NES เครื่อง 8-Bit คู่แฝดฝั่งตะวันตกของ Famicom
เกมเมอร์ที่อายุล่วงเลยเข้าเลข 3 แล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่อง Famicom ได้เคยเป็นส่วนหนึ่งในห้วงชีวิตกันมาก่อนในฐานะเครื่องเกม 8-Bit ที่มีเกมระดับตำนานให้พวกเราได้เล่นกันมากมาย ซึ่งเกมเมอร์ในบ้านเราส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกับเครื่อง Famicom ที่เป็นลายสีขาว-แดง มีช่องให้เสียบวางจอยตรงด้านซ้าย-ขวาของเครื่อง และเสียบตลับเกมตรงด้านบน ซึ่งในขณะที่ฝั่งอเมริกาและยุโรปเองก็มีเครื่อง Famicom วางจำหน่ายด้วยเช่นกัน แต่มีการเปลี่ยนชื่อเป็น NES ที่ย่อมาจาก Nintendo Entertainment System พร้อมกับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเครื่องและตลับเกมให้เป็นอีกแบบ โดยในไทยจะมีเกมเมอร์ไม่มากนักที่ได้สัมผัสกับเจ้าเครื่อง NES นี้กัน และเนื่องด้วยโอกาสที่วันที่ 18 ตุลาคมปีนี้เป็นวันครบรอบเครื่อง NES วางจำหน่ายมาแล้ว 31 ปีพอดี ทีมงาน play เลยขอนำเสนอบทความรำลึกถึงเครื่องนี้กันหน่อยครับ
(ล่าง) เปรียบเทียบขนาดของเครื่อง NES และ Famicom
รูปลักษณ์ของ NES ที่แตกต่างจาก Famicom อย่างเห็นได้ชัดก็ได้แก่จอยบังคับ ที่ของ Famicom จะแนบติดมากับตัวเครื่อง แต่ของ NES จะมีช่องเสียบจอยอยู่ด้านหน้าเครื่อง และจอยจะมีขายแยกหากเกิดชำรุด ซึ่งสะดวกและมีทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากกว่าตัว Famicom ส่วนตลับเกมของ NES จะมีขนาดใหญ่และเทอะทะกว่า แต่การใส่ตลับเข้าเครื่องจากเป็นลักษณะช่องแบบมีฝาเปิดแล้วเสียบตลับทางแนวนอน คล้ายกับเครื่องเล่นวิดีโอเทปในสมัยก่อน พร้อมกันนี้เวลาดึงตลับออกของ NES จะใช้เป็นปุ่มกด ต่างจาก Famicom ที่ใช้เป็นตัวเลื่อนดันเข้าหาตลับเพื่อปลดตัวล็อคตลับที่ต้องออกแรงมากกว่า
(ล่าง) เปรียบเทียบขนาดของตลับเกม NES (ซ้าย) และ Famicom (ขวา)
NES (หรือ Famicom ในญี่ปุ่น) เป็นเครื่องเกมคอนโซลในเจนที่ 3 พัฒนาโดย Nintendo ซึ่งในขณะนั้นเครื่อง NES มีคู่แข่งรายใหญ่สุดคือ Master System ที่ผลิตโดย Sega แต่ NES นั้นได้เปรียบและกำชัยชนะในเจนนี้ไปได้เพราะมีเกมที่น่าสนใจให้เลือกมากกว่า ทั้งนี้เรื่องยอดขายของเครื่อง NES ก็พุ่งถล่มทลายด้วยจำนวน 42.56 ล้านเครื่อง โดยมากกว่า Famicom ที่ขายเฉพาะในญี่ปุ่นไปได้ประมาณ 19.35 ล้านเครื่องด้วยกัน และมีเกม Super Mario Bros. หรือมาริโอภาคแรกเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของเครื่องด้วยจำนวน 40.23 ล้านชุด ภายหลังจากที่ Nintendo ปล่อยเครื่องเจนต่อมาอย่าง Super Famicom (หรือ SNES ในโซนอเมริกาและยุโรป) ออกสู่ตลาด ความนิยมของ NES ก็ลดลงไปอย่างอัตโนมัติ ในที่สุด NES ก็ยุติสายการผลิตไปเมื่อ 14 สิงหาคม 2538 สิริรวมอายุได้ 10 ปีพอดี
(ล่าง) ตัวอย่างการใส่ตลับเกมของเครื่อง NES