เปิดประเด็น ''เกมควรมีในบ้านหรือไม่'' เมื่อมันไม่ใช่สิ่งไกลตัวอีกต่อไป

แชร์เรื่องนี้:
เปิดประเด็น ''เกมควรมีในบ้านหรือไม่''  เมื่อมันไม่ใช่สิ่งไกลตัวอีกต่อไป

เกม เด็ก ผู้ใหญ่ ความขัดแย้งตลอดกาล HARD TALK #2

จากประเด็นดราม่าเกี่ยวกับ เกม ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้  เข้าใจดีว่าเกมเมอร์และคนเล่นเกมหลายๆ คนได้อ่าน และได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งก็ส่งผลไปยังเพจใหญ่ๆ หลายเพจ แม้กระทั่งเพจของคุณหมอหลายท่านเองก็ยังได้มาออกความคิดเห็นส่วนนี้กัน  ทางทีมงาน Onlilne Station เอง ในฐานะที่คร่ำหวอดอยู่กับเกม บ้านของทุกคนมีเกม อดไม่ได้ที่จะมาพูดคุยประเด็นนี้กันค่ะ

•เกมมีประโยชน์หรือโทษกันแน่?
เราต้องยอมรับว่า ทุกสิ่งมีทั้งประโยชน์และโทษค่ะ ปัญหาเด็กติดเกมเองนั้นมีจริง ติดถึงขั้นไม่เรียนไม่ทำการบ้านเอาแต่หมกมุ่นอยู่หน้าจอ ขโมยเงินพ่อเงินแม่ไปเล่นเกม  แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็ใช้เกมสร้างแรงบันดาลใจ สร้างรายได้ ดังที่เห็นในปัจจุบันไม่ว่าจะการแข่งเกมชิงเงินรางวัล การแคสเกมลงยูทูป การแข่งสร้างเกมในระดับประเทศและระดับโลก รวมไปถึงการร่ำเรียนภาษาเพื่อเข้าถึงเนื้อหาเกมที่ตัวเองชื่นชอบ และแน่นอนว่าทีมงาน Onlilne Station  เองมาอยู่ร่วมกันเป็นทีมสร้างสรรค์คอนเท้นต์ต่างๆ เกี่ยวกับเกมได้ก็เพราะรักและเล่นเกมมาเช่นกันค่ะ

ฉะนั้นเกมจะมีโทษหรือมีประโยชน์ ก็ขึ้นกับตัวบุคคลและสภาพแวดล้อม เราอาจจะต้องทบทวนตัวเองว่า เราเล่นไปเพื่ออะไร? ถ้าเพื่อแค่ผ่อนคลายก็ไม่ควรหมกมุ่น ข้าวปลาไม่กินไม่หลับไม่นอนงานการไม่ทำ อันนี้ก็จะเกินคำว่าผ่อนคลายไปไกลโข แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่า เล่นไปเพื่ออะไร?  เช่น เล่นเพื่อฝึกภาษา ก็ต้องทำให้เห็นได้ชัดว่า เราเล่นเพื่อสิ่งนั้นจริงๆ วางดิกไว้ใกล้ตัว สงสัยคำไหนเปิดดูศึกษาดู จดไว้  ทำบทสรุปเนื้อเรื่องออกมา เอาไปลงบล็อคฝึกทักษะการเขียนของตัวเองได้อีกทาง

สำคัญก็คือ เราต้องควบคุมการเล่นเกมของเราได้แล้วเกมจะไม่ใช่ภัยร้ายที่ต้องเกรงกลัวกัน

•ควรมีเกมในบ้านหรือเปล่า?
จริงๆ แล้วเป็นเรื่องการจัดการของแต่ละบ้านจริงๆ  ที่จะประเมินข้อดีข้อเสีย ประเมินเด็กในบ้าน และวิธีการแก้ปัญหาแน่นอนว่าเด็กวัยก่อนสองขวบ เกมย่อมมีโทษต่อเขาไม่ว่าเกมจะเป็นแนวไหน แต่กับเด็กวัยประถม เกมที่เหมาะสมกับเพศและวัยของเขาก็อาจจะช่วยฝึกทักษะต่างๆของเขาได้  อันนี้อยู่ที่แต่ละบ้านต้องเลือกเองแล้วว่า จะให้เขาเล่นเกมไหม? แล้วให้เล่นแนวไหน  เป็นไปได้ควรเลือกเกมให้เขาเล่น และเล่นไปกับเขาเพื่อดูว่าเขาได้ประโยชน์จริงๆ หรือไม่จากเกมนั้นๆ  

แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ "วินัย" ในการจัดการเวลาการเล่นให้กับเด็กในบ้านค่ะ  ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการที่ไม่จริงจังในการสร้างวินัย หรือปล่อยให้ลูกเล่นโดยไม่สอนวิธีการควบคุม ทั้งควบคุมเวลาการเล่น และการที่เด็กจะควบคุมตัวเองต่อการเล่นนั้นๆ  ถ้าบ้านไหนที่จริงจัง (และยืดหยุ่นได้บ้าง) กับการสร้างวินัย การเล่นเกมก็จะเหมือนสิ่งที่มาเสริมความสนุกของบ้าน  ซึ่งก็อาจจะสลับสับเปลี่ยนไปกับการเล่นเกมอื่นๆ ที่ไม่ต้องอยู่หน้าจอ เช่นพวกเกมกระดานอย่างหมากฮอล โอเทลโล่ ฯลฯ  เพียงแค่นี้ เกม ก็จะไม่ได้น่ากลัวหรือยิ่งใหญ่เกินไปกว่าปัญหาลูกไม่ยอมแปรงฟันหรือปัญหายิบย่อยอื่นๆ
 

•เกมไม่ใช่สิ่งห่างไกลอีกต่อไป
สิ่งที่ต้องยอมรับอีกอย่างก็คือ จากที่เกมเป็นเรื่องของคนที่มีเงินในการซื้อเครื่องมาเล่น บ้านไหนที่มีเครื่่องเกม เพื่อนๆ ก็จะเฮโลไปสิงไปเล่นกันอยู่ที่นั่น ปัจจุบันเกมนั้นเข้ามาเป็นส่วนนึงของชีวิตประจำวัน แค่คุณมีมือถือสมาร์ทโฟนก็โหลดเกมอะไรต่อมิอะไรมาเล่นได้ไม่รู้จบแล้ว  การที่จะหลีกเลี่ยงไมให้เกมเข้ามาในชีวิตเลยก็ดูจะเป็นทางที่สุดโต่งไป สิ่งที่ควรรู้คือการเรียนรู้ว่า มันคืออะไรและควรรับมือยังไงเสียมากกว่า  

กับเด็กๆ ในบ้าน การเลี้ยงโดยที่ไม่ให้เขาได้มีโอกาสแตะต้องรู้จักสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยง เสี่ยงที่เขาจะไปรู้จักโดยไม่ได้อยู่ในสายตาเรา และติดมันไปจริงๆ เพราะไม่ได้มีใครควบคุม  การให้เขาได้รู้จักและเรียนรู้ที่จะควบคุมและจัดการตัวเองจากสิ่งอันเย้ายวนอย่างเกมนั้น ก็เป็นการท้าทายอย่างนึงที่คนเป็นพ่อแม่จะต้องรับมือและช่วยฝึกลูกให้เขารู้จักที่จะเล่นมันอย่างพอเหมาะพอควร 

•สิ่งที่อยากฝากให้ทุกคนในสังคมลองไปคิดดูสำหรับเรื่องนี้
หากคุณเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง อยากให้ถามตัวเองก่อนว่า
1. คุณอยากให้ลูกของคุณเป็นคนที่แข็งแกร่งพอที่จะอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหรือไม่? 50 ปีที่แล้วโลกไม่รู้จักคำว่าเกม ตอนนี้มีคำว่าเกมเกิดขึ้น อนาคตความบันเทิงรูปแบบอื่นอาจเข้ามาทักทายให้มนุษยชาติได้รู้จัก ลูกของคุณพร้อมไหมกับการรับมือสิ่งเหล่านั้นในวันที่คุณไม่อยู่..เพราะสิ่งเย้ายวนใจที่จะเกิดขึ้นใหม่ๆ ยังเตรียมเข้ามาเป็นบททดสอบอยู่เรื่อยๆ ตลอดชีวิตของคนเรา
2. การปิดกั้นลูกจากทุกสิ่งอย่างที่ตนเอง “ไม่เข้าใจอย่างแท้จริง” อาจไม่ใช่คำตอบเดียวในการแก้ปัญหา ลองคิดหาคำตอบอื่นๆ ดูหน่อยก็ดีเหมือนกัน ต่างครอบครัว ต่างเด็ก ต่างแวดล้อม คำตอบที่เหมาะสมอาจไม่เหมือนกัน

หากคุณเป็นลูกหลานหรือเป็นคนเล่นเกม ก็อยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองเช่นกันว่า
1. วันนี้การเล่นเกมของคุณมันสร้างประโยชน์อะไรให้กับคุณและคนรอบข้างได้ หรือเป็นเพียงการเล่นเอาความสนุกแต่เพียงอย่างเดียว
2. มีเส้นบางๆ ระหว่างคนติดเกมกับคนเล่นเกม คุณรู้หรือไม่ว่าเส้นที่ว่านี้มันคืออะไร? ถ้าคุณรู้คุณอาจเป็นคนที่อยู่ในดินแดนที่เรียกว่าคนเล่นเกมไม่ใช่คนติดเกม

ภาพประกอบจากเว็บไซต์ภาพฟรี https://pixabay.com

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ