Gamespot เว็บไซต์สำนักข่าวเกมชื่อดังแห่งนึงของโลก ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องนึงคือการวิจารณ์เกม โดยหลายๆ คนยอมรับว่าเว็บนี้ถือเป็นอีก 1 สำนักเกมที่คนเชื่อถือด้านคะแนน และมีความโหดในการให้คะแนนพอสมควร ซึ่งในปัจจุบันมีเพียงแค่ 12 เกมเท่านั้นที่สามารถพิชิต 10 คะแนนเต็มจากเว็บไซต์แห่งนี้ได้ เราลองมาไล่ดูกันว่า เกมสุดแข็งแกร่งเกมไหนที่กวาดคะแนนได้ขนาดนี้
1. Uncharted 4: A Thief's End (PS4)
เกมปิดฉากตำนานของ เนธาน เดรค ที่ดึงขุมพลังของ PS4 อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผสมผสานกับการเขียนเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมประทับใจ และสู่บทสรุปที่สวยงามอย่างแท้จริง
2. Metal Gear Solid V: The Phantom Pain (PS3, PS4, Xbox 360, Xbox One, PC)
เกมแห่งดราม่า ซึ่งศึกระหว่าง Hideo Kojima กับ Konami แทบจะสร้างกระแสกลบตัวเกม แม้ว่าปัญหาภายในจะส่งผลให้เกมไม่เสร็จดี แต่ว่าด้วยคุณภาพของเกมเพลย์ที่ออกมากับการเป็นโอเพ่นเวิลด์ครั้งแรกของซีรีส์ มันยอดเยี่ยมมากพอจะทำให้เราพอจะให้อภัยในปัญหาของตัวเกมได้
3. Journey (PS3, PS4)
เกมแนวพัซเซิลที่มีอะไรมากกว่าเกมพัซเซิลทั่วไป ทั้งเรื่องราวที่เล่าออกมาได้น่าติดตาม รวมถึงเพลงประกอบที่แสนไพเราะ แต่สิ่งที่โดดเด่นจนต้องทึ่งคือความสวยงามของการออกแบบและกราฟิก ที่มันพร้อมจะทำให้คนเล่นหวนกลับมาสู่โลกของเกมนี้อีกครั้งเสมอ
4. The Witcher 3: Wild Hunt (PS4, Xbox One, PC)
เกม RPG ที่สามารถใช้คำว่าสมบูรณ์แบบได้อย่างเต็มปาก ทั้งระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยมเร้าใจ โลกที่กว้างใหญ่และสวยงามน่าค้นหา ตลอดจนเควสต์ต่างๆ ของเกมที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองของเรื่องที่ไม่เหมือนเกม RPG เกมอื่น และทำให้การตัดสินใจทุกครั้งของเรามีผลต่อผู้เล่นเสมอ จึงไม่น่าแปลกที่มันจะคว้า 10 คะแนนมาได้
5. Bayonetta 2 (Wii U)
ป้าแม่มดสุดเซ็กซี่ ที่แม้ภาคนี้ผมจะสั้นลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเกมเพลย์จะสนุกน้อยลง มันยังคงไว้ซึ่งแอ็กชั่นที่มีความเร็วและมันส์ ดนตรีเทพ และการดีไซน์ที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย เท่ากับว่ามันเหนือกว่าภาคแรกในทุกส่วนเท่านั้นเอง
6. Super Mario Galaxy 2 (Wii)
รูปแบบการเล่นในแบบ Super Mario Galaxy ก็ถือว่ามันสร้างความแปลกใหม่ในกับซีรีส์ Mario แบบ 3D ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว แต่ว่าในทุกส่วนที่มันดีของภาคแรก มันถูกพัฒนาขึ้นมหาศาลใน Super Mario Galaxy 2 มันจึงเป็นภาคที่โดนใจแฟนๆ แบบสุดขีดกว่าเดิม
7. Metal Gear Solid 4: Guns of the Patriots (PS3)
ภาคปิดฉากเนื้อเรื่องซีรีส์ Metal Gear Solid อย่างสมบูรณ์ แม้ว่ามันจะถูกติอย่างหนักในเรื่องการใส่ฉากเนื้อเรื่องมหาศาลจนกลบเวลาในส่วนของเกมเพลย์ไปเยอะมาก แต่เกมเพลย์และรูปแบบการซ่อนเร้นในเกมแน่นปึก และเล่นสนุก และเนื้อเรื่องที่แม้จะเยอะ แต่ถ้าได้ดูก็พบว่ามันสนุกอย่างมาก
8. Grand Theft Auto IV (PS3, Xbox 360, PC)
นี่คือเกมที่นำเราเข้าสู่การเป็นเกมโอเพ่นเวิลด์ที่พัฒนาไปอีกขั้นอย่างแท้จริง (หมายถึงในยุคที่เกมนี้ออกนะครับ) ทั้งกราฟิก เกมเพลย์ เนื้อหา ที่ทำให้โลกของเกมนี้เหมือนมีชีวิตจริงๆ
9. Tony Hawk's Pro Skater 3
ภาคที่สาวก Tony Hawk ยกย่องที่สุด มันเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ของเกมรวมกัน จนออกมากลายเป็นความสมบูรณ์ที่ลงตัว ที่แม้แต่ภาคหลังๆ นับจากภาคนี้ก็ยังไม่สามารถทำตามได้
10. Chrono Cross
ภาคต่อของ 1 ในเกม RPG ขวัญใจหลายๆ คนอย่าง Chrono Trigger ซึ่งนอกจากระบบของเกมที่เล่นสนุกตามสไตล์เกมแนว JRPG แล้ว จุดเด่นของมันคือการดำเนินเรื่องและเส้นทางการจบเกมที่มีมากมายมหาศาล จนเรากลับมาเล่นได้อีกหลายรอบเลยทีเดียว
11. Soul Calibur
1 ในเกมซีรีส์ Fighting ที่เปิดตัวภาคแรกบนเครื่อง Dreamcast และมันก็สร้างปรากฏการณ์ด้วยระบบการต่อสู้ใช้อาวุธอันโดดเด่น และสมดุลอย่างมาก พร้อมกับด่านที่สร้างสรรค์กว่าการเป็นสนามประลองทั่วไป มันจึงโดนใจคอเกมไฟท์ติ้งทันทีที่วางจำหน่าย
12. The Legend of Zelda: Ocarina of Time
เกมแรกที่ได้รับ 10 คะแนนเต็มจาก Gamespot เกมซีรีส์ Zelda ที่แฟนๆ ยกให้มันเป็นภาคที่ดีที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้ ด้วยการเข้าสู่รูปแบบ 3D ครั้งแรกของเกม แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เดิมของ Zelda พร้อมทั้งพาคนเล่นเข้าสู่ประสบการณ์ใหม่ของซีรีส์อย่างยอดเยี่ยม มันจึงเป็นเกมในตำนานที่ใครมีเครื่อง N64 ต้องซื้อ