ถ้าคุณพ่อคุณแม่หรือคุณแฟนของคุณผู้อ่านเดินเข้ามาถามระหว่างกำลังตีดอทในเกม DotA 2 ยิกๆ หรือกำลังสาดกระสุนอย่างเมามันส์ใน CoD ภาคใหม่ว่า “ที่นั่งเล่นทั้งวันทั้งคืนเนี่ย ได้ประโยชน์อะไรกับชีวิตบ้างไหม” เพื่อนๆ คงจะนั่งอ้ำอึ้งไปพักหนึ่งและพยายามสาธยาย (แถ) ว่าการเล่นเกมมันดีอย่างนู้นอย่างนี้นะ ประมาณว่ามันทั้งสนุกและช่วยคลายเครียดด้วยนะ สุดท้ายก็ต้องยอมนั่งนิ่งให้เขาบ่นไปตามระเบียบ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมครับว่าจริงๆ แล้วการเล่นวิดีโอเกมมีประโยชน์มากกว่าที่คิดนะ ถ้าไม่เชื่อผมก็เชื่อบรรดานักวิทยาศาสตร์ทั้งไทยและเทศละกัน เพราะพวกเขาได้พิสูจน์กันมาแล้ว
"ประเด็นแรกๆ ที่พวกเขาให้ความสนใจกันก็คือการเล่นวิดีโอเกมมีผลกับทักษะด้านการรับรู้ของเกมเมอร์หรือไม่"
โดยในปี ค.ศ. 2013 คุณ Adam Chie-Ming Oei และ Michael Donald Patterson ได้ทำการทดลองเรื่องนี้กับนักศึกษาจำนวน 70 คน ซึ่งไม่ได้เป็นคนที่เล่นเกมเป็นประจำในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 5 กลุ่ม และให้เล่นวิดีโอเกมชนิดต่างๆ บนอุปกรณ์ iOS ไล่ตั้งแต่แนวแอ็คชั่น, จดจำตำแหน่ง, จับคู่ 3, หาวัตถุที่ถูกซ่อน และเกมซิมูเลชั่นจำลองชีวิต กลุ่มตัวอย่างทุกคนเล่นเกมวันละ 1 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 20 วัน
ซึ่งหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาทดลอง นักวิจัยทั้งสองพบว่าวิดีโอเกมชนิดต่างๆ สามารถช่วยพัฒนาทักษะด้านการรับรู้ได้แตกต่างกันไป เช่น เกมแอ็คชั่นจะช่วยเรื่องความจำด้านการควบคุมการรับรู้และการติดตามวัตถุหลายชิ้นพร้อมๆ กัน ในขณะที่เกมแนวหาวัตถุที่ถูกซ่อนจะช่วยพัฒนาการจดจำตำแหน่งของวัตถุ เป็นต้น
สรุปสั้นๆ ได้ว่าวิดีโอเกมสามารถนำไปใช้ฟื้นฟูทักษะการรับรู้หรือฝึกฝนทักษะการทำงานได้ ถ้าหากทักษะพื้นฐานของงานนั้นๆ เป็นลักษณะเดียวกับในเกม
นอกจากนี้ในปีเดียวกัน ดร. Andrea Facoetti กับทีมงานยังพบว่าการเล่นวิดีโอเกมแนวแอ็คชั่นสามารถช่วยพัฒนาทักษะด้านการอ่านให้กับเด็กพิเศษที่มีอาการของโรค Dyslexia (อาการผิดปกติที่ทำให้มีปัญหาด้านการอ่านและการตีความ) ได้ด้วย
เคล็ดลับความมหัศจรรย์ของเรื่องนี้น่าจะมาจากการที่เกมแอ็คชั่นส่วนใหญ่มักจะมีวัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว (เช่น ทหารข้าศึก เอเลี่ยน ซอมบี้ เป็นต้น) และผู้เล่นมักจะต้องพบกับช่วงเวลาคับขันที่ต้องคิดต้องทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน (เช่น ยิงศัตรูไปด้วยโยกหลบกระสุนไปด้วย หรือฟัน หลบ และออกคอมโบชุดใหญ่ใส่ปีศาจในคราเดียว) ผลก็คือมันช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของสมองส่วนหนึ่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งสมองส่วนนั้นช่วยด้านการจดจำภาพและการเก็บข้อมูลจากสภาพแวดล้อม
สรุปคือเกมแอ็คชั่นช่วยให้กลุ่มเด็กพิเศษเขาเรียนรู้วิธีจดจ่อความสนใจของตัวเองได้ดีขึ้น และมันมีผลโดยตรงกับความสามารถด้านการอ่านนั่นเอง
ในบ้านเราก็มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์จากการเล่นวิดีโอเกมด้วยนะครับ โดยคุณ Yupawan Baines ได้ทดลองใช้วิดีโอเกมพัฒนาความรู้ด้านคำศัพท์อังกฤษในหมู่เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2-3 ของโรงเรียนเพลินพัฒนาเมื่อปี 2013 เธอได้แบ่งเด็กนักเรียนออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเรียนภาษาอังกฤษโดยมีภาพประกอบแบบทั่วไป ส่วนกลุ่มที่สองเรียนโดยการเล่นวิดีโอเกมที่ชื่อว่า 'Fun English Vocabulary'
หลังการทดลอง เธอพบว่าคะแนนเฉลี่ยผลสอบภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนกลุ่มที่สองสูงขึ้นเป็นอย่างมากหากเทียบกับคะแนนเฉลี่ยผลสอบก่อนการทดลอง และพอจะสรุปได้ว่าการใช้วิดีโอเกมเป็นสื่อการสอนช่วยให้เด็กจำคำศัพท์ได้มากขึ้นรวมทั้งทำให้พวกเขามีทัศนคติที่ดีกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วย
อย่างไรก็ตาม วิดีโอเกมก็ส่งผลด้านลบกับชีวิตได้ถ้าไม่รู้จักแบ่งเวลาเล่นให้ดี อย่าติดเกมงอมแงมจนเสียงาน เสียการเรียน หรือถึงขั้นเสียแฟนนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าทีมงานไม่เตือน หุหุ
เรื่อง: SorawisJ
ที่มา: นิตยสาร Future Gamer ฉบับที่ 229