วันที่ 13 ธันวาคม 2543 หรือวันนี้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายเกม The Legend of Dragoon บนเครื่อง PS1 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเกมดังกล่าวเป็นเกม RPG ที่พัฒนาโดยทาง Sony เองเพื่อให้เป็นเกม Exclusive สำหรับเครื่อง PS1 ในขณะนั้นที่กำลังเข้าสู่ช่วงปลายเจน PS1 และกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค PS2 พอดี
ทั้งนี้ The Legend of Dragoon นั้นมีจุดเด่นที่ความแปลกใหม่ของด้านเนื้อหา รวมถึงเกมเพลย์ในตอนต่อสู้ที่ผู้เล่นต้องกดปุ่มขณะพุ่งเข้าโจมตีให้ถูกจังหวะเพื่อต่อคอมโบเป็นท่าต่างๆ นอกจากนี้ เมื่อเล่นไปถึงช่วงหนึ่ง ผู้เล่นจะได้รับพลังพิเศษที่สามารถแปลงเป็นนักรบมังกรได้ โดยตัวเอกและพรรคพวกคนอื่นๆ ในปาร์ตี้จะมีพลังมังกรกันคนละสายแตกต่างกันไป
เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเกม The Legend of Dragoon
- เกมนี้ได้รับคำวิจารณ์จากหลายสำนักไปในทางบวก อีกทั้งยังสามารถทำยอดขายไปได้ถึง 960,000 ชุดในทวีปอเมริกาเหนือ และเกือบ 300,000 ชุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักข่าว GamesRadar+ ยังเคยสำทับด้วยว่า The Legend of Dragoon นั้นมีองค์ประกอบหลายอย่างในตัวเกมที่แสดงถึงความเป็นเกม RPG ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านเนื้อเรื่องที่ลุ่มลึก ระบบเกมที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่น แม้ว่าจะยังมือใหม่และไม่เคยสัมผัสแนว RPG มาก่อนก็ยังสนุกเพลิดเพลินไปกับมันได้ และยังมีแนวโน้มที่จะท้าชิงความยิ่งใหญ่ของซีรีส์ Final Fantasy ได้ หากมันได้รับการพัฒนาต่อยอดและสนับสนุนที่ดีพอ ทว่าสุดท้ายก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะเกมนี้ก็ไม่มีการทำภาคต่อออกมาจนถึงทุกวันนี้
- วันที่ 22 ธันวาคม 2553 ทาง Sony ได้วางจำหน่ายเกมนี้แบบดิจิตอลดาวน์โหลดใน PlayStation Store ของเครื่อง PS3 และปล่อยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษตามมาในวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ซึ่งด้วยความนิยมที่ยังไม่เสื่อมคลายจากแฟนๆ ที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน ทำให้เกมนี้ติดอันดับเกมขายดีที่สุดของประเภท PS1 Classic เป็นเวลายาวนานถึง 3 เดือน และยังคงติด 5 อันดับเกมขายดีที่สุดบน PlayStation Store ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาถึง 5 เดือนอีกด้วย
- The Legend of Dragoon เคยมีการทำเป็นมังงะสำหรับจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น โดยผู้วาดคือคุณ Ataru Cagiva ทั้งนี้ เนื้อหาภายในมังงะจะอิงจากเนื้อเรื่องช่วงแผ่นที่ 1 ของเกม แต่ได้มีการแตกไลน์ออกจากพล็อตเรื่องหลักในหลายๆ ส่วน แถมยังตัดเอาตัวละคร ตลอดจนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมออกไปมากมาย ด้วยปัญหาด้านข้อจำกัดของจำนวนหน้าหนังสือ ซ้ำร้ายหนังสือได้ถูกตีพิมพ์เพียงแค่ฉบับแรกฉบับเดียว แถมวางจำหน่ายในปี 2543 เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การดูแลของสำนักพิมพ์ Bros. Comics ซึ่งมังงะจากเกมเรื่องนี้ก็ไม่เคยถูกนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจำหน่ายในอเมริกาเลยนับแต่นั้น