มอง Uncharted 4 แล้วมองย้อนกับแง่มุมของ "ครอบครัว"
ถ้าเพื่อนๆ สังเกตเกม Exclusive ของทาง PlayStation ในช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็นเกม Heavy Rain, The Last of Us และ Uncharted 4 หรือแม้แต่ God of War ภาคใหม่ที่เป็นตำนานนอร์ส คงจะทราบกันดีนะครับว่าเกมที่กล่าวมานี้ไม่ได้มีเพียงแค่กราฟิกและเกมเพลย์ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจราวกับชมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดดีๆ สักเรื่อง หากแต่พล็อตเรื่องก็มีการปรุงแต่งให้มีความลุ่มลึกและเล่ามันออกมาอย่างมีชั้นเชิง อีกทั้งยังแฝงแง่คิดที่ทรงคุณค่าแก่เกมเมอร์อย่างเราๆ ได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะเกม Uncharted 4 ที่เป็นภาคปิดตำนานของพี่ป๋อ เนธาน เดรก ก็ยังมีการพูดถึงประเด็นของครอบครัวไว้อย่างน่าสนใจด้วย ทีมงาน play เลยขอมาเล่าสู่กันฟังหน่อย
ช่วงท้ายเกม Uncharted 4 จะมีอยู่ฉากหนึ่งที่เล่าถึง เนธาน เดรก พระเอกของเกม และ แซม ผู้เป็นพี่ชายของเนธาน โดยทั้งคู่ที่ยังอยู่ในวัยเด็กได้ลักลอบเข้ามาในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ที่เจ้าของคฤหาสน์หลังดังกล่าวได้ทำการซื้อสมบัติชิ้นสุดท้ายของแม่ทั้งสองไป ซึ่งสมบัติชิ้นนั้นก็คือสมุดบันทึกเล่มหนาๆ เพียงเล่มเดียวที่ดูไม่มีค่าอะไรนัก แต่สำหรับเนธานกับแซมแล้ว มันคือของดูต่างหน้าแม่ชิ้นสุดท้ายที่หลงเหลือบนโลกนี้ ทั้งคู่เลยต้องแอบเข้ามาเพื่อขโมยสมุดบันทึกกลับไป ที่ด้านในคฤหาสน์ นอกเหนือจากสมบัติและโบราณวัตถุหายากที่วางประดับเรียงรายอยู่มากมาย เนธานก็พบว่าเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้เป็นหญิงนักล่าสมบัติที่เก่งกาจระดับหาตัวจับยากนามว่า เอฟลิน (Evelyn) โดยเธอสามารถไขว่คว้าหาสมบัติมาครอบครองได้มากมายจนมีชื่อเสียงโด่งดัง และก็ได้พบรักกับชายที่มีความสนใจในด้านเดียวกับเธอ กระทั่งทั้งคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันจนมีพยานรัก 1 คน
ชีวิตของเอฟลินดูแล้วน่าจะกลายมาเป็นสาวติดบ้านอยู่ดูแลครอบครัวที่มีสามีและลูกอย่างอบอุ่น แต่แท้จริงแล้วชีวิตครอบครัวของเธอไม่ได้ราบรื่นเอาเสียเลย อาจจะเป็นเพราะเลือดนักผจญภัยในตัวเอฟลินคงมีมากเกินไป จึงทำให้มีความเห็นไม่ตรงกับสามีอยู่เป็นประจำ ทำให้บ่อยครั้งเธอตัดสินใจเลือกเดินทางไปล่าขุมทรัพย์เพียงลำพังโดยไม่ฟังคำคัดค้านใดๆ สุดท้ายแล้ว เอฟลินกับสามีก็ต้องแยกกันอยู่โดยที่สามีรับหน้าที่ดูแลลูกไป อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงสนุกกับการบุกน้ำลุยไฟในการตามหาขุมทรัพย์ที่อยู่ทุกมุมโลก จนกระทั่งวันที่สามีเสียชีวิตเธอก็ไม่ได้โผล่ไปดูใจ เป็นเหตุให้ลูกชายต้องถึงขนาดเขียนจดหมายมาบอกขอตัดขาดความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกกับเอฟลินกันเลย
ประสบการณ์ของเนธานที่ได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับเอฟลินมันได้กลายเป็นชนวนสำคัญที่เขาฉุกคิดได้ว่า "ครอบครัว" ต้องสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ก่อนหน้าที่จะมีครอบครัวเราอาจจะสำมะเลเทเมา ทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจะมีครอบครัว มีภรรยา หรือมีลูกที่คุณต้องดูแล เมื่อนั้นเราจะรู้เองว่า "ความรับผิดชอบ" มันสำคัญขนาดไหน ซึ่งช่วงกลางเกมเนธานเกือบจะแตกหักกับเอเลน่า ภรรยาของตัวเอง จากการที่เนธานโกหกเธอเพื่อออกมาช่วยแซมล่าสมบัติตามคำขอร้องของพี่ชาย ทั้งๆ ที่ตนเองได้เคยตัดสินใจละทิ้งชีวิตนักล่าสมบัติไว้เบื้องหลังและเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยมีงานสุจริตทำเป็นหลักแหล่ง อีกทั้งเอเลน่าไม่อยากให้เนธานไปพัวพันกับการล่าสมบัติอีก เพราะมันทั้งเสี่ยงชีวิตและเสี่ยงในการสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น
การที่เนธานได้แรงบันดาลใจในการเป็นนักล่าสมบัติจากการลักลอบเข้ามาในคฤหาสน์ของเอฟลิน ตรงนี้อาจมองได้ว่ามันน่าจะเป็นการแสดงความเคารพที่ทีม Naughty Dog มีต่อซีรีส์ Tomb Raider ครับ โดยเปรียบเทียบให้เอฟลินเป็นเหมือน ลาร่า ครอฟต์ ที่เพิ่มเติมแง่มุมของชีวิตครอบครัวที่แตกร้าวเข้าไปให้ดูมีมิติในการนำเสนอ เอฟลินอาจจะเป็นนักผจญภัยระดับตำนานที่ 100 ปีจะมีสักคน แต่เธอก็ไม่ได้เก่งขนาดที่ว่าจัดการปัญหาชีวิตตัวเองได้ทุกอย่าง...ซึ่งก็รวมถึงปัญหาครอบครัวของเธอเอง เมื่อเอฟลินให้เวลากับการผจญภัยที่มากเกินไป ชีวิตครอบครัวของเธอจึงต้องพังทลายลง ขณะเดียวกัน เนธานที่กำลังระหองระแหงกับเอเลน่าในเรื่องคล้ายๆ กัน เขาเองยังมีโอกาสแก้ไข เขายังมีโอกาสรักษาครอบครัวของตัวเองเอาไว้เพื่อจะได้ไม่เป็นอย่างที่เอฟลินเคยผ่านมา
ชีวิตครอบครัวเป็นอะไรที่กว่าจะสร้างขึ้นมาได้ก็ไม่ง่ายครับ ไหนจะต้องหาแฟน ไหนจะมาพิจารณากันอีกว่าเข้ากันได้มั้ย มองเห็นอนาคตร่วมกันมั้ยหากจะแต่งงานกันไป และเมื่อสร้างครอบครัวขึ้นมาแล้ว เราจะรักษามันไว้ได้อย่างไร เพราะบางครั้งการจะได้มาซึ่งความสุขในครอบครัวก็ต้องมีการเสียสละความสุขส่วนตัวกันบ้าง
ดังจะเห็นได้ว่า กลวิธีในการนำเสนอของเกมจากฝั่ง PlayStation ในช่วงหลังๆ จะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นใกล้เคียงกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น อย่าง God of War ภาคใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน E3 2016 ที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าเครโทสดูเป็นคนที่สุขุมกว่าเดิม ไม่เลือดร้อนเหมือนแต่ก่อน และพอเขาได้ชำระแค้นในอดีตหมดแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีลูกชายวัยกำลังโต นี่ก็เป็นความท้าทายอีกอย่างของทีมเขียนบทว่าจะเล่นกับประเด็นอะไรต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปริศนาเรื่องแม่ของลูกคนปัจจุบันของเครโทส หรือกระทั่ง...การค้นหาความหมายของชีวิต
นี่แหละครับเสน่ห์ของวิดีโอเกม ที่นอกจากจะมีคุณค่าเทียบเท่ากับ "ศิลปะ" แล้ว มันยังเป็น "วรรณกรรม" ชิ้นงามให้เราได้เสพและหวนรำลึกเมื่อเวลาผ่านไปด้วย