหลายคนรู้สึกไม่ถนัด ผมก็เป็นอีกคนนึงที่คอนเฟิร์มว่าถ้าแยกตัวจอยออกมาถือ มันจะเล็กมากสำหรับคนมือใหญ่ครับ แม้กระทั่งต่อตัว Grip แล้วก็ยังถือว่าเล็กกว่าจอยทั่วไปอยู่ดี ส่วนเรื่องวัสดุของจอยผมถือว่าพอใช้ได้ครับ มันอาจจะดูเป็นพลาสติกแต่ก็ไม่ได้ดูแย่มากนัก ลูกเล่นจอยมีเยอะมากมายทั้ง Gyro ,Motion เป็นที่สแกน Amiibo ได้ และเรื่องซิงค์จอยที่ดูเหมือนตอนแรกจะมีปัญหา คาดว่าอัพเดตเมื่อเช้านี้จะออกมาแก้ไขให้แล้วเพราะที่ผมเทสต์มาตั้งแต่เช้าก็ยังไม่พบปัญหาอะไรครับ อ้อ ตัว Grip ที่แถมมาจะไม่สามารถชาร์จจอยได้นะ ต้องซื้อแยกต่างหากอีกแบบหนึ่ง

   ด้านการทำงานของตัว Dock ผมถือว่าเจ๋งมากครับ การสลับเข้าจอทีวี และการถอดออกมาเล่นในรูปแบบ Handheld ถือว่าต่อเนื่องทันที สามารถเล่นต่อได้เลยโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมครับ ต้องบอกว่าเป็นจุดที่ผมชอบมากจริงๆ และนับว่าเป็นจุดเด่นของเจ้าเครื่อง Nintendo Switch เลย ผมลองเล่น Zelda บนจอทีวีอยู่ พอออกไปข้างนอกก็แค่เอาจอยเสียบข้างเครื่องแล้วยกออกก็เล่นต่อได้เลย ภาพก็ขึ้นทันทีด้วย ส่วนเรื่องภาพที่ขึ้นจอ TV สามารถเลือกเป็น 1080p ได้ครับผม ซึ่งก็จะได้ภาพในเกมที่สวยขึ้นกว่าที่เล่นแบบ Handheld ด้วย แต่(อีกแล้ว) วัสดุและสัมผัสเจ้าตัว Dock นี่ดูพลาสติกโง่ๆ ไม่น้อยเลยเช่นกัน

    เรื่องแบตเตอร์รี่ของเครื่องนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพเกมที่เล่นครับ ถ้าเล่นเกมใช้กราฟิกโหดๆ อาจจะอยู่ได้ 2 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ถ้านับแค่เปิด Standby จะอยู่ได้ใกล้เคียงกับ PSVITA ครับ ราวๆ 5 ชั่วโมงนิดๆ ซึ่งอยู่ในระดับที่ผมพึงพอใจถ้าเทียบกับคุณภาพเกมที่ได้ อาจจะต้องพก Power Bank ติดตัวไว้หากอยากพกไปเล่นข้างนอกแบบเกิน 2 ชั่วโมงครับ

    สรุปโดยรวมของตัวเครื่องนั้น Nintendo Switch ทำออกมาได้พลิกโฉมคอนโซลด้วยการสามารถพกไปเล่นนอกสถานที่ได้ หรือจะเล่นต่อกับทีวีก็ได้ ไหนจะลูกเล่นของเจ้า Joycon ต่างๆ มากมาย ที่มาพร้อมกับตัวเกมทดสอบประสิทธิภาพระบบแบบจัดเต็มอย่าง 1-2 Switch แถมตัวจอยก็สามารถแยกเล่นสองข้างแบบไม่ต้องใส่ Grip ก็ได้ นับว่าเป็นแนวทางที่ชัดเจนของทาง Nintendo มากครับกับการนำเสนอวิธีการเล่นและสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้เล่น มากกว่ากราฟิกสวยงาม ข้อเสียใหญ่ๆ ตอนนี้ที่ผมแอบเห้ออยู่ก็คือบางส่วน วัสดุค่อนข้างดูแย่ๆ ไปหน่อยครับ ดูไม่ทนทาน ดูจะพังได้ง่าย และไตเติ้ลเกมใหญ่ถ้าไม่ได้คิดจะเล่นเกม Zelda: Breath of the Wild หรือไม่อยากเล่นเกมปาร์ตี้อย่าง 1-2 Switch ก็ไม่มีเกมอะไรดึงดูดให้ซื้อมาเล่นเลยครับ อย่างน้อยก็ต้องรอเกือบ 2 เดือนกว่าจะมี Mario Kart ออกมาให้เล่นกัน ดังนั้นถ้าไม่รีบไม่ร้อนอะไร รอให้มีเกมที่อยากเล่นออกก่อนแล้วค่อยซื้อก็ได้ แถมตอนนี้ยังไม่มีขายเครื่องเปล่าแยกด้วยครับ ส่วนเรื่องของอุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็ไหลออก

**ถ้าลองคิดราคาเครื่องเปล่าแยกจากบันเดิ้ลมาก็จะอยู่ราวๆ 13,000 ครับ ถือว่าไม่แพงถ้านับจากการปล่อยเครื่อง Day1 ของหลายๆ เครื่อง

สรุปโดยรวมของ Nintendo Switch
คะแนน 7.5/10

ข้อดี

- Joycon มีลูกเล่นเยอะมากจนไม่คิดว่าจะอยู่ในจอยเล็กๆ นี้
- การเปลี่ยนโหมดการเล่นระหว่าง TV ไป Handheld ทำได้ดีมาก
- ถ้าเทียบราคา Day 1 กับลูกเล่นที่ได้ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
- เป็นเครื่องเล่นเกม Zelda ที่ดี

ข้อเสีย

- วัสดุบางส่วนดูน่าจะใช้งานได้ไม่นาน อาจพังง่าย
- จอยอาจจะเล็กไปสำหรับคนมือใหญ่ และหลายคนคงจับกันไม่ถนัด
- ตัว Grip คิดว่ามันวางแคบไป ชาร์จก็ไม่ได้ ต้องมาซื้อแยก
- การต่อ Wi-fi ตอนเสียบ Dock มีปัญหาเชื่อมต่อยาก (ไม่รู้เป็นเฉพาะเครื่องหรือเปล่า)
- เกมไตเติ้ลที่ดึงดูดให้ซื้อ ณ วันแรกที่วางจำหน่ายหลักๆ มีแค่ Zelda เอง เกมก็ออกมาน้อยด้วย
- การชาร์จเครื่อง + จอย ที่ถ้าหากซื้อมาแค่เครื่อง คุณจะต้องชาร์จผ่าน Dock เท่านั้น ขัดอารมณ์การเล่นยิ่งนัก
- เจ้าพ่อขายอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก หากคุณอยากได้อารมณ์เต็มที่ ของเต็มสูบหน่อยก็มี 20,000+

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ